การเปิดตัว MAC PRO รุ่นใหม่ ในงาน WWDC 2019 กลายเป็นกระแสท่วมท้นในโลกโซเชียลมีเดียทันที ซึ่งก็มีทั้ง เสียงร้อง WOW ดังๆ ของ เหล่าสาวกแอปเปิล และเสียงกัดจิกจนร่างแทบจะขาดเป็นวิ่นๆ จากฟากฝั่ง คอแอนดรอยด์

ซึ่งแน่นอนมันย่อมหนีไม่พ้น วลีอมตะที่ทั้ง 2 ฝ่าย สาดใส่กันคือ

“ใครที่ไหนจะไปซื้อแพงขนาดนี้” และ “คนด่าไม่ได้ซื้อ คนซื้อไม่เห็นจะว่าอะไร”

ก็จะไม่ให้เกิดเสียงขรมไปท่วมทุ่งโซเชียลได้อย่างไร ในเมื่อ MAC PRO รุ่นใหม่นี้ มันมีค่าตัวเริ่มต้นสูงถึง 5,999 เหรียญสหรัฐฯ หรือ ประมาณ 185,969 บาท ซึ่งราคานี้ แพงกว่า เจ้า MAC PRO รุ่นก่อนหน้านี้ ที่มีราคาต่ำสุด 114,900 บาท แพงขึ้นจากรุ่นเดิม 61%!

และยังไม่พอ หากซื้อ จอ PRO DISPLAY XDR 6K เพิ่ม เพื่อให้การทำงานของคุณมันดู LOOK สุด COOL ในแบบฉบับมืออาชีพมากขึ้น คุณจะต้องจ่ายเพิ่มอีกในราคาต่ำสุดอีก 4,999 เหรียญ หรือ ประมาณ 154,969 บาท!

รวมเป็นเงินขั้นต่ำที่สุด ที่คุณต้องสังเวยให้กับเจ้า MAC PRO รุ่นใหม่นี้คือ 340,938 บาท!

...

แต่เท่านี้ยัง มันยังไม่พอ เพราะ จอ PRO DISPLAY XDR 6K นี้ มันตั้งด้วยตัวของมันเองไม่ได้ ฉะนั้น APPLE จึงขอเสิร์ฟคุณเพิ่มด้วย GADGET สุดชิค ซึ่งมันกำลังกลายเป็นดราม่า ที่คนชังบริษัทผลไม้ จิกกัดอยู่ในเวลานี้ นั่นก็คือ เจ้าขาตั้ง PRO STAND ที่มีราคาค่าตัวสูงถึง 999 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 31,408 บาท!

สามหมื่นกว่าบาท นี่คือ ราคาเฉพาะ ขาตั้งจอ!

ฉะนั้น เมื่อบวกเครื่องคิดเลข ราคาขั้นต่ำสุด สำหรับเจ้า MAC PRO รุ่นใหม่ ที่คุณจะต้องจ่ายก็คือ 185,969 + 154,969 + 31,408 = 372,346 บาท! 

372,346 บาท แลก คอมพิวเตอร์สเปกขั้นเทพ 1 ชุด LUXURY สมเป็น BRAND APPLE จริงๆ

เอาละ อยากรู้ไหมทำไม ไอ้ขาตั้งจอ หรือ Pro Stand มันถึงแพงขนาดนี้ APPLE สาธยายสรรพคุณของมันเอาไว้ดังนี้

Pro Stand มีแขนยึดที่ออกแบบทางวิศวกรรมอย่างพิถีพิถันเพื่อถ่วงน้ำหนักกับจอภาพได้อย่างสมดุล จึงให้ความรู้สึกที่เรียกว่าแทบจะไร้น้ำหนัก ช่วยให้ผู้ใช้จัดวางจอภาพในตำแหน่งที่ต้องการได้ง่าย นอกจากนี้ Pro Stand ยังปรับได้ทั้งความเอียงและความสูง และยังทำให้หมุน Pro Display XDR เป็นแนวตั้งได้ด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับการทำงานหลายประเภทอย่างการแต่งรูป การออกแบบเว็บเพจ หรือการเขียนโค้ด และยังสามารถยึดติดหรือถอดออกได้ง่ายๆ อย่างรวดเร็วจึงสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก

อย่างไรก็ดี ราคานี้ สำหรับคนภายนอกอาจจะมองว่า ทำไมมันถึงได้แพงขนาดนี้ แต่สำหรับ สาวกค่ายผลไม้ ที่แม้ในระยะหลังๆ เริ่มมีเสียงบ่นดังขึ้นทุกทีๆ กับราคาสินค้าของ APPLE ที่ชักจะแพงขึ้นๆ แต่ความ COOL เรื่องเทคโนโลยี เริ่มไม่ค่อยขยับไปตามราคาเท่าที่ควร อาจจะรู้สึกเฉยๆ (หรือเพราะชินก็เป็นได้)

...

เพราะที่ผ่านมา แบงก์ที่ต้องขนมาแลก กับความ COOL มันก็อยู่ประมาณนี้มาตลอดนี่นา เช่นนั้นแล้ว ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะขอพาแฟนๆ ไทยรัฐออนไลน์ทุกท่าน นั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลาไปสำรวจสินค้าสุดแพงที่ผ่านมาของ เจ้าพ่อ SILICON VALLEY รายนี้กัน 

อันดับ 12 POWERBOOK 3400C สำหรับเจ้าตัวนี้ ความแพงของมัน อยู่ที่ความเร็ว เนื่องจากมันถูก APPLE นำเสนอต่อชาวโลก ณ วันเปิดตัว ในปี 1997 ว่า มันคือ NOTEBOOK ที่เร็วที่สุดในโลก และยังเร็วๆ พอกับ DESKTOP MAC บางเครื่องในเวลานั้นอีกด้วย ฉะนั้น หากคุณอยากได้ความเร็ว คุณต้องจ่าย 6,500 เหรียญสหรัฐฯ (201,500 บาท) สำหรับ สเปกอัพสูงสุด

อันดับ 11 ลืมเครื่อง PRINTER ราคาไม่ถึง 3,000 บาท ที่อยู่ในบ้านคุณไปได้เลย เพราะ APPLE LASERWRITER ตัวนี้ มันมีค่าตัวสูงถึง 6,995 เหรียญสหรัฐฯ (216,845 บาท) ณ วันเปิดตัวต่อชาวโลก เมื่อปี 1985 (หากเทียบกับค่าเงินปัจจุบัน จะอยู่ที่ประมาณ 16,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 496,000 บาท)

ส่วนเหตุผลที่มันแพง ก็เพราะ มันคือหนึ่งใน PRINTER เครื่องแรกๆ ของโลก ที่ออกวางขายในตลาด ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับ DESKTOP จนทำให้การพิมพ์กลายเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก แถมยังสามารถแชร์กับคอมพิวเตอร์ MACINTOSH ได้หลายๆ เครื่องพร้อมกัน

อันดับ 10 ในที่สุดก็ถึงวันนี้ MAC PRO รุ่น 2013 คอมพิวเตอร์ ที่ถูกออกแบบมา เพื่อมือโปรด้านการตัดต่อภาพและวิดีโอ ณ ช่วงเวลานั้น ก็ถึงเวลาเสียแชมป์เข้าจนได้ หากแต่ในวันที่มันเปิดตัวนั้น ค่าตัวขั้นต่ำสุดของมันอยู่ที่ 2,999 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 92,969 บาท แต่หากคุณต้องการ ระดับ MAX สุดของสเปกเครื่อง คุณจะต้องจ่ายเงินไปทั้งสิ้น 6,999 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 216,969 บาท

...

อันดับ 9 MAC BOOK PRO 2016 เราเพิ่งอยู่กับเจ้าตัวนี้ได้ไม่นาน เพราะมันเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2016 โดยค่าตัวแพงที่สุดในสเปกของมันก็คือ 7,049 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 218,519 บาท

อันดับ 8 หลับตานึกภาพว่าคุณกำลังอยู่ในปลายยุค 80 คุณนึกภาพออกไหมว่า คอมพิวเตอร์แบบพกพามันคืออะไร หากนึกไม่ออก เจ้าตัวนี้คือคำตอบ เพราะ APPLE เปิดตัวคอมพิวเตอร์แบบพกพาตัวแรก ซึ่งก็คือ MACINTOSH PORTABLE ตัวนี้ ในเดือนกันยายน ปี 1989 และมันไม่ได้น้ำหนักมากถึง 7.2 กิโลกรัมเท่านั้น แต่ราคาค่าตัวของมันก็ไม่เบาเช่นกัน เพราะมันอยู่ที่ 7,300 เหรียญสหรัฐฯ หรือ ประมาณ 226,300 บาท (หากเทียบกับค่าเงินปัจจุบัน จะอยู่ที่ประมาณ 14,300 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 443,300 บาท)

อันดับ 7 อยากรู้ไหม APPLE ทำอะไรในโอกาสครบรอบ 20 ปี เครื่อง MACINTOSH เจ้าตัวนี้คือคำตอบ มันคือความ COOL ที่สุด ในวันที่มันเปิดตัวเมื่อปี 1997 และเป็นบรรพบุรุษของเครื่อง iMac ในปัจจุบัน และถูกผลิตเพียง 20,000 เครื่องเท่านั้นในโลก

มันคือ TAM หรือ ย่อมาจากชื่อที่แสนยาวว่า THE TWENTIETH ANNIVERSARY MACINTOSH ฉะนั้น ไม่ต้องแปลกใจนะ ที่ค่าตัว ณ เวลานั้นของมันจึงอยู่ที่ 7,499 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 232,469 บาท (หากเทียบกับค่าเงินปัจจุบัน จะอยู่ที่ประมาณ 11,200 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 347,200 บาท)

...

อันดับ 6 คุณรู้ไหม หากคุณอยากซื้อ MAC ที่มี HARD DRIVE 40MB ในช่วงปลายยุค 80 คุณจะต้องจ่ายเงินเท่าไร เจ้าตัวนี้ คือ คำตอบ MACINTOSH IIci ค่าตัวของมันอยู่ที่ 8,800 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 272,800 บาท ในวันที่มันถูกเทออกขายเมื่อปี 1989

อันดับ 5 ราคา 9,369 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 290,439 บาท คือ ค่าตัวของ MACINTOSH IIx ที่มาพร้อม HARD DRIVE 80MB คอมพิวเตอร์จอสี ที่ถูกเรียกว่า การนำพาไปสู่กุญแจสำคัญทางธุรกิจและการเรียนรู้ขั้นสูง ในปี 1988

อันดับ 4 คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ใช้งาน ร่วมกับเม้าส์ ที่เราแสนคุ้นเคยในปัจจุบัน และมีกราฟิกแสนง่ายให้บรรดา USER ใช้งาน แทนที่การนั่งท่องจำคำสั่งสำหรับสั่งงานเจ้าคอมพิวเตอร์ จนเราแทบจะบ้าตาย ด้วยเหตุนี้ ไม่แปลกเลยใช่ไหม ที่ APPLE LISA ที่ถูกเทขายเมื่อปี 1983 จะมีราคาสูงถึง 9,995 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 309,845 บาท (หากเทียบกับค่าเงินปัจจุบัน จะอยู่ที่ประมาณ 24,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 744,000 บาท)

อันดับ 3 หากมีความสำเร็จ ก็ย่อมมีความล้มเหลว MACINTOSH IIFX คือ หนึ่งในความล้มเหลวของ APPLE ในช่วงที่มันจะถูกวางขาย เมื่อปี 1990 APPLE มีคอมพิวเตอร์วางจำหน่ายในตลาด ถึง 15 รุ่นที่แตกต่างกัน ในรอบ 14 ปี

แถมการพยายามวางตำแหน่งของมัน ว่า คือ คอมพิวเตอร์สเปกแรงขั้นเทพ เพื่อหวังสร้าง IMPACT ในตลาดโลก แต่นั่นคือความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เพราะความจริงที่แท้ทรู คือ MACINTOSH IIFX ล้าหลังกว่าคอมพิวเตอร์ร่วมรุ่นในช่วงต้นยุค 90 เป็นอย่างมาก

การพยายามวางตำแหน่งให้มันเป็นคอมพิวเตอร์ประจำออฟฟิศ ทำให้ APPLE ดันราคาขายมันสูงถึง 12,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 372,000 บาท สำหรับสเปกแรงสุด

อันดับ 2 คงไม่จำเป็นต้องพูดมาก สำหรับเจ้าตัวนี้ เพราะมันเพิ่งออกวางขายครั้งแรกเมื่อปี 2017 แน่นอนมันคือ อีกหนึ่งคอมพิวเตอร์ขั้นเทพ สำหรับมือตัดต่อในระดับโปรๆ ราคาค่าตัว iMac Pro อยู่ที่ 13,199 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 409,169 บาทสำหรับสเปกเทพ

อันดับ 1 เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งแปลกใจ ทำไม APPLE WATCH ถึงมาอยู่ในอันดับหนึ่ง สินค้าแพงสุดของเจ้าพ่อ SILICON VALLEY ไปได้ เพราะ APPLE WATCH ที่ว่านี้ หาใช่นาฬิการาคาหมื่นต้นๆ ถึง หมื่นปลายๆ ดังที่หาได้ทั่วไปในท้องตลาด ตั้งแต่ออกวางขายเมื่อปี 2015

แต่มันคือ APPLE WATCH EDITION สำหรับ เหล่า COLLECTORS ทั้งหลาย ซึ่งราคาเริ่มต้นของมันจะอยู่ที่ 10,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 310,000 บาท คือ รุ่นที่ตัวสายทำจากทองโรสโกลด์ จนถึงรุ่นที่แพงสุด 17,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ ประมาณ 527,000 บาท ที่ตัวสายทำจากทองโรสโกลด์และประดับด้วยเพชร 18 กะรัต

อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว LUXURY พอหรือยัง....

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน