นับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่ทั่วโลกเฝ้าจับตา การสังหาร "ผู้นำกลุ่มไอซิส" (ISIS) ที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญ ทั้งระเบิด จับตัวประกัน ฆ่าตัดคอ ล้วนแล้วแต่สร้างความหวาดกลัว เกิดโศกนาฏกรรมนับครั้งไม่ถ้วนตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ปฏิบัติการสังหาร "ผู้นำกลุ่มก่อการร้าย" ของกองทัพสหรัฐฯ ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก แต่เคยมีมาแล้วเมื่อปี 2554 สมัยประธานาธิบดี ‘บารัค โอบามา’ กับภารกิจบุกถิ่น ปลิดชีพ ‘อุซามะฮ์ บิน ลาเดน’ หรือ โอซามา บิน ลาเดน ผู้นำกลุ่มก่อการร้าย ‘อัล-กออิดะห์’ ที่สร้างโศกนาฏกรรมฝังใจคนทั้งโลก เครื่องบินพุ่งชน World Trade Center หรือที่รู้จักกันดีว่า "9/11" (11 ก.ย.)
ปฏิบัติการปลิดชีพ ‘บิน ลาเดน’ ในครั้งนั้น สร้างความฮือฮาและการชื่นชมในตัวประธานาธิบดี ‘โอบามา’ เป็นอย่างมาก จนขนาดที่ว่า ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เคยออกมาทวีตเหน็บแนมว่า "โอบามาไม่สมควรได้รับการยกย่องหรือชื่นชมใดๆ เพราะไม่ได้ทำอะไรเลย แค่พูดว่า ‘ตกลง’ เท่านั้น"
...
แต่มาวันนี้ ปี 2562 ปฏิบัติการปลิดชีพ ‘อาบู บาการ์ อัลบักห์ดาดี’ ผู้นำกองกำลังรัฐอิสลาม หรือ ‘ไอซิส’ (ISIS) ที่มี ‘ทรัมป์’ นั่งตำแหน่งประธานาธิบดี เขากลับคุยโวถึงความสำเร็จ จนกลายเป็นกระแสขุดทวีตหาอดีต เอามาย้อนกลับที่เขาเคยเหน็บ ‘โอบามา’ ไว้
ดังนั้น ไหนๆ ก็มีคนพูดถึงปฏิบัติการสังหารของ 2 ผู้นำสหรัฐฯ กันแล้ว ... "ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์" เลยหยิบยกมาเทียบฟอร์มกันในหลายแง่มุม ว่า ระหว่าง ‘โอบามา’ กับ ‘ทรัมป์’ ใครจะมีชั้นเชิงเหนือกว่ากัน
• เปิดปฏิบัติการ บุกถิ่น ปลิดชีพศัตรู
ย้อนกลับไปปี 2554 หน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ ได้เข้าจู่โจม ‘อัล-กออิดะห์’ ที่กบดานภายในเมืองอับบอตทาบัด ประเทศปากีสถาน เพื่อสังหารผู้นำกลุ่มก่อการร้ายที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในโลก นามว่า ‘อุซามะฮ์ บิน ลาเดน’
จากจุดเริ่มต้น ไปยังจุดจบ ใช้เวลาเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น
ปฏิบัติการเริ่มต้นขึ้นในเวลา 13.25 น. ของวันที่ 1 พฤษภาคม 2554 ‘โอบามา’ กดปุ่มสตาร์ตเครื่องเต็มกำลัง อนุมัติปฏิบัติการจู่โจมปลิดชีพ ‘บิน ลาเดน’
หน่วยรบพิเศษ ‘SEAL Team SIX’ จำนวน 25 นาย กระโดดขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ‘แบล็กฮอว์ค’ (Stealth Black Hawk) ออกจากอัฟกานิสถาน มุ่งหน้าสู่เมืองอับบอตทาบัด ประเทศปากีสถาน
ถึงจุดหมายในเวลา 15.30 น. เฮลิคอปเตอร์ลงจอดโดยปลอดภัย แม้จะมี 1 ลำ ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ มุ่งหน้าสู่เป้าหมายเพื่อทำภารกิจต่อไป
9 นาที ปลิดชีพ ‘อุซามะฮ์ บิน ลาเดน’
พริบตาเดียวหลังลงจอด เวลา 15.39 น. ‘บิน ลาเดน’ ถูกพบบริเวณชั้น 3 ของสถานที่กบดาน ศีรษะถูกยิง บริเวณเหนือดวงตาซ้าย
‘บิน ลาเดน’ เสียชีวิตแล้ว
ร่างของเขาถูกนำใส่ถุงและย้ายลงมายังชั้นแรกของสถานที่กบดาน ก่อนที่หน่วยรบพิเศษจะนำขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อเดินทางกลับอัฟกานิสถาน
...
เสร็จสิ้นภารกิจใน 40 นาที
ปิดฉาก ‘อุซามะฮ์ บิน ลาเดน’ ผู้นำกลุ่ม ‘อัล-กออิดะห์’
จากนั้นเวลา 00.59 น. นำร่างฝังตามประเพณีของศาสนาอิสลาม และวันต่อมา ยืนยันได้ว่า ร่างของชายที่ถูกสังหารเป็น ‘บิน ลาเดน’ จริง
ตัดภาพมาในปี 2562 การปฏิบัติการสังหาร ‘อาบู บาการ์ อัลบักห์ดาดี’ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี ‘ทรัมป์’
ระยะเวลาการปฏิบัติภารกิจยังคงไม่แน่ชัด แต่จากคลิปวิดีโอที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยแพร่ออกมานั้น คาดการณ์ได้ว่า ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
ปฏิบัติการเริ่มต้นขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2562 หน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ มุ่งหน้าออกจากอิรักไปยังซีเรีย สถานที่กบดานของ ‘บักห์ดาดี’
...
หน่วยกองรบสหรัฐฯ ในชุด ‘กองกำลังเดลต้าฟอร์ซ’ ค่อยๆ เข้าจู่โจมโดยใช้อาวุธเบา และมีการโจมตีทางอากาศโดยเครื่องบิน US F-15 และ MQ-9 Reaper
ระยะเวลาการปะทะผ่านไปหลายนาที คาดฝั่ง ‘ไอซิส’ มีประมาณ 10-15 คน หรืออาจมากกว่านั้น
วินาทีพลีชีพ ‘อาบู บากร์ อัล-บักดาดี’
การปะทะเป็นไปอย่างดุเดือด ‘บักดาดี’ คลานหนีเข้าไปภายในอุโมงค์ใต้ดิน เมื่อถึงวินาทีจนตรอกจึงตัดสินใจกดระเบิดพลีชีพ พร้อมเด็กอีก 2 คน คาดอายุต่ำกว่า 12 ปีทั้งคู่
ปิดฉาก ‘อาบู บากร์ อัล-บักดาดี’ ผู้นำกลุ่ม ‘ไอซิส’
• จับตาถ้อยแถลง สิ้นชีพ ‘บิน ลาเดน - บักห์ดาดี’
"มีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นแล้ว!"
ทำเอาแตกตื่นกันไปทั่วโลก เมื่อประธานาธิบดี ‘ทรัมป์’ มาหย่อนสปอยล์เอาไว้บนทวิตเตอร์ให้คนสงสัย ว่า ที่ยิ่งใหญ่นั้นคืออะไร?
ผ่านไป 12 ชั่วโมง ช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2562 ‘ทรัมป์’ ปรากฏกายหน้าโพเดียมแถลงข่าวใหญ่ ปฏิบัติการสังหาร ‘อาบู บาการ์ อัลบักห์ดาดี’ ผู้นำกลุ่ม ‘ไอซิส’ สำเร็จแล้ว
...
ตลอดระยะเวลาการแถลงข่าวของ ‘ทรัมป์’ ใช้เวลาเกือบๆ 40 นาที แต่เนื้อหาสาระนั้นแสนจะยืดเยื้อ และในบางช่วงที่ควรกระชับเขากลับอธิบายแบบละเอียดยิบ อย่างเช่น การเปิดเผยความลับที่เป็นรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหาร ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลการวางแผน ยุทธวิธี หรือแม้แต่อุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้ในการปฏิบัติการ
แน่นอนว่า ถ้อยแถลงที่ ‘ทรัมป์’ ดูจะภาคภูมิใจเอามากๆ คงหนีไม่พ้น การอธิบายอย่างเห็นภาพถึงการเสียเกียรติของ ‘บักห์ดาดี’ ที่เหยียดหยามอย่างเจ็บแสบว่า "ตายเยี่ยงสุนัข"
"บักห์ดาดีคลานหนีและจบชีวิตในอุโมงค์ เขาคร่ำครวญ ร้องไห้ และกรีดร้องไปตลอดทาง"
และปิดท้ายการแถลงด้วยการถาม-ตอบกับนักข่าว
ตัดภาพย้อนไปในวันที่ ‘โอบามา’ แถลง แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ในครั้งนั้น ‘โอบามา’ ไม่มีแม้แต่สปอยล์ผ่านโซเชียลมีเดียใดๆ การปฏิบัติการเป็นไปด้วยความเงียบเชียบ ก่อนที่จู่ๆ หน้าจอโทรทัศน์จะตัดเข้ารายการพิเศษ
‘โอบามา’ ปรากฏตัวด้วยท่าทางเคร่งขรึม
เอื้อนเอ่ยถ้อยแถลงยืนยันว่า ‘อุซามะฮ์ บิน ลาเดน’ ผู้นำกลุ่ม ‘อัล-กออิดะห์’ เสียชีวิตแล้ว
การแถลงผ่านไปอย่างสั้นกระชับ ไม่มีการเปรียบเทียบที่แฝงอคติ สงวนท่าทีและรายละเอียดของการปฏิบัติการ บอกเพียงว่า ปฏิบัติการครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่ ‘บิน ลาเดน’ และการประเมินข่าวกรอง ไม่มีการบรรยายลักษณะการเสียชีวิต มีเพียงบอกบริบทและสภาพแวดล้อมรอบๆ การปฏิบัติการเท่านั้น และยังยืนยันว่า การปฏิบัติการแต่ละครั้งได้พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ประชาชนได้รับความเสียหาย
‘โอบามา’ ทิ้งท้ายด้วยการยกย่องกองทัพสหรัฐฯ พร้อมฝากข้อความถึงเหยื่อในเหตุการณ์ 9/11
กล่าว "สรรเสริญสหรัฐอเมริกา"
ก่อนจบการแถลงข่าวด้วยการหมุนตัวและเดินกลับเข้าไปภายในทำเนียบขาว
• ภาพเล่าเรื่อง 2 ผู้นำที่แตกต่าง
อีกหนึ่งความแตกต่างของ 2 ผู้นำสหรัฐฯ ‘โอบามา’ และ ‘ทรัมป์’ คือ "ภาพถ่าย"
แม้ไม่มีการบรรยาย แต่เพียงแค่ภาพก็สามารถเล่าเรื่องราวได้
หลังเสร็จสิ้นปฏิบัติการสังหาร ‘บักห์ดาดี’ ผู้นำไอซิส ทำเนียบขาวได้เผยแพร่ภาพถ่ายภายในห้องประเมินสถานการณ์ (Situation Room) จำนวน 2 ภาพ ขณะ ‘ทรัมป์’ กำลังเฝ้าติดตามภารกิจ
จากภาพจะเห็นว่า ‘ทรัมป์’ นั่งอยู่หัวโต๊ะประชุม โดยมี ‘ไมค์ เพนซ์’ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขนาบทางขวา (ภาพ : ซ้าย) ล้อมรอบด้วยสมาชิกหน่วยความมั่นคงแห่งชาติ สายตาทุกคู่มุ่งตรงมายังเบื้องหน้า
มองเผินๆ เหมือนภาพปกติทั่วไป แต่หากจะเก็บรายละเอียดแล้ว ก็จะมองเห็นสายเคเบิลเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้เสียบเข้ากับอุปกรณ์ใดๆ วางระโยงระยางอยู่
และมีความเป็นไปได้ว่า ภาพนี้ถูกถ่ายก่อนที่ปฏิบัติการจู่โจม ‘บักห์ดาดี’ จะเริ่มต้นขึ้นก็เป็นได้
หากดูรายละเอียดของภาพ พบว่า ภาพใบนี้ถูกถ่ายในเวลา 17.05.24 น. แต่ The New York Time กลับบันทึกเวลาการปฏิบัติการว่า 18.10 น.
ในส่วนของภาพถ่าย ‘โอบามา’ เมื่อปี 2554 นั้น สิ่งแรกที่เห็นความแตกต่างชัดเจนเลย คือ ‘โอบามา’ ไม่ได้นั่งอยู่หัวโต๊ะการประชุม
อีกทั้งจากภาพถ่ายยังแสดงให้เห็นว่า ห้องประชุมภายในห้องประเมินสถานการณ์นั้นมีขนาดเล็กและค่อนข้างมืด สภาพบนโต๊ะประชุมมีแก้วกาแฟวางกระจัดกระจาย
โดยมี ‘โจ ไบเดน’ รองประธานาธิบดี พร้อมด้วยหน่วยความมั่นคงแห่งชาติ ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้สวมสูท นั่งอัดอยู่ภายในห้องประชุมด้วย
ที่สำคัญ ทุกคนล้วนไม่ได้มองตรงมาที่กล้องถ่ายรูปแต่อย่างใด
• ปิดฉากปฏิบัติการสังหาร 2 ผู้นำ โกยเรตติ้ง
ผลพลอยได้อีกอย่างจากการปฏิบัติการสังหาร ‘บิน ลาเดน’ และ ‘บักห์ดาดี’ นอกจากการยกย่องในตัวประธานาธิบดีแล้ว
"คะแนนความนิยม" ก็เป็นสิ่งชี้วัดที่น่าสนใจ
ยิ่งการเลือกตั้งใหญ่ที่ใกล้เข้ามา การปฏิบัติภารกิจที่เสร็จสมบูรณ์ด้วยการสังหาร 2 ผู้นำกลุ่มก่อการร้าย ก็อาจทำให้ผลการเลือกตั้งเป็นไปอย่างที่หวังเพิ่มมากขึ้น
จากการสำรวจของ Washington Post และ ABC News Poll พบตัวเลขที่น่าสนใจในตัว ‘ทรัมป์’
กว่า 54% ของชาวอเมริกัน ต่างบอกว่า ‘ทรัมป์’ สมควรที่จะได้รับสิ่งดีๆ หรือการยกย่อง จากปฏิบัติการสังหาร ‘บักห์ดาดี’
เรียกว่า คะแนนนิยมเป็นไปในทิศทางที่ดีทีเดียว
ขณะที่ กว่า 40% มาจาก Democrats, 50% มาจาก Independents และมากกว่า 70% มาจาก Republicans โดยมองว่า ‘ทรัมป์’ สมควรได้รับการขอบคุณและยอมรับจากปฏิบัติการจู่โจมที่ประสบความสำเร็จ
ย้อนกลับไปในสมัย ‘โอบามา’ หลังจากปฏิบัติการสังหาร ‘บิน ลาเดน’ สำเร็จ คะแนนความนิยมของเขาก็สูงถึง 76% ส่วน Democrats อยู่ที่ 86%, Independents 79% และ Republicans 61%
เห็นได้ชัดว่า คะแนนความนิยมหลังปฏิบัติการสังหารสำเร็จ ‘โอบามา’ ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น อาจด้วยเป็นครั้งแรกที่มีการสังหารผู้นำกลุ่มก่อการร้าย และอาจด้วยโศกนาฏกรรมที่ใกล้ชิดชาวอเมริกันมากกว่ากรณีปฏิบัติการสังหารของ ‘ทรัมป์’
หรืออาจเป็นเพราะบุคลิกของ ‘ทรัมป์’ ที่ทำให้คะแนนไม่พุ่งมากเท่า ‘โอบามา’
แต่อย่างไรก็ตาม แม้กองทัพสหรัฐฯ จะสามารถสังหารผู้นำกลุ่มก่อการร้ายได้ถึง 2 ราย แต่ชาวอเมริกันกว่า 54% กลับมองว่า สิ่งนี้ไม่ได้เปลี่ยนให้สหรัฐอเมริกาดูปลอดภัยขึ้นแต่อย่างใด.
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
ข่าวอื่นๆ :
- ถอดรหัส 39 เหยื่อคอนเทนเนอร์ค้ามนุษย์ คาด 7 ชั่วโมงที่ทนทรมานจนตาย
- "ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ" จากหนังฉายคั่นกลาง สู่ตำนานรักฮ่องกงฟีเวอร์
- "แฟรงก์ อบาเนล" ต้นฉบับนักต้มตุ๋นขั้นเทพ "เป็นใครก็ได้ที่อยากเป็น"
- ตำนาน "โจ๊กเกอร์" ตัวละครอาถรรพณ์ ใครหลอนสุดจนต้องยกนิ้วให้
- "สไปเดอร์แมน" ชีวิตที่ไร้ "มาร์เวล" สู่จักรวาลใหม่ ในอุ้งมือ "โซนี่"
ข้อมูลอ้างอิง :
- Trump’s al-Baghdadi raid Situation Room photo has one big difference from Obama’s Osama bin Laden picture - and it tells you everything about their styles. By Jacob Shamsian - BUSINESS INSIDER
- Obama and Trump each announced the death of a terrorist leader. They did so very differently. By Anya van Wagtendonk - Vox
- How SEAL Team Six Took Out Osama bin Laden. By Julie Marks - HISTORY
- Pentagon releases first images from raid that killed ISIS leader. By Zachary Cohen, Barbara Starr & Ryan Browne - CNN