เปิดทัศนคติและมุมมองลูกผู้ชายกับเรื่องราวสุดซึ้งในความรัก "แม่" ทุ่มดูแลตั้งแต่อายุ 10 ขวบ กระทั่งแม่ป่วยก็ดูแลใกล้ชิด 24 ชม. เผยปมความรู้สึก เหตุแม่ป่วยอัมพฤกษ์
SATURDAY SHARES สัปดาห์นี้ เปิดทัศนคติและมุมมองของลูกผู้ชายกับเรื่องราวสุดซึ้งในความรัก ความผูกพันที่มีให้แม่ด้วยความมั่นคงยาวนาน 37 ปี ของ นายสิทธิ์ จรูญนิยมพร หรือ สิทธิ์ อดีตช่างผมประจำกองถ่ายหนังฟอร์มยักษ์ นเรศวรมหาราช สุดยอดลูกกตัญญู เลี้ยงดูแล นางสู้งิ้ม แซ่เต็ง หรือ แม่มาลี วัย 69 ปี ซึ่งป่วยอัมพฤกษ์ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มาเกือบครึ่งปีได้เป็นอย่างดี ใกล้ชิด 24 ชั่วโมง ทำหน้าที่ลูกเต็มที่โดยไม่ขาดตกบกพร่อง พากิน พาเที่ยว อาบน้ำ แต่งตัว พาไปหาหมอ ใช้ชีวิตร่วมกันในทุกๆ กิจกรรม ไม่ว่าทำงาน พักผ่อน เพื่อให้แม่มีความสุขที่สุดในช่วงบั้นปลายชีวิต
มีกันและกันตั้งแต่ 10 ขวบ ไร้บ้านอาศัยอยู่วัด 10 ปี
การดูแลแม่ของนายสิทธิ์ ไม่ได้เริ่มขึ้นหลังจากแม่เพิ่งป่วยอัมพฤกษ์เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ แต่เขามีความผูกพันและดูแลแม่มาตั้งแต่อายุ 10 ขวบแล้ว หลังจากที่พ่อแม่แยกทางกัน ด้วยฐานะทางบ้านยากจนทำให้ไม่มีที่อยู่ ต้องไปอาศัยอยู่บ้านญาติ เขาจึงรับจ้างทำรองเท้ากับญาติ เมื่อได้เงินก็นำมาเลี้ยงดูแม่
...
3 ปีต่อมา สองแม่ลูกก็ตัดสินใจไปอาศัยอยู่วัด โดยเขาตัดสินใจบวชเรียนขณะอายุ 13 ปี ส่วนแม่ทำหน้าที่เป็นแม่ครัว คอยทำอาหารเจให้กับทางวัด กระทั่งอายุ 23 ปีตัดสินใจสึกหลังจากบวชมาเป็นเวลานาน 10 ปี เพราะอยากทำงานและออกมาใช้ชีวิตแบบฆราวาส โดยนำเงินที่ได้จากการสอบเปรียญ 7 มาเป็นทุนเริ่มต้นชีวิตใหม่กับแม่โดยเช่าบ้าน และเรียนช่างตัดผม
“สึกมา ใบปริญญาก็ไม่มี คิดว่าต้องมีฝีมือติดตัว ตอนแรกมีเลือกไว้ 2 อย่างคือ ภาษา กับทำผม เลยเลือกเรียนช่างตัดผม ทำผม เพราะจะได้มีฝีมือติดตัว”
แม่ลูก "ผูกจิต" อยู่ในทุกช่วงเวลา "ชีวิต" กันและกัน
หลังเรียนช่างผมเสร็จ ได้รู้พื้นฐานการตัด นายสิทธิ์มีโอกาสได้ไปทำงานเป็นลูกน้องให้ช่างใหญ่ในกองถ่ายภาพยนตร์ "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ของ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล หรือท่านมุ้ย ตั้งแต่ภาค 1 - 5 นายสิทธิ์พัฒนาฝีมือตัวเอง ไต่เต้าจากการเป็นลูกน้องจนได้กลายเป็นหนึ่งใน “ช่างใหญ่” ประจำกองถ่าย ทำผมให้ดารานำ จนถึงตัวประกอบมาหลายร้อยคน
แม้การถ่ายทำหนังต้องไปปักหลักที่ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี และใช้เวลาถ่ายทำแต่ละภาคนานนับปี ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความรักความผูกพันและการดูแลกันระหว่างเขาและแม่
ขณะนายสิทธิ์ทำงาน แม่ซึ่งสุขภาพร่างกายแข็งแรง ก็ทำงานบ้าน ดูแลบ้านและตากผ้า เมื่อตัองทำงานที่กาญจน์ หลายปี นายสิทธิ์จึงตัดสินใจปักหลักอยู่ถาวรเก็บเงินซื้อบ้าน และเปิดร้านทำผมร่วมกับพี่ชายที่ตลาดเจเจ อ.เมือง กาญจนบุรี โดยมีแม่อยู่ในทุกช่วงเวลาของชีวิตด้วยเสมอ ในทุกๆ กิจกรรมไม่ว่าเป็นเวลาทำงาน หรือพักผ่อน
...
“ผมกับแม่ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เป็นคู่หูกัน เราผูกพันกันมาก เพราะแม่ไม่มีใคร พ่อเสียตั้งแต่ผมอายุ 15 แรกๆ กองถ่ายหนังเช่าโรงแรมให้อยู่ พอต้องอยู่นานเป็นปี ผมก็หาเช่าบ้านอยู่กับแม่ บางทีแม่ก็ไปอยู่กับพี่ชายที่ กทม. ผมทำงานที่กาญจน์ก็ส่งเงินไปให้ สลับกับพี่ชายช่วยกันดูแลแม่
บางคนอาจจะอายๆ ที่พาแม่ไปกิน ไปเที่ยว เวลาผมพาไปไหนกับแม่ก็มีคนมองตลอด แต่ผมไม่รู้สึกอะไร ทำเหมือนที่เคยทำต่อไป เพราะเคยชิน จูงเดิน พาไปกินข้าวกันสองคน พาไปเดินเล่นช้าๆ ในห้าง ในตลาด งานวัด ผมก็ค่อยๆ เดินตาม”
แม่ป่วยอัมพฤกษ์ เกือบเป็นบ้า แต่ไร้อุปสรรคดูแล
นายสิทธิ์ดูแลเอาใจใส่แม่อย่างดี จนเป็นภาพแห่งความอบอุ่นและประทับใจที่คนกาญจนบุรีคุ้นชิน กระทั่งเดือน มิ.ย. 62 แม่ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพฤกษ์ซีกซ้ายใช้การไม่ได้เลย จากที่แม่เดินได้ก็ต้องอุ้มไปทำกิจวัตรประจำวันและกิจกรรมต่างๆ ทำให้เขาต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตค่อนข้างมาก แต่ด้วยความรักแม่ ทำให้มองข้ามอุปสรรคต่างๆ และมุ่งมั่นทำหน้าที่ลูกอย่างเต็มที่ต่อไปเฉกเช่นที่เคยทำมานานหลายสิบปี เพราะต้องการให้แม่มีความสุขที่สุดร่วมกันในทุกๆ วันและทุกเวลา
...
“ตอนแรกที่แม่ป่วย หนักเอาการเหมือนกัน แม่เรียกหาทั้งคืน ดีที่พี่ชายมาช่วยกันดูแล ไม่งั้นอาจเป็นบ้าได้ เพราะแม่กลับกลายไปเป็นเด็ก มีหลงๆ ลืมด้วย เรียกซ้ำๆ กินน้ำแล้วก็บอกจะกินอีก ผมก็ค่อยๆ ปรับตัว แรกๆ ไม่กล้าทำ เป็นผู้ชายก็ไม่รู้ว่าจะเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวได้ไหม แต่พอลองทำแล้วก็ชิน
ทุกวันนี้ช่วยกันกับพี่ชาย ดูแลแม่ อาบน้ำ แต่งตัว พากินข้าวนอกบ้าน พาเที่ยวเหมือนเดิม ผมดูแลแม่ทุกวันอย่างเต็มที่ทั้งเรื่องจิตใจ ความเป็นอยู่ให้สุขสบาย ไม่ให้ลำบากมาก อยากกิน อยากเที่ยว อยากไปไหนผมพาไป ให้แม่มีความสุขมากที่สุด ทำแล้วผมก็มีพลังใจมากขึ้นด้วย”
...
อานิสงส์แม่ มิตรภาพโลกออนไลน์ น้ำทิพย์ชโลมใจ
ความกตัญญู และการดูแลมารดาถือเป็นมงคลสูงสุดในชีวิตของคนเป็นลูกและ เกิดสิ่งดีๆ ในชีวิตหลายเรื่อง ซึ่งนายสิทธิ์เองรู้สึกขอบคุณโรคอัมพฤกษ์ช่วยให้ตกผลึกความจริงในชีวิตหลายข้อ ทำให้เขามีความอดทน แข็งแกร่งขึ้นทุกวันจนปัญหาอื่นกลายเป็นเรื่องเล็กที่แทบมองไม่เห็น เวลาในแต่ละวันมีค่ามากขึ้นจนรู้สึกว่าได้ใช้ไปอย่างคุ้มค่า ควบคุมสติได้ดี ความคิดฟุ้งซ่านน้อยลง และเห็นคุณค่าของคำว่า “ขณะนี้” “ตอนนี้” มากขึ้น
นอกจากนี้ เดิมทีตั้งใจเปิดร้านทำผมในตลาดเจเจ เพราะแม่ชอบเที่ยวตลาดนัด กลับกลายว่าร้านเจริญเติบโตโดยไม่รู้ตัว จากการที่เขาถ่ายวิดีโอ ไลฟ์สด กับแม่เวลาไปกินข้าวนอกบ้าน ไปตลาด เป็นประจำตั้งแต่ก่อนแม่ป่วยในเฟซบุ๊กส่วนตัว Sitt Jaroonniyomporn จนเป็นที่รู้จัก
นายสิทธิ์บอกความรู้สึกกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่า การมีคนรู้จักมากขึ้น ยอดไลค์ ยอดแชร์ หรือยอดคนกดติดตามไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งที่มีค่ายิ่งกว่านั้นคือ มิตรภาพจากโลกออนไลน์ที่เป็นเหมือนน้ำทิพย์ เป็นยาใจให้แม่และเขามีพลังสู้ต่อไป เพราะหากใครเคยดูคลิปหรือไลฟ์สดจะเห็นว่าแม่ของเขา มีความสุขและยิ้มแย้มสดใสตลอดเวลาทุกครั้งที่ไลฟ์
“มีคนคอยบอก คอยให้กำลังใจ ดูแลคนแก่มันยากนะ ต้องควบคุมสติให้ดี ผมก็ค่อยๆ ฝึกไปเรื่อย จนกลายเป็นคนใจเย็นขึ้นหลายเท่า มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นหลายเรื่อง การไลฟ์กับแม่ ทำให้แม่รู้สึกมีคนอยู่คุยด้วยหลายคน แม่ไม่เหงา เพราะบางครั้งแม่ก็ร้องเพลง เล่าเรื่องให้คนดูฟัง เรารู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่กันแค่สองคน มีคนมาช่วยพูดคุย แม่ชิน สนุกและชอบกับการไลฟ์ บางทีก็ถามผมว่าวันนี้ถ่ายไหม”
แบก "แม่" เดินขึ้นบันได ปมในใจความ "บกพร่อง"
ความรู้สึกของคนภายนอกมองว่าเขาคือ ลูกคนหนึ่งที่ทำหน้าที่ดูแลแม่อย่างเต็มที่ แต่นายสิทธิ์บอกกับทีมข่าวฯ ว่า ตนนั้นรู้สึกว่ายังทำหน้าที่บกพร่อง ด้วยความเป็นผู้ชายจึงยังขาดความละเอียด หากดูแล บำรุงแม่ให้เหมาะสมกับวัย พาไปตรวจสุขภาพ แม่อาจไม่ป่วยเป็มอัมพฤกษ์เร็วเช่นนี้ แต่อย่างไรก็ดี เขาก็รู้สึกดีใจที่ได้ทำให้แม่มีความสุขและภูมิใจ เพราะเขามักได้ยินแม่พูดบอกคนอื่นๆ เสมอว่า "ลูกไม่ทิ้งไปไหน"
“แม่เป็นคนอารมณ์ดี ชอบยิ้ม ชอบหัวเราะ เป็นเหตุทำให้ผมชอบอยู่กับแม่ เพราะอยู่ด้วยแล้วมีความสุข อยากพาไปด้วยทุกที่ เวลาเจอคนอื่นแม่มักยิ้มให้ ทุกวันนี้ผมเริ่มชินและวางระบบให้ตัวเองได้ เวลาพาแม่ไปกินข้าว เดินเล่นที่ห้างก็จะไปจอดรถในมุมสำหรับคนมีรถเข็น ร้านอาหารบางร้านเข็นรถขึ้นไม่ได้ ผมก็เอาแม่ขึ้นหลัง แบกเดินขึ้นบันไดเข้าร้าน ผมไม่รู้สึกลำบากเพราะชินแล้ว” นายสิทธิ์กล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข
ความรักอันซาบซึ้งและอบอุ่นที่นายสิทธิ์มีต่อแม่มาลี คือ แบบอย่างที่ดีของลูกในการดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราที่มีสิ่งสำคัญคือความอดทน ซึ่งผลของการดูแลบุพการี ไม่ว่าลูกคิดทำสิ่งใด มักเจริญเสมอเฉกเช่นชีวิตของ “นายสิทธิ์” และพี่ชาย
ข่าวน่าสนใจ
สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราว หรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่
reporter.thairath@gmail.com หรือช่องทาง Facebook : ทีมข่าวเฉพาะกิจ