คงต้องบอกว่าตอนนี้ทุกๆ คนทั่วโลกล้วนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลายประเทศ มีผู้เสียชีวิตมากมาย จนไม่มีโลงศพจะเผา

เมื่อหันมาดูประเทศไทย ยังดีที่ตอนนี้เริ่มที่จะคุมสถานการณ์ได้ ด้วยนโยบาย Social Distancing รวมไปถึงการใช้ดาบอาญาสิทธิ์ เคอร์ฟิว บวกกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่..การใช้มาตรการนี้ก็ส่งผลกระทบกับปากท้องของผู้คนในทุกอาชีพ โดยเฉพาะ “คนรับจ้าง” ที่หาเช้ากินค่ำ ที่เห็นเด่นชัดก็ได้แก่ คนขับแท็กซี่ ที่เดือดร้อนอย่างหนัก

“ชินรัตน์ อนุโลม” โชเฟอร์แท็กซี่วัยใกล้เกษียณ อายุ 58 ปี บอกเล่าความลำบากในช่วงนี้ว่า “ตั้งแต่ขับมาตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิเปิดใหม่ (พ.ศ.2545) ช่วงนี้เป็นช่วงลำบากที่สุดในชีวิตเลย บางวันหาเงินได้ไม่กี่ร้อยบาท บางวันไม่มีเงินที่จะส่งค่ารถ น้อยที่สุดในชีวิต คือขับทั้งวันได้ค่ารถ 2 เที่ยว คือ 95 บาท ต้องขอผัดผ่อนเถ้าแก่ ซึ่งยังดีที่เถ้าแก่ก็ใจดี บอกว่ามีเท่าไหร่ก็ให้มาเท่านั้นก่อน”

นายชินรัตน์ อนุโลม แท็กซี่ที่ยังสู้กับอาชีพ
นายชินรัตน์ อนุโลม แท็กซี่ที่ยังสู้กับอาชีพ

...

แรกเริ่มเดิมทีนั้น ลุงแท็กซี่ นั้นไม่ได้เป็นโชเฟอร์ขับรถ แต่ทำงานเทศบาล เป็นพนักงานเก็บขยะ ด้วยที่เป็นคนสู้ชีวิตตั้งแต่เด็ก เปลี่ยนอาชีพมากมาย ทั้งรับจ้าง คนงานก่อสร้าง เรียกว่าทำมาแล้วเกือบทุกอย่าง กระทั่งมาทำงานเทศบาล

ต่อมา เพื่อนก็มาชวนขับแท็กซี่ ซึ่งตอนแรกก็ลองมาเช่าขับดูก่อนวันสองวัน ปรากฏว่ารายได้ดีมาก ตอนนี้แต่ละวันหักแล้วได้เงิน 2,000 - 3,000 บาท

“คุณคิดดูเงิน 2,000 - 3,000 บาทต่อวัน สมัยกว่า 20 ปีที่แล้วมันเยอะขนาดไหน”

ลุงชินรัตน์ หัวเราะเสียงดังลั่นเมื่อนึกถึงสมัยอดีต ก่อนจะเล่าต่อไปว่า คือไม่ต้องคิดอะไรแล้ว ตอนนั้นก็เลยลาออกจากงานเทศบาล ออกมาขับแท็กซี่อย่างเต็มตัวตั้งแต่บัดนั้น จนถึงวันนี้เปลี่ยนแท็กซี่มา 3 คันแล้ว คันที่ขับนี่เป็นคันใหม่ ส่งเงินให้เถ้าแก่เป็นรายวัน ขับคันนี้มาได้ปีกว่าๆ ก็มาเกิดเหตุการณ์โรคระบาดเสียก่อน

“ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว รายได้ผมลดลงเรื่อยๆ พอเข้าเดือนมกราคม รายได้อยู่ที่ 300-500 บาท แบบหักค่าใช้จ่ายแล้ว คือ รวมๆ แล้วเดือนหนึ่งพอมีเงินจ่ายค่างวดรถ 2 หมื่น มีเงินเหลืออีก พอเข้าเดือนกุมภาพันธ์ รายได้ลดฮวบเหลือวันหนึ่ง 200 - 300 บาท พอเข้าเดือนมีนาคมจนถึงปัจจุบันเรียกว่าหนักเลย อย่างที่บอก บางวันหาเงินแทบไม่ได้ อย่างวันนี้ได้แค่ 150 บาท”

ที่สนามบินตอนนี้ก็แทบร้าง โชเฟอร์วัยใกล้เกษียณยอมรับว่าไม่ได้วิ่งเข้าไปสักระยะแล้ว จะวิ่งหาเรื่อยๆ ก็ไม่ไหว ที่ผ่านมา เราก็พยายามหาหนทางอื่นๆ มาหารายได้เสริม ที่ผ่านมาก็รับแกร็บนะ แต่มันก็ได้น้อยลง

เมื่อเร็วๆ นี้ เห็นเคอรี่เปิดให้แท็กซี่ไปส่งพัสดุ มีเพื่อนบางคนไปสมัคร บ้างก็บอกว่าดี บางคนก็บอกว่าไม่ดี ก็กำลังดูๆ อยู่ ยังดีที่ยังพอมีงานรับจ้างเข้ามาบ้าง

“สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือ ทำใจ ยอมรับว่าทุกคนก็ลำบาก เราก็ลำบาก หันไปมองใครๆ ก็ลำบาก และยังมีคนลำบากมากกว่าเราอีก ยังดีที่ตอนนี้เราเหมือนตัวคนเดียว ลูกๆ ก็โตกันหมดแล้ว เราก็ไม่อยากจะไปขอเงินพวกเขา เพราะเห็นว่าพวกเขาก็ลำบากเหมือนกัน คิดว่ายังไงก็ต้องสู้ นอกจากตัวเองแล้วเป็นกำลังใจให้คนอื่นด้วย สิ่งที่คิดอยู่ตอนนี้คือ คิดว่าจะวิ่งไปที่ไหนดี ที่ไหนจะมีคนเรียก คิดเพียงเท่านี้”

เจลล้างมือต้องเตรียมให้ลูกค้า
เจลล้างมือต้องเตรียมให้ลูกค้า

...

งานเราเป็นงานบริการ ช่วงนี้ไวรัสระบาด เราก็ต้องทำรถของเราให้สะอาดที่สุด โดยมีการเตรียมเจลแอลกอฮอล์ให้กับลูกค้า ขึ้นรถมาก็จะถาม ใช้ไหมครับ ถึงแม้มันจะเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมา แต่อย่างน้อยก็ทำให้ลูกค้าเราสบายใจ

นี่เป็นตัวอย่างอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ ถึงแม้ลำบากก็ยังแบ่งปันกำลังใจผู้คน อย่าเพิ่งท้อถอย เราจะต้องผ่านไปให้ได้...

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน