ฮึด ซ้อม กร่อย! เปิดใจ “กวินทร์” มือกาวซัปโปโร ผจญโควิดในญี่ปุ่น (คลิป)

ทราบกันดีว่า ตอนนี้ “โควิด-19” ระบาดไปทั่วโลก รวมไปถึงญี่ปุ่นด้วย ซึ่งขณะนี้มีตัวเลขคนติดเชื้อมากกว่า 15,000 คนไปแล้ว แถมยังมีการระบาดระลอก 2 ในพื้นที่ฮอกไกโดอีกด้วย

ซึ่งในฮอกไกโดมีสโมสรฟุตบอลชื่อดัง คือ คอนซาโดเล ซัปโปโร โดยมี 2 นักเตะทีมชาติไทยสังกัดอยู่ คือ ตอง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ และ เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ สองนักเตะทีมชาติไทยเล่นอยู่

ท่ามกลางไวรัสโควิด-19 ระบาด ส่งผลให้ “เจลีก” ของญี่ปุ่น ได้เลื่อนการแข่งขันออกไป เดิมคาดว่าจะกลับมาแข่งได้ในปลายเดือนนี้ หรือต้นเดือนหน้า แต่ตอนนี้สถานการณ์เริ่มไม่แน่นอนเสียแล้ว

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “เจ้าตอง” กวินทร์ โกลมือดีทีมช้างศึก ที่เพิ่งถูกทีมซัปโปโรยืมตัวมาจากต้นสังกัดเดิม โอเอช ลูเวิน ลีกรองในเบลเยียม

เปิดใจ “เจ้าตอง” ชีวิตที่พลิกผัน ฮึด ฟิต ซ้อม บางครั้งก็กร่อยๆ หน่อย

ทันทีที่ทีมข่าวฯ ทักทายไป เจ้าตองยิ้มแย้ม พร้อมเล่าถึงความเป็นอยู่และสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดในฮอกไกโดให้ฟังว่า การใช้ชีวิตตอนนี้ต้องเก็บตัวอยู่แต่ในอพาร์ตเมนต์เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ฮอกไกโดยังไม่น่าไว้วางใจ มีการระบาดระลอกที่ 2 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจากข่าวทราบว่า สาเหตุมาจากการปลดล็อกดาวน์เร็วเกินไป มีคนป่วยจากโตเกียวเดินทางเข้ามาในฮอกไกโด

“สิ่งที่ทำตอนนี้ คือพยายามเรียกความฟิต ออกกำลังกายอยู่บ้าน โดยในทุกๆ วันจะมีโค้ชใช้โปรแกรมผ่านแอป “Zoom” โดยแต่ละวันทางสโมสรจะมีกำหนดโปรแกรมการซ้อมร่วมกันผ่านทางวิดีโอคอลล์ เช่น วันนี้เล่นขาเพิ่มความแข็งแรง หรือเน้นเพิ่มพละกำลังส่วนไหน เราก็จะมีการซ้อมกันเป็นกลุ่มบ้าง แต่นอกเหนือจากนั้นก็จะต้องเติมเองให้มากขึ้น”

ชีวิตเปลี่ยนไปขนาดไหน มือกาวทีมชาติไทย อุทานโอ้โห!

“ส่งผลกับชีวิตพอสมควรครับ (อมยิ้ม) ปกติเราลงซ้อมฟุตบอลที่สนาม พอไม่ได้ซ้อมในสนาม ชีวิตก็กร่อยๆ บ้าง..ต้องหาอะไรทำเพื่อชดเชย”

...แต่ละวัน จะวางโปรแกรมไว้ คือ ตื่นเช้ามาจะออกไปวิ่งข้างนอกบ้าง เสร็จแล้วกลับมาเล่นเวทในห้อง ขา กล้ามท้อง แขนบ้าง เรียกว่าทำเท่าที่ได้ เพื่อรักษาสภาพตัวเองให้ดีที่สุด

พิษโควิด เจลีกกระทบหนัก ยังไม่รู้จะกลับมาแข่งขันวันไหน

ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย วัย 30 ปี ที่เพิ่งถูกยืมตัวมาเล่นในญี่ปุ่น ยอมรับว่า เพิ่งได้ย้ายมาอยู่ในญี่ปุ่นเดือนกว่าๆ พอมาแล้วก็เจอโควิด-19 ระบาด ทำให้ต้องหยุดการแข่งขัน ลีกแข่งไม่ได้ ได้รับผลกระทบมาก ทีมต้องแบกภาระค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะภาระเงินเดือนของนักเตะ สปอนเซอร์ก็ขายไม่ได้ เรียกว่ากระทบไปหมด

“ผมเชื่อว่าทุกฝ่ายในประเทศเขาพยายามแก้ปัญหากันอยู่ เพราะเขาอยากให้มันดีขึ้นเร็วๆ จะได้กลับมาแข่งขันปกติ เดือนที่แล้วมีการประเมินว่าจะกลับมาแข่งได้ปลายเดือนพฤษภาคมหรือต้นเดือนมิถุนายน แต่เมื่อเข้าเดือนพฤษภาคมมาแล้ว สถานการณ์ยังไม่ดี ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะกลับมาแข่งได้ทัน เพราะอย่างน้อยๆ ต้องมีเวลาเตรียมทีม 1 เดือนถึงเดือนครึ่ง”

สวัสดิการนักเตะต่างชาติ มีบ้านให้อยู่ มีรถให้ใช้..

เมื่อถามว่า เขาดูแลนักเตะต่างชาติดีขนาดไหน เจ้าตอง เล่าให้ฟังว่า เขาก็ดูแลอย่างดีมาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับสัญญา สำหรับเขา เขามีโอกาสได้เลือกที่อยู่เอง มีรถที่ได้รับมาจากสปอนเซอร์ทีมให้ใช้

“เขาดูแลในสิ่งที่เราจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ถ้าเราขาดส่วนไหน หรือต้องการความช่วยเหลืออะไรก็บอกเขาได้ เพราะเราไม่ได้คุ้นเคยกับสถานที่นี้ ในเรื่องที่พัก รถ เขาจัดเตรียมให้ ซึ่งขึ้นอยู่กับสัญญาของแต่ละคน เช่น ที่พักตรงนี้ของผมเป็นอพาร์ตเมนต์ เขาจะให้ตัวเลือกให้เรา ว่าเราชอบแบบไหน ที่ไหน ในวงเงินนี้”

ไทยสไตล์ติดลูกเกรงใจ ส่งผลต่อฟอร์มในสนาม

เมื่อทีมข่าวฯ ถามว่า ที่ผ่านมาได้เล่นในเบลเยียม ได้เล่นในญี่ปุ่น ความแตกต่างของการซ้อมแต่ละลีกเป็นอย่างไร กวินทร์ ทำหน้าเข้ม วิเคราะห์อย่างจริงจังว่า จุดประสงค์การซ้อมในแต่ละประเทศ เช่น ไทย เบลเยียม หรือญี่ปุ่น นั้นไม่ต่างกันมาก จะหนักหรือเบาขึ้นอยู่ตามโปรแกรมแข่ง หากจะเข้าช่วงปรีซีซั่น การซ้อมจะหนักหน่วงมาก ซึ่งเป็นกันทุกประเทศ

“ที่ผมรู้สึกว่าต่างกัน คือ เรื่องวัฒนธรรม คนไทย จะมีเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้อง มีความเคารพหรือเกรงใจค่อนข้างเยอะ ซึ่งเรื่องนี้ส่งไปถึงเวลาเล่นในสนามได้ไม่เต็มที่ ซึ่งคำว่า “เกรงใจ” ก็เป็นสิ่งสำคัญ แต่..ใช่ว่าเป็นเรื่องไม่ดี แต่ต้องแยกเวลาให้ถูกว่าตอนไหนควรจะเกรงใจ หรือเป็นตัวของตัวเอง”

เบลเยียม ตัดเรื่องนี้ทิ้งไปเลย เพราะเขาไม่มี เขาไม่เกรงใจกันอยู่แล้ว แต่จะให้เกียรติกันมากกว่า พอเป็นงานในสนามทุกคนเท่าเทียมกัน กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องเกรงว่าใครจะคิดยังไง นี่คือข้อแตกต่างที่ทำให้การฝึกซ้อมมีความเข้มข้นสูงกว่า ส่งผลต่อตัวศักยภาพนักเตะ

ขณะที่ญี่ปุ่น ยังมีความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องค่อนข้างเยอะ เนื่องจากเป็นวัฒนธรรมของเค้า แต่เรื่องในสนามเขาก็ตัดตรงนั้นออก กล้าทำในสิ่งที่จะทำ ซึ่งตรงนี้เองเลยมองว่าเป็นตรงกลางระหว่างไทยกับเบลเยียม

เป้าหมายเล่นให้ได้ยาวที่สุด ฝันอยากได้เล่นในสโมสรรัก

สำหรับเป้าหมายชีวิตในทีมชาติ ในสโมสร หรืออาชีพนักฟุตบอล เจ้าตองเอ่ยว่า เราทำในสิ่งที่เรารัก อยากที่จะพัฒนาฝีมือให้ดีกว่าเดิม รักษามาตรฐานร่างกาย ให้เล่นในลีกสูงสุดให้นานที่สุด เป็นเป้าหมายที่วางไว้กับตัวเองให้นานที่สุด แต่ที่สุดแล้วมันมีปัจจัยที่เราควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ เช่น อาการบาดเจ็บ ใจจริงก็อยากจะเล่นให้ได้ถึงอายุ 40 ปี (อีก 10 ปี)

ตอนแรกเล่นในประเทศไทย ก็มีฝันว่าอยากจะเล่นฟุตบอลอาชีพในยุโรป แต่เมื่อปีที่แล้วได้ไปเล่นที่เบลเยียม (โอเอช ลูเวิน) มันทำให้เราคิดต่อยอดไปอีกไกลอีกว่า..

โอ้โห.. เราทำได้แล้ว (ยิ้ม) ซึ่ง โอเอช ลูเวิน มี อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา เป็นเจ้าของ ซึ่งก็เป็นเจ้าของเลสเตอร์ด้วย ใจเราก็อยากฝันที่จะไปเล่นกับเลสเตอร์ พยายามฝ่าฟัน ฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาตัวเอง แต่ถ้าในฝันจริงๆ ครั้งหนึ่งก็อยากจะเล่นกับทีมที่ชื่นชอบตั้งแต่เด็ก อย่าง ลิเวอร์พูล เรอัล มาดริด หรือ บาเยิร์น มิวนิก

“สำหรับ การรับใช้ชาติ ทุกครั้งที่ได้เล่น รู้สึกภูมิใจ ดีใจ อยากพัฒนาตัวเองให้คู่ควรกับการเล่นทีมชาติให้มากที่สุด เราไม่ได้ลงไปทำหน้าที่ในนามตัวเราเอง แต่เราทำหน้าที่ในนามของประเทศไทย เราอยากให้ทุกอย่างมันดี ทำเต็มที่ เล่นทีมชาติให้นานที่สุด”

ทั้งหมดนี้คือ ชีวิต ความเป็นอยู่ของ “กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์” โกลมือดีของทีมชาติไทย ที่อยู่ในช่วงผจญภัยในการค้าแข้งลีกระดับโลก และก่อนจะวางสาย เจ้าตองยังฝากขอบคุณทุกๆ กำลังใจจากแฟนบอลที่ทำให้เขาก้าวมาถึงจุดนี้ และยังพร้อมก้าวไปข้างหน้าต่อไป.

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน