จากปรากฏการณ์ภาพยนตร์แห่งชนชั้น ‘Parasite’ สู่ ‘Crash Landing on You’ ซีรีส์รักโรแมนติกตามแบบฉบับเกาหลีใต้ ที่ทำคนตกหลุมรัก ‘สหายผู้กอง’ กันทั่วเอเชีย ... คำถามที่ตามมา คือ ทำไมถึงปัง? และ ‘เกาหลีเหนือ’ เป็นจริงดั่งฉากในซีรีส์หรือไม่?
ปิดฉากสวยงามสำหรับซีรีส์ Crash Landing on You (사랑의 불시착) หรือชื่อภาษาไทย ‘ปักหมุดรักฉุกเฉิน’ ที่เปิดตอนแรกด้วยเรตติ้ง 6.1% ทะยานสู่ 21.7% ในตอนจบ ขึ้นแท่นอันดับ 1 ซีรีส์เรตติ้งสูงสุดของช่อง tvN ยืนเหนือ Reply1988 (18.8%) และ Goblin (18.7%) สร้างประวัติศาสตร์ซีรีส์ช่องเคเบิลที่มีเรตติ้งสูงสุดอันดับ 2 รองจาก Sky Castle ที่มีเรตติ้ง 23.8%
หากจะมองหาเหตุผลมาหยิบยกประกอบคำตอบของคำถาม "ทำไม Crash Landing on You ถึงปัง?" หนึ่งในเหตุผลแรกๆ คงเป็นเพราะการหยิบยกเรื่องราว "2 ดินแดน" ที่เดิมทีเคยเป็นดินแดนเดียวกัน มาถ่ายทอดผ่านความรักของพระเอกนางเอก ที่นำแสดงโดย ‘ฮยอนบิน’ และ ‘ซน เยจิน’ ดาราแถวหน้าระดับพรีเมียมของวงการ
...
และถ้ามาดูชื่อเสียงเรียงนามของผู้เขียนบทแล้ว ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมซีรีส์ Crash Landing on You ถึงปัง เพราะ ‘พัค จีอึน’ คนนี้ มีเรตติ้งซีรีส์การันตีความสำเร็จมาแล้วมากมาย หนึ่งในนั้นก็ My Love from the Star ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ที่คนไทยติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง จนมีการซื้อลิขสิทธิ์มาทำเป็นเวอร์ชั่นไทย
แต่เหตุผลความปังของซีรีส์ Crash Landing on You ไม่ได้มีแค่นี้ ... ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ‘ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์’ จะพาคุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ถอดความสำเร็จไปพร้อมๆ กัน
• Crash Landing on You ความปังที่ถูกสรรค์สร้างอย่างตั้งใจ
ก่อนจะถอดความสำเร็จของซีรีส์ Crash Landing on You ทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ขอพาย้อนกลับสู่จุดเริ่มต้นของการเกิดเรื่องราวรักโรแมนติก 2 ดินแดน เพื่อทำความเข้าใจกันสักนิด
… ท้องฟ้าที่ดูเหมือนจะปลอดโปร่งเหมาะกับการเล่นร่มร่อน กลับไม่เป็นอย่างที่คิด ‘ยุน เซริ’ นักธุรกิจสาวชาวเกาหลีใต้ ผู้ซึ่งเป็นทายาทมหาเศรษฐีที่เป็นสัดส่วน 1% ของประเทศ ถูกพายุพัดไกลร่วงลงสู่พื้นดินที่ซึ่งถูกเรียกขานว่า DMZ หรือ "เขตปลอดทหาร" ที่เป็นฝั่งการดูแลของเกาหลีเหนือ ทำให้ได้เจอ ‘รี จางฮยอก’ ทหารยศผู้กองชาวเกาหลีเหนือ นำไปสู่การหลบหนี การซุกซ่อน การปกป้อง ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นความรัก...
เริ่มต้น ถอดความสำเร็จซีรีส์ Crash Landing on You
ซีรีส์หลายๆ เรื่องที่ประสบความสำเร็จ หรือแม้แต่ละครไทยเอง ก็มักจะมีประโยคเด็ดโดนใจหรือคำฮิตติดปากที่ทำให้คนพูดถึงต่อเนื่องยาวนานแม้ว่าซีรีส์หรือละครจะจบลงไปแล้วก็ตาม ในเรื่อง Crash Landing on You ก็เช่นกัน คำว่า ‘สหาย’ หรือ ‘สหายผู้กอง’ กลายเป็นคำฮอตฮิตที่คนดูจำได้ขึ้นใจ ซึ่งคำๆ นี้ ถือเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกสถานะของตัวละครเลยก็ว่าได้
อย่างที่บอกว่า ซีรีส์ Crash Landing on You เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวความรัก 2 ดินแดน คือ ‘เกาหลีเหนือ’ และ ‘เกาหลีใต้’ ฉะนั้น จึงมีการหยิบยก ‘ภาษา’ มาเป็นตัวบ่งชี้สถานะสัญชาติของตัวละคร และการใช้คำว่า ‘동지’ (ทงจี) ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า ‘Comrade’ หรือภาษาไทยว่า ‘สหาย’ ก็ดูจะเป็นอะไรที่เห็นความแตกต่างระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่ง
...
หากจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คำว่า ‘สหาย’ ในเกาหลีเหนือ ก็เหมือนคำนำหน้าชื่ออย่าง นาย, นาง, นางสาว หรือ Mr., Mrs. และ Miss ในภาษาอังกฤษนั่นเอง ต่างกับเกาหลีใต้ที่ไม่ใช้คำนำหน้าชื่อ แต่ใช้คำลงท้ายหรือสรรพนามที่บ่งบอกลำดับอาวุโสแทน
แต่ถ้าจะให้ลงลึก การใช้คำว่า ‘동지’ (ทงจี) หรือ ‘สหาย’ ในเกาหลีเหนือ ยังมีรายละเอียดซับซ้อนอีกมาก หากมีโอกาสทีมข่าวเฉพาะกิจฯ จะมาอธิบายให้ได้เข้าใจกันเพิ่มเติม
...
มาต่อกันที่อีกหนึ่งเหตุผลของความสำเร็จ ที่นอกจากพระเอกและนางเอกจะเป็นระดับพรีเมียมแล้ว ตัวละครอื่นๆ ที่เป็นสีสันอย่าง ‘เหล่าสหาย’ ที่อยู่ในสังกัดของพระเอก และกลุ่มแม่บ้านในหมู่บ้านทหารในเกาหลีเหนือ ที่ถ่ายทอดความเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของตัวละครฝั่งเกาหลีเหนือ จนสร้างความประทับใจและกลายเป็นสิ่งที่หากขาดหายไป ซีรีส์ Crash Landing on You ก็อาจจะดูเรียบๆ เหงาๆ ก็เป็นได้
อีกหนึ่งจุดเด่นจากซีรีส์ Crash Landing on You ที่ถูกพูดถึง คือ ‘ฉาก’ ที่สวยงาม ทั้งในมุมสูง หรือแม้แต่ซีนที่โฟกัสแค่ตัวละครพระเอกนางเอกก็ตาม
แต่รู้ไหม? แม้ซีรีส์ Crash Landing on You จะถ่ายทอดเรื่องราวของ 2 ดินแดน ‘เกาหลีเหนือ’ และ ‘เกาหลีใต้’ แต่ทุกฉากที่ฉายออกมากลับไม่มีสักฉากที่ถ่ายทำในเกาหลีเหนือ ส่วนใหญ่ถ่ายทำที่เกาหลีใต้ และข้ามน้ำข้ามทะเลบินไปถ่ายทำที่สวิตเซอร์แลนด์และมองโกเลีย
...
แน่นอนว่า ความสำเร็จของซีรีส์ Crash Landing on You นั้นถูกสรรค์สร้างมาอย่างตั้งใจ การจะเขียนบรรยายวัฒนธรรมต่างๆ ของเกาหลีเหนือไม่ได้มาจากการจินตนาการแบบไม่มีข้อมูล แต่ทีมงานต่างศึกษาอย่างตั้งใจ ทั้งจากการค้นคว้าสารคดีจากสื่อต่างๆ และที่สำคัญ คือ การได้คำปรึกษาจาก ‘คัง นารา’ ยูทูบเบอร์ชื่อดังวัย 22 ปี ที่ลี้ภัยออกมาจากเกาหลีเหนือในปี 2557 ด้วยการลัดเลาะผ่านทางจีน, เมียนมา, ไทย จนกระทั่งมาพบแม่ที่เกาหลีใต้ ซึ่งลี้ภัยมาก่อนหน้าในปี 2555
หากถาม ‘คัง นารา’ ว่า "ซีรีส์ Crash Landing on You ถ่ายทอดความเป็นเกาหลีเหนือได้ถูกต้องหรือไม่?" เธอยอมรับว่า "ราว 60% ทีเดียว"
และใน 60% ที่ว่า ‘คัง นารา’ กล่าวถึงความสมจริงนั้น ล้วนแต่เป็นด้านวัฒนธรรมแทบทั้งสิ้น และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ซีรีส์ Crash Landing on You มีกระแสตอบรับที่ดี
หลายๆ คนพอจะรับรู้กันดีว่า ‘เกาหลีเหนือ’ นั้นเป็นดั่งเมืองลับแล ไม่ใช่ว่าใครจะอยากเข้า-ออกอย่างไรก็ได้ ทุกอย่างถูกป้องกันและตรวจสอบแน่นหนา น้อยนักที่จะมีคนในเข้าไปเหยียบและท่องเที่ยวพร้อมเก็บภาพกลับมา
แม้แต่ ‘เกาหลีใต้’ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแผ่นดินเดียวกัน ก็ยังน้อยนักที่จะมีชาวเกาหลีใต้คนไหนได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศเกาหลีเหนือ
ดังนั้น เมื่อการเข้าถึง ‘เกาหลีเหนือ’ ยากแสนยาก การมีซีรีส์ Crash Landing on You ที่มีการนำเสนอเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ แม้จะเป็นเพียงซีรีส์ ไม่ใช่เรื่องจริง แต่คนส่วนใหญ่ก็หวังจะได้เรียนรู้และได้เห็นสิ่งที่เรียกว่า "วัฒนธรรมเกาหลีเหนือ" อย่างเช่น ฉากพระเอกมัดผมให้นางเอก เพราะการปล่อยผมถือเป็นสัญลักษณ์ของทุนนิยม ดังนั้นผู้หญิงเกาหลีเหนือจึงต้องผูก/มัดผม
แล้วฉากอื่นๆ เป็นอย่างไร?
ตรงกับความเป็นจริงของ ‘เกาหลีเหนือ’ หรือไม่?
ทีมข่าวเฉพาะกิจฯ จะพาคุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ไปทำความเข้าใจดินแดนลับแล ‘เกาหลีเหนือ’ ผ่านฉากในซีรีส์ Crash Landing on You กับ ‘ดร.ทรงจิต พูลลาภ’ กลุ่มศึกษาความคิดจูเช่แห่งประเทศไทย (Thai Juche Idea Study Organization) กูรูด้านเกาหลีเหนือที่เคยไปเยี่ยมเยือนดินแดนลับแลของผู้นำ ‘คิม จองอึน’ มาแล้วมากกว่า 25 ครั้ง
• ไม่เคยเห็น ไม่เคยไป แต่ถ่ายทอด ‘เกาหลีเหนือ’ ผ่านซีรีส์
ก่อนเริ่มต้นพิสูจน์ความสมจริงแต่ละฉากของซีรีส์ Crash Landing on You ดร.ทรงจิต เกริ่นกับทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ว่า "เพิ่งได้ดูไปเพียงตอนเดียว แต่เท่าที่ดูก็ถือว่าเยี่ยมมาก นำเสนอค่อนข้างดี"
หากคนที่ได้รับชมซีรีส์ Crash Landing on You แล้ว ถ้าสังเกตดีๆ จะมองเห็น ‘เข็มกลัดใบหน้าท่านผู้นำ’ เล็กๆ ติดตรงหน้าอกเสื้อของชาวเกาหลีเหนือ และจะมีคนคอยเดินตรวจดูตลอดว่าใครติดไม่ติด จากฉากนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ทราบมาพอสังเขปว่า ‘เข็มกลัด’ ที่ว่านั้นเป็นของที่ทางรัฐบาลแจกให้กับประชาชน
ซึ่ง ดร.ทรงจิต ยอมรับว่ามีการติดจริง แต่ยืนยันว่า "ไม่มีการตรวจเช็ก"
"ทุกคนมีอุดมการณ์อยากติด แม้กระทั่งคนเดินทางไปเกาหลีเหนือเองก็อยากจะมีเข็มกลัดนี้เหมือนกัน ทุกคนติดด้วยใจ ติดด้วยสำนึก ติดด้วยความจงรักภักดีอย่างยิ่ง อิสระเสรีที่สุด คือ เกาหลีเหนือ"
และเมื่อทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ถามย้ำอีกครั้งว่า ไม่มีการเดินตรวจเหมือนในฉากซีรีส์ Crash Landing on You จริงๆ ใช่หรือไม่?
ดร.ทรงจิต ก็ตอบกลับย้ำยืนยันเช่นเดิมว่า "ไม่มีตรวจๆ"
จบจาก ‘เข็มกลัดใบหน้าผู้นำ’ ก็ลงมาสู่ท้องถนนในเกาหลีเหนือ ฉากถนนหนทางถูกถ่ายทอดออกมาด้วยภาพการจราจรที่สะดวกสบาย ภาพจำรถยนต์ที่แน่นขนัดในเมืองหลวงหลายๆ เมืองในโลก แต่ภายในเกาหลีเหนือกลับไม่เป็นอย่างนั้น
"ใช่ สะดวกที่สุดตั้งแต่เคยเห็นมา ผมไปมาหลายประเทศมากกว่า 20-30 ประเทศ ที่เกาหลีเหนือเยี่ยมที่สุด"
ส่วนที่เห็นจราจรหญิงในฉากคอยเดินควบคุมการจราจรนั้น ดร.ทรงจิต บอกกับทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ว่า ไม่ถึงกับเป็นการควบคุมการจราจร ก็เป็นการยืนปกติ แต่สิ่งหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงจากการไปเยือนเกาหลีเหนือครั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 คือ เริ่มมีจราจรชายมาทำหน้าที่บ้างแล้ว ส่วนจราจรหญิงก็ลดน้อยลง
และจากที่เคยอ่านข่าวผ่านๆ มา ก็มักจะเห็นการเขียนถึงเกาหลีเหนือในทำนองที่ว่า ไฟฟ้าไม่พอใช้ ไฟฟ้าติดๆ ดับๆ ในฉากซีรีส์ Crash Landing on You ก็เช่นกัน เกิดเป็นความสงสัยว่า เกาหลีเหนือไฟฟ้าไม่ค่อยเสถียรจริงหรือไม่?
ดร.ทรงจิต ยืนยันจากประสบการณ์ที่เคยไปเยือนเกาหลีเหนือมาแล้ว 25 ครั้งว่า ไฟฟ้าเสถียรพอสมควร แต่ที่เห็นไฟดับนั้นเป็นเพราะเขาประหยัดไฟมากเท่านั้นเอง ไม่ได้มีปัญหาเรื่องของไฟฟ้าแต่อย่างใด
"เขาตั้งใจปิดไฟอยู่แล้ว แม้กระทั่งการเข้าชมห้องนิทรรศการ พอออกจากห้อง เขาก็จะปิดไฟเลยทันที จะเปิดก็ต่อเมื่อเข้าไปอีกห้อง หรือแม้กระทั่งบนรถ ที่พอคนลงหมดก็ต้องปิดไฟ เป็นนิสัยของคนเกาหลีเหนือ"
เมื่อทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ถามขยายความในบางฉากของซีรีส์ Crash Landing on You ที่มีการจุดเทียนเพื่อกินข้าวว่าเป็นเพราะไฟดับหรือดับไฟกันแน่?
ดร.ทรงจิต มองว่าน่าจะเป็นการจุดเทียนเพื่อความโรแมนติกหรือความสุนทรีย์มากกว่า เป็นลักษณะโอกาสพิเศษ
จากฉากในเมืองเกาหลีเหนือ สู่คำถามต่อมาที่ว่า ชนบทของเกาหลีเหนือไฟฟ้าจะเสถียรเหมือนกันไหม?
"ไฟฟ้าเสถียรเหมือนกัน แต่ประหยัดกันมาก เป็นนิสัยของการประหยัด ในเรื่องไฟฟ้านั้น คนเกาหลีเหนือประหยัดอย่างยิ่ง เป็นบุคลิกลักษณะของตัวคนเกาหลีเหนือ คือ คนเกาหลีเหนือต้องประหยัด"
หากพูดถึงภาพจำความนึกคิดเกาหลีเหนือ ผนวกกับฉากในซีรีส์ Crash Landing on You การแบ่งชนชั้นก็ปรากฏให้เห็น การจะได้มาซึ่งอุปกรณ์เทคโนโลยีของคนรายได้น้อย หรือเรียกได้ว่าคนชนชั้นล่าง คงมีโอกาสน้อยนิด
สวนทางกับภาพที่ ดร.ทรงจิต ได้เห็นและสัมผัสมาด้วยตัวเอง
"เกาหลีเหนือมีของที่เป็นสาธารณะเยอะ ทุกคนมีสังกัดองค์กรหมด ถ้าเป็นชนบทจะเรียกว่า ‘สหกรณ์’ ถ้าในเมืองเป็น ‘เทศบาล’ มีการดูแลอย่างทั่วถึง"
ดร.ทรงจิต บอกเล่ากับทีมข่าวเฉพาะกิจฯ และยืนยันว่า ความเจริญไปทั่วถึงทั้งประเทศ ในชนบทก็มีคอมพิวเตอร์ เพียงแต่เกาหลีเหนือเรียก ‘อินทราเน็ต’ ไม่ได้เรียกว่า ‘อินเทอร์เน็ต’ เป็นการใช้ภายในประเทศ
แล้วเทคโนโลยีของเกาหลีเหนือนั้นย้อนยุคกว่าประเทศอื่นๆ ไหม? เพราะอย่างบางฉากก็จะเห็นว่าอุปกรณ์เทคโนโลยียังเป็นแบบโบราณหรือตกยุคตกสมัยจากที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป
ดร.ทรงจิต บอกเล่าประสบการณ์เยือนเกาหลีเหนือเมื่อครั้งที่ 20 ซึ่งไปกับวิศวกรที่จบจากเยอรมนี เพื่อตอบข้อสงสัยของทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ว่า "ผมไปศูนย์ Sci-Tec (วิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี) ถึงกับอู้หู นี่มันก้าวหน้ากว่าประเทศไทยนี่ ซึ่งเมื่อก่อนผมก็ไม่เคยรู้"
อีกหนึ่งฉากที่น่าสนใจ แม้จะดูเป็นฉากธรรมดาๆ แต่กลับมีสัญลักษณ์ที่บอกเล่าความสัมพันธ์เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้ดีที่สุดฉากหนึ่ง คือ "การห้ามจำหน่ายสินค้าและใช้สินค้าที่มาจากเกาหลีใต้"
ในส่วนตรงนี้ ดร.ทรงจิต ยอมรับว่าเป็น "ข้อห้าม" จริง และมีมานานแล้ว!!
"เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เหมือนกัน ผมไปทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ทางเกาหลีใต้ก็ห้ามใช้ของเกาหลีเหนือ ส่วนทางเกาหลีเหนือก็ห้ามใช้ของเกาหลีใต้เช่นกัน"
ถึงขั้นผิดกฎหมายเลยหรือไม่?
"ไม่ผิดกฎหมาย แต่เขาปฏิบัติ ทุกคนอยู่ด้วยความสำนึกทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้"
เพื่อคลายข้อสงสัยชาวเกาหลีเหนือปฏิบัติในเรื่องนี้อย่างเคร่งครัดกันแค่ไหน ดร.ทรงจิต เลยบอกเล่าประสบการณ์จริงที่เจอกับตัวเองให้ทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ฟังว่า ครั้งหนึ่งเคยนำเนกไทจากเกาหลีใต้ไปฝากคนเกาหลีเหนือ ผ่านไปสัก 3-4 วัน เขาเอากลับมาคืน แล้วบอกว่า "เขาใช้ไม่ได้"
คิดว่าจะมีการแอบใช้บ้างไหม?
"ไม่มี เพราะเป็นสำนึก เป็นข้อที่ไม่ควรปฏิบัติ เกาหลีเหนือมีวินัยมาก แล้วคนเกาหลีใต้ในระดับหนึ่งก็มีวินัยมาก แต่คนเกาหลีเหนือมีวินัยมากกว่า ทุกระดับ ทุกผู้ทุกคน"
ในภาพรวม ดร.ทรงจิต ยอมรับว่า ซีรีส์ Crash Landing on You นำเสนอความเป็นเกาหลีเหนือได้อยู่ในขั้นพึงพอใจมากกว่าสื่ออื่นๆ แม้ว่าหลายๆ อย่างยังไม่จริง 100% แต่ก็ไม่ได้มีการบิดเบือน
ก่อนปิดท้ายบทสนทนา ดร.ทรงจิต ถามกลับทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ว่า "เคยไปเกาหลีเหนือหรือยัง?" พร้อมบอกด้วยเสียงมีความสุขว่า เดือนตุลาคมปีนี้จะเดินทางไปเยือนเกาหลีเหนืออีกหน เป็นครั้งที่ 26
จากกระแสที่เกิดขึ้นของซีรีส์ Crash Landing on You ทำให้คนหันมาสนใจ ‘เกาหลีเหนือ’ มากขึ้น เกิดเป็นมุมมองบวกที่น่าติดตาม
และด้วยคำชื่นชมนั้น กลับมีบางฝ่ายไม่สบายใจเท่าใดนัก โดยพรรคการเมืองของเกาหลีใต้อย่าง CLP (Christian Liberal Party) มองว่า ซีรีส์ Crash Landing On You เชิดชูเกาหลีเหนือจนเกินไป ซึ่งอาจเป็นการขัดต่อกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ
แล้วในมุมมองคุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์คิดอย่างไรกับซีรีส์เรื่องนี้?
Crash Landing on You เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเกาหลีเหนือมากน้อยแค่ไหน?.
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
ข่าวน่าสนใจ :
- PARASITE เมื่อส่วนผสมลงตัว ในวันที่ "ออสการ์" ยอมเปิดกะลา
- "ซีรีส์" สิ่งปรุงแต่งซุกสังคมบิดเบี้ยว "หญิงเกาหลี" ไร้เสียง ชายเป็นใหญ่กดทับ
- 3 คีย์สำคัญ เปิด "ร้านกาแฟ" รอดและรุ่ง ส่องค่าจ้างพาร์ทไทม์แบรนด์ดัง
- "หน้ากากอนามัย" นำเข้าพุ่งเกิน 100% ผวา PM 2.5 กลัวไวรัส เตือนใส่ N95 ต้องระวัง
- "ไฟป่าออสเตรเลีย" เผาผลาญ ทำลายชีวิต สัญญาณเตือนภาวะสูญพันธุ์ครั้งใหญ่?