เปิดใจ ดร.สมศักดิ์ ชลาชล ถึงกติกาใหม่ มาตรฐานใหม่ วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ช่างผมไทยและลูกค้า ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 การจะได้ทำมากกว่าตัด สระ ไดร์ หรือต้องถูกสั่งปิด ขึ้นอยู่กับการบริการ 14 วัน พร้อมวอนรัฐเยียวยาผู้ประกอบการ
ตั้งแต่ 3 พ.ค. 63 หลังรัฐฯ ผ่อนปรนให้เปิดร้านทำผม แต่ยังยกเว้นร้านตัดผมในห้างสรรพสินค้า ฟังมาตรฐานใหม่ วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ของช่างผมไทยและลูกค้า ที่ถูกสุขลักษณะตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 จาก ดร.สมศักดิ์ ชลาชล ประธานกรรมการ บริษัท ชลาชล จำกัด และนายกสมาคมวิชาชีพช่างทำผมไทย ช่างผมมืออาชีพชื่อดัง ผู้คร่ำหวอดในวงการช่างผมไทยมากว่า 40 ปี ย้ำเตือนอนาคตช่างผมไทย จะได้ไปต่อหรือต้องถูกสั่งปิด ขึ้นอยู่กับการบริการใน 14 วัน
“จากวันที่ 3 บวกไปอีก 14 วัน 14 วันนี้ หากไม่มีอะไรเลย เขาก็จะอนุญาตให้คุณเพิ่มขึ้น
แต่ถ้าใน 14 วัน หากมีติดเชื้อ หรืออะไรติดต่อในร้านทำผม กลับไปยืนที่เดิมใหม่
ดังนั้น จำไว้เลย เราจะรอดหรือไม่รอด อยู่ที่ 14 วัน จากวันที่เปิด”
...
หลังเกิดวิกฤติโควิดถูกสั่งปิดร้านตั้งแต่ 22 มี.ค. 63 ดร.สมศักดิ์ ชลาชล ในฐานะผู้ประกอบการ และช่างผมกว่า 300 ชีวิตที่อยู่ในความดูแล ได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัสอย่างไร ดร.สมศักดิ์ ชลาชล เปิดใจถึงวิธีให้ความช่วยเหลือพนักงานเพื่อให้พวกเขาอยู่รอดในช่วงโควิด พร้อมทวงถามรัฐบาลถึงการเยียวยาในฐานะผู้ประกอบการที่จ่ายภาษีเต็ม 35%
“เงินประกันสังคมพี่ยังไม่ได้เลย เพราะพี่เป็นผู้ประกอบการ แล้วผู้ประกอบการยังต้องจ่ายค่าเช่า ตรงนี้อยากจะเรียกร้องรัฐบาล หันมาดูแลผู้ประกอบการ ผู้ประกอบการทำเงินให้ภาครัฐเยอะมากนะครับ อย่างในห้าง ร้านของพี่ค่าเช่าเดือนหนึ่งประมาณไม่ต่ำกว่า 4 แสนบาท แล้วในขณะที่เป็นอย่างนี้ บางที่ไม่ลดราคาให้ด้วย อยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยตรงนี้”
แน่นอนว่า หลัง ศบค.คลายล็อกดาวน์ให้เปิด 'ร้านทำผม' ชะตาชีวิตและอนาคตช่างผมไทยยังต้องเจอสภาวะวิกฤติไปอีกสักระยะ เหตุรายได้น้อยลงเพราะทำได้แค่ตัด สระ ไดร์ ซึ่งในความเป็นจริงรายได้หลักๆ คือ การทำเคมี ทำสี ดร.สมศักดิ์ ชลาชล ขอให้ช่างผมอดทนเพื่อความอยู่รอด ให้กำลังใจและแนะช่างผมไทยควรพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เสริมสร้างมาตรฐานวิชาชีพช่างผมไทยให้อยู่ในแถวหน้าของโลก
“อยากฝากช่างทำผมทั่วประเทศ ในฐานะนายกสมาคมวิชาชีพช่างทำผมไทย สถานการณ์คราวนี้มันต้องให้เราเป็น New Normal คิดใหม่ ทำใหม่ แล้วเราต้องเข้าใจว่าเราอย่าอยู่แบบประมาท อยากให้ช่างทำผมทุกคนมีจรรยาบรรณแล้วก็มีหลักฐานในการเป็นช่างทำผมที่แท้จริง แล้วอย่าเปลี่ยนอาชีพกันบ่อย แล้วมาพัฒนาวงการนี้ เชื่อว่าในอนาคตอีกไม่นาน ปี สองปีนี้ หลังจากที่มีวัคซีนมาประเทศไทยหรือเอเชีย จะเป็นที่หนึ่งของโลก คนพวกนี้จะมาใช้บริการ ในภาคบริการ เราจะกลับมาสดใสมาก อยากให้ช่างทำผมเตรียมตัวกับวิกฤติตรงนี้ แล้วพัฒนาตัวเอง พัฒนาฝีมือ พัฒนาร้าน ให้มีความถูกต้องตามมาตรฐาน เพราะอนาคตรับรองว่าเรารุ่งเรืองแน่ครับ”.
ข่าวน่าสนใจ
...