ไม่มีคำว่า “สายเกินไป” สำหรับการ “กลับใจ” เพราะในชีวิตนี้สามารถ “กลับตัว” ได้เสมอ ขอเพียงมีใจที่มุ่งมั่น ดังชีวิต "นายถาวร ธารแก้ว" ผู้หลงผิด เลือกเส้นทางชีวิต สู่วังวนอบายมุข ทำผิดศีลทั้ง 5 เป็นอาจิณ จนเรียนไม่จบ ม.6 พลิกชีวิตที่มืดดำกลับมาเป็นขาว จากที่ชาวบ้านไม่กล้าเลือกเป็นผู้นำ เพราะเรื่องโจษจันด้านไม่ดีต่างๆ ในอดีต สู่ตำแหน่ง “กำนัน” ที่คนทั้ง 8 หมู่บ้านของ ต.อ่างทอง จ.พัทลุง เคารพ นับถือ จนได้รับรางวัลกำนันดีเด่น...

ดับฝัน เรียนจบ ม.6 ศีล 5 ข้อที่ห้าม ทำผิดทั้งหมด

กำนันถาวร ตกผลึกการดำเนินชีวิตที่ผิดพลาดในอดีตของตนกับทีมข่าวฯ ว่า ด้วยพรรคพวกนำพา และจิตใจ นิสัยที่เป็นคนรักพวกพ้องมากเกิน ทำให้ชีวิตต้องก้าวพลาดเข้าสู่ความมืดมิด เริ่มเล่นการพนันตั้งแต่เรียน ม.1 ทำตัวเกกมะเหรกเกเร ทำตามหน้าที่ไปโรงเรียนทุกวัน แต่กลับไม่ค่อยเข้าห้องเรียน มักหลบมุมแอบเล่นการพนันต่างๆ อาทิ เล่นไพ่เปิดแต้ม พนันนับเม็ดมะนาว เมล็ดทุเรียน ใช้ชีวิตหมกมุ่นกับการพนัน จนกระทั่งทำให้เรียนไม่จบ ม.ปลาย

...

อีกทั้งศีล 5 ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้ชาวพุทธทุกคนยึดถือปฏิบัติเป็นหลักของชีวิต มีความหมาย คือ 1. เว้นจากทำลายชีวิต 2. เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้ 3. เว้นจากประพฤติผิดในกาม 4. เว้นจากพูดเท็จ 5. เว้นจากของเมา คือ สุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เขาก็ทำผิดอยู่เป็นนิจจนถือเป็นเรื่องปกติ

“ตอนเด็กผมเห็นปู่เล่นพนัน พอผมโตก็มาเล่นพนันตั้งแต่ ม. 1 2 3 4 5 เล่นทุกอย่าง ที่ชอบมาก คือ ไฮโล ไก่ชน วัวชน เล่นจนไม่สนใจเรียน ต้องออกโรงเรียนกลางคัน ศีล 5 ข้อที่ห้าม ผมทำผิดทั้งหมด เกกมะเหรกเกเรมาก เล่นพนัน ดื่มเหล้า หมกมุ่นอยู่แต่สิ่งไม่ดีมาตลอด เล่นพนัน พอแต่งงานตอนอายุ 20 ปี มีครอบครัวแล้ว ผมก็ยังทำตัวเหมือนเดิม” กำนันถาวรเปิดใจกับทีมข่าวฯ

จากครอบครัวมีฐานะ เป็นลูกที่ด้อยสุด สังคมไม่ยอมรับ ไม่ชอบพฤติกรรม

จากการที่กำนันถาวรเป็นหัวหน้าครอบครัวแบบใช้อำนาจเด็ดขาด หากต้องการทำสิ่งใดก็จะทำหมดโดยไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูก ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่ผิดก็ตาม คำพูด คำเตือน คำแนะนำต่างๆ ของภรรยาจึงไม่มีผลต่อเขาเลย ซึ่งเขาทั้งเล่นการพนัน และดื่มหนัก เป็นคนอารมณ์ร้อน รุนแรง ต้องการอะไรก็ต้องได้ ถ้าไม่ได้ก็มีการตบตี ทำให้ครอบครัวไม่มีความสุขเลย

“ผมคิดตื้นๆ ไงว่าจะหาเงินได้ง่ายๆ จากการพนัน แต่สุดท้ายมันกลับไม่เหลืออะไรเลย ทำงานได้ก็เอาเงินไปเล่น พอชนะพนันก็เอามาใช้จ่ายจนหมดตัว จริงๆ ผมเกิดมาในครอบครัวค่อนข้างมีฐานะในพื้นที่ชนบทละแวกนั้นนะ แต่ ณ วันนั้น ผมเป็นคนที่ด้อยกว่าคนอื่นในบรรดาลูกของแม่ทั้งหมด และไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมเลย มีแต่คนไม่ชอบ”

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ใกล้ตาย คิดได้ ตัดขาดอบายมุขทุกชนิด

กระทั่งเมื่อประมาณปี พ.ศ.2551 ที่เกิดวิกฤติชีวิตหลายๆ ด้านกับเขา ซึ่งนอกจากปัญหาครอบครัวแล้ว ยังประสบปัญหาล้มป่วยหนักจนเกือบเสียชีวิต เนื่องจากมีเนื้องอกในลำไส้ ต้องผ่าตัด พักฟื้นในห้องไอซียู 2 อาทิตย์ จากนั้นนอนโรงพยาบาลพักฟื้นอีกประมาณ 2 เดือน ตอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนี่เองทำให้เขาได้ทบทวนตัวเองหลายเรื่อง พอออกจากโรงพยาบาลเขาจึงหยุดอบายมุขทุกสิ่งอย่าง ทั้งการพนัน เหล้า บุหรี่ พร้อมกับหยุดเที่ยวเกกมะเหรกนอกบ้านด้วย

“เพราะปัญหาสุขภาพ ผมจึงตั้งปณิธานว่า จะหยุดทุกอย่างที่ไม่ดี เปลี่ยนชีวิตจากดำ ให้ขาวให้ได้ เพื่อครอบครัว และผมจะได้ยืนอยู่ในสังคมได้”

...

อดีตร้ายๆ ทำให้คนไม่กล้าเลือกเป็นผู้นำ มุ่งมั่นเปลี่ยนชีวิตจากดำเป็นขาว

กว่าจะได้รับการยอมรับจากสังคม จนได้เข้ามาเป็นผู้นำชุมชน นายถาวรเล่าว่า ในปี 55 เคยลงสมัครผู้ใหญ่บ้าน 2 ครั้ง แต่ไม่เคยได้รับเลือก ด้วยเหตุผลของชาวบ้านว่า “ไม่กล้าให้เป็นผู้นำ” เพราะอดีตร้ายๆ ที่มีนิสัยที่ดุ ก้าวร้าว เกเร กระทั่งปี 56 เขาก็ได้รับการคัดเลือก ให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน ด้วยคะแนนท่วมท้นจากชาวบ้าน จนสามารถชนะคนที่ 2 มากพอสมควร นั่นเป็นเพราะเขาปฏิบัติตนอยู่ในกรอบเสมอมา

...

“ผมชนะคะแนนในครั้งที่ 2 ตอนนั้นลงเลือกผู้ใหญ่บ้าน 3 คน ผมได้ชนะเป็นที่ 1 อย่างท่วมท้น เพราะผมอยู่ในกรอบวินัย อุตสาหะ เพราะปณิธานไว้แล้ว พอมาเป็นผู้ใหญ่บ้านก็เรียนต่อ ม.ปลาย เรียนต่อ ป.ตรี กับ มสธ. เอกบริหารจัดการ สาขานักปกครองท้องที่ เพราะกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ทำ MOU กับ มสธ.”

จากผู้ใหญ่บ้าน 1 ปี สู่กำนันคนที่ 3 ของหมู่บ้าน คนที่ 6 ของตำบล

ดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน 1 ปี ครั้นปี 2557 อดีตกำนันเสียชีวิต และผู้ใหญ่ถาวรก็เสนอตัวลงสมัคร ก็ได้รับเลือกจาก 8 หมู่บ้าน ให้เป็นกำนันตำบลอ่างทอง อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง จากการทำงานเพื่อสังคมอย่างหนัก เพื่อลบล้างความผิดในอดีต คุณความดีที่กำนันถาวรทำด้วยหัวใจ ทำให้ในปี 2560 ได้รับรางวัลกำนันยอดเยี่ยมของ จ.พัทลุง

“มองย้อนอดีต ในวันที่ผมชนะพนันก็ไม่ได้เอาเงินไปให้ครอบครัว กลับเอาไปใช้จ่ายบำเรอตัวเอง เงินพนันที่ได้มาไม่เคยมีคุณค่าต่อครอบครัวเลย กลับทำให้ครอบครัวเป็นทุกข์ และยิ่งในวันที่ผมแพ้พนัน มันยิ่งซ้ำเติมให้ครอบครัวเป็นทุกข์เพิ่มขึ้นอีกร้อยเท่าพันเท่า ผมเลิกมาเป็นสิบปีแล้ว ตอนนี้ผมอายุ 50 กว่า ผมอยากสร้างคุณงามความดีผ่านตำแหน่งที่ชาวบ้านให้โอกาสยอมรับ เพื่อได้ลบล้างสิ่งไม่ดีที่ทำมาในอดีต”

...

เดินสายในรั้วมหาวิทยาลัย เล่าอดีตชีวิต เตือนสติ นักศึกษา

นอกจากอุทิศตนทำหน้าที่กำนันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่กำนันถาวรพร้อมทำเพื่อสังคมอย่างไม่อิดออด นั่นคือ เปิดเผยเรื่องราวชีวิตตนเองในอดีต บรรยายให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ ในวันปฐมนิเทศ เพื่อเป็นอุทาหรณ์

“จริงๆ ผมพูดไม่เก่งนะ แต่มีโรงเรียน มหาวิทยาลัยเชิญให้ผมไปพูดกับน้องๆ ผมก็ไม่อายนะ ยินดีด้วยซ้ำ ผมก็จะเล่าถึงความประพฤติไม่ดีต่างๆ ของผม สะท้อนให้น้องๆ เยาวชนได้เห็นความเป็นจริง ความไม่เที่ยงแท้ในอดีตของผม แต่ในท้ายสุด ผมก็สามารถประคับประคองครอบครัวของผมให้กลับมามีความสุขได้ ได้รับการยอมรับจากสังคม เพราะหนึ่ง ไม่เที่ยว สอง ไม่เล่นการพนัน” กำนันถาวรกล่าวทิ้งท้าย

สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราว หรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่

reporter.thairath@gmail.com  หรือช่องทาง Facebook : ทีมข่าวเฉพาะกิจ