We dance through the night
And we held each other tight
And before too long I fell in love with her
Now I’ll never dance with another
Since I saw her standing there …

… 22 มีนาคม 1963 เริ่มบรรเลงท่วงทำนอง I Saw Her Standing There ... ปฐมบทวงดนตรีที่เปี่ยมไปด้วยพลัง The Beatles หรือที่ชาวไทยรู้จักกันดีในนาม "สี่เต่าทอง" John Lennon, Paul McCartney, George Harrison และ Ringo Starr กับอัลบั้มแรก Please Please Me ที่ใช้เวลาบันทึกเสียง ตัดต่อ และมิกซ์ รวม 25 ชั่วโมง ... และในเวลาเพียงไม่ถึงเดือน The Beatles ก็ส่งเพลง From Me To You ทะยานขึ้นอันดับ 1 ชาร์ตเพลงอังกฤษ และครองชาร์ตนานกว่า 16 สัปดาห์

©www.thebeatles.com
©www.thebeatles.com

ความนิยมของ The Beatles ณ เวลานั้น ไม่ได้อยู่แค่ในอังกฤษ แต่ข้ามไปไกลถึงอเมริกาอย่างที่พวกเขาเองก็คาดไม่ถึง ... 4 เมษายน 1964 วันประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของ The Beatles หลังสามารถยึดครองชาร์ต TOP 5 Billboard Hot 100 ด้วยเพลง Can’t Buy Me Love, Twist and Shout, She Loves You, I Want to Hold Your Hand และ Please Please Me

...

ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ The Beatles ได้สร้างสถิติเอาไว้มากมาย ทั้งยอดขายซิงเกิลในอเมริกาที่ทำได้มากกว่า 1.6 พันล้าน และขายอัลบั้มในอเมริกาได้กว่า 177 ล้านแผ่น รวมทั่วโลก The Beatles ขายอัลบั้มได้กว่า 600 ล้านแผ่น ซึ่งหนึ่งในอัลบั้มที่ขายดีที่สุดของ The Beatles อย่างอัลบั้ม "1" ที่ปล่อยเมื่อปี 2000 และวางจำหน่ายถึงปี 2010 ทำยอดขายไปกว่า 11.4 ล้านแผ่นเลยทีเดียว ในส่วนของชาร์ต Billboard "สี่เต่าทอง" ก็ไม่ธรรมดา มีเพลงอยู่ในชาร์ตนานถึง 1,278 สัปดาห์ มีซิงเกิลขึ้นอันดับ 1 Billboard Hot 100 ถึง 20 เพลง มากที่สุดในบรรดาวงดนตรีทั้งหมด และเพลง Hey, Jude อยู่บนชาร์ตนานกว่า 23 สัปดาห์ จากผลงานอันยอดเยี่ยมทำให้ The Beatles กวาดรางวัล Grammy Awards ไปได้มากถึง 7 รางวัล และแม้ว่า The Beatles จะแยกวงในปี 1970 แต่สมาชิกทั้ง 4 คน ก็ประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินเดี่ยว และยังได้รับพระราชทานเครื่องราชย์ MBE จากควีนเอลิซาเบธที่ 2

©www.thebeatles.com
©www.thebeatles.com

ผ่านมากว่า 50 ปี ในวันนี้เหตุการณ์เมื่อครั้ง The Beatles กำลังพุ่งแรงได้กลับมาอีกครั้ง เมื่อบรรดานักวิจารณ์และนักข่าวหลายสำนักต่างหยิบยกศิลปินจากฟากฝั่งตะวันออกที่เป็นที่รู้จักกันดีในนามศิลปิน K-Pop อย่าง BTS หรือ "방탄소년단" (V, J-Hope, RM, Jin, Jimin, Jungkook, และ Suga) มาเทียบเคียงความโด่งดังและความสำเร็จกับ The Beatles ...

ยก BTS เทียบชั้น The Beatles

BTS เริ่มก้าวเข้าสู่เส้นทางวงการเพลงเกาหลีในปี 2013 ภายใต้สังกัด Big Hit Entertainment และใช้เวลาเพียง 5 ปี ในการประสบความสำเร็จในระดับโลก ซึ่งจากข้อมูลของ "ทวิตเตอร์" เปิดเผยว่า ปี 2017 BTS เป็นวงดนตรีที่มีการถูกพูดถึงมากที่สุดในอเมริกา และเป็นปีที่สำคัญมากสำหรับพวกเขา ชื่อ BTS ติดอันดับ Billboard Social 50 ถึง 48 สัปดาห์ และเพลง DNA ยังอยู่อันดับ 67 บนชาร์ต Billboard Hot 100 นับเป็นเพลงเกาหลีที่มีอันดับสูงที่สุดในชาร์ตเพลงของอเมริกา ขณะที่ อัลบั้ม MAP of The Soul : PERSONA ก็มียอดขายมากถึง 3 ล้านแผ่น

...

ซึ่งปี 2019 BTS ก็สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นศิลปินเกาหลีวงแรกที่สามารถขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard 200 ถึง 3 อัลบั้ม คือ Map of The Soul : PERSONA, Love Yourself : Tear และ Love Yourself : Answer เทียบเท่ากับสถิติที่ The Beatles เคยทำไว้เมื่อปี 1996 กับอัลบั้ม Anthology 1 , Anthology 2 และ Anthology 3

ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ...

BTS "ความคล้าย" ที่เกือบเหมือน The Beatles


"นิยามเพลง" ของ BTS และ The Beatles มีความคล้ายที่เกือบเหมือน ด้วยการเป็นตัวแทน "คนรุ่นใหม่" ที่ต้องการสะท้อนความรู้สึกนึกคิดของเรื่องราวต่างๆ ในสังคม

หลายเพลงที่ The Beatles ร้องมักจะเกี่ยวข้องกับปัญหาผลกระทบที่คนรุ่นใหม่ต้องเจอ หรือแม้แต่สงคราม สันติภาพ เสรีภาพ ความเท่าเทียม ความหวัง และเหตุการณ์ทางการเมือง คำถามต่างๆ ที่ต้องการส่งถึงสังคมและรัฐบาลถูกถ่ายทอดผ่านท่วงทำนองที่หนักแน่นของกีตาร์และเนื้อร้องที่เต็มไปด้วยความรู้สึก โดยในปี 1965 บทเพลงของ The Beatles นับเป็นนวัตกรรมทางดนตรีและอิทธิพลทางดนตรีสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็น อัลบั้ม Rubber Soul, Revolver และ Sgt.Pepper’s Lonely Hearts Club Band ที่มียอดขายในอังกฤษมากถึง 4.5 ล้านแผ่น และเพลง Yesterday ของ The Beatles ยังมีการนำมาคัฟเวอร์มากกว่า 3,000 ครั้ง กลายเป็นเพลงที่มีการคัฟเวอร์มากที่สุดตลอดกาล

...

"…
Yesterday
All my troubles seemed so far away
Now it looks as though they’re here to stay
Oh, I believe in yesterday.
…"

... ซึ่งหากจะบอกว่า The Beatles คือ ส่วนสำคัญในการวิวัฒนาการวงการเพลงป็อบไปสู่ "ศาสตร์แห่งศิลปะ" ก็ดูจะไม่ใช่คำยกยอจนเกินไป

©www.thebeatles.com
©www.thebeatles.com

BTS เองก็เช่นกัน เพลงของพวกเขามักจะมีการเชื่อมโยงเกี่ยวกับสภาพจิตใจ การดิ้นรนต่อสู้เพื่อมนุษยธรรมในสังคมเกาหลี การถูกกดดันจากประเพณีและกฎระเบียบของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ดนตรีของพวกเขาไม่ได้เพียงแค่สื่อสารในเกาหลี แต่พลังบวกทางดนตรีของพวกเขาได้ดังก้องกังวานไปถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั่วโลก โดยในปี 2017 มิวสิกวิดีโอเพลง Not Today ของ BTS ทำสถิติยอดการเข้าชมบนยูทูบ (YouTube) ทะลุ 10 ล้านวิวเร็วที่สุด ใช้เวลาเพียงแค่ 20 ชั่วโมงเท่านั้น

"…
All the underdogs in the world
A day may come when we lose
But it is not today
Today we fight!
…"

...

... การร้องเพลงที่สื่อสารไปในสิ่งเดียวกันของ BTS และ The Beatles ทำให้บรรดานักวิจารณ์และนักข่าวมองว่า BTS คือ The Beatles แห่งศตวรรษที่ 21

การเติบโตในระดับโลกของ BTS ทำให้เกิดกระแสและความคลั่งไคล้ จนแม้แต่ Ellen พิธีกรรายการทอล์กโชว์ชื่อดัง Ellen DeGeneres เอ่ยปากว่า "ความคลั่งไคล้ของ ARMY (ชื่อแฟนคลับ BTS) ไม่ได้น้อยไปกว่าสมัย Beatlemania (กระแสความนิยมของ The Beatles) เมื่อ 50 ปีก่อนเลย" ซึ่งในช่วงปี 1963 กระแสความนิยมของ The Beatles ทำให้พื้นที่สาธารณะต่างๆ ของอังกฤษคราคร่ำไปด้วยฝูงชนจำนวนมากแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่เกิดขึ้นเพียงเพราะพวกเขาปรากฏตัวเท่านั้น

ความคลั่งไคล้ The Beatles เป็นที่พูดถึงอย่างมากในอังกฤษ กลุ่มคนรุ่นใหม่ต่างออกมาแสดงความชื่นชอบ จนมักจะมีภาพปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง และผู้ใหญ่หลายคนถึงกับขยาดกลัวกับพฤติกรรมของแฟนๆ The Beatles ทั้งการแสดงออกด้วยการกรี๊ด เชียร์ เต้น และบางครั้งถึงกับจู่โจมบนเวที ซึ่งในวันที่ The Beatles ปรากฏตัวในรายการชื่อดังอย่าง Ed Sullivan เมื่อปี 1964 มีผู้ชมมากกว่า 73 ล้านคน หากจะเทียบให้เห็นภาพก็ประมาณว่า คนไทยเปิดโทรทัศน์เพื่อดูรายการเดียวกันพร้อมกันทั้งประเทศ!! และในคอนเสิร์ตทัวร์อเมริกา ปี 1966 ที่จัดใน Shea Stadium นครนิวยอร์ก ก็มีผู้ชมมากถึง 45,000 คน

คอนเสิร์ตทัวร์อเมริกา ปี 1966 ที่จัดใน Shea Stadium นครนิวยอร์ก ก็มีผู้ชมมากถึง 45,000 คน ©www.thebeatles.com
คอนเสิร์ตทัวร์อเมริกา ปี 1966 ที่จัดใน Shea Stadium นครนิวยอร์ก ก็มีผู้ชมมากถึง 45,000 คน ©www.thebeatles.com

มาในวันนี้ BTS เองก็ไม่ต่างกัน หลังจากที่พวกเขาเปิดแอคเคาท์ทางการบนทวิตเตอร์ (@BTS_twt) ก็สร้างปรากฏการณ์บนโลกโซเชียล มีคนติดตามถึง 10 ล้านแอคเคาท์ ในเวลาเพียง 1,793 วันเท่านั้น และคอนเสิร์ต BTS Live Trilogy Episode III : The Wings Tour ในอเมริกา มีแฟน ๆ เข้าชมกว่า 60,000 คน รวมทั่วโลกมากกว่า 430,000 คน

… เส้นทางดนตรีของ The Beatles และ BTS แม้จะเกิดต่างช่วงเวลากัน แต่กลับมีความคล้ายที่เกือบจะไปทางเดียวกัน ทั้งความโด่งดังในประเทศบ้านเกิด กระแสที่ก้าวกระโดดสู่ระดับโลกและทะยานเข้าสู่ชาร์ตเพลงของฝั่งอเมริกา เหล่าแฟน ๆ ที่คลั่งไคล้และชื่นชอบพวกเขา จนนิตยสาร Time ยกให้ The Beatles เป็น 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20 ส่วน Forbes Korea ก็จัดอันดับให้ BTS เป็นหนึ่งในบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่มีอิทธิพลประจำปี 2017

หลังจากนี้ คงต้องติดตามดูว่า BTS จะก้าวไปถึงจุดที่ The Beatles ทำได้หรือไม่ เพราะแม้จะผ่านมากว่า 50 ปีแล้ว ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า The Beatles ยังคงมีอิทธิพลและเป็นต้นแบบของวงดนตรีหลายๆ วงทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน ...