ย้อนรอย 30 ปี จุดแรกเริ่ม "นักการเมือง" ต้องคู่กับ "พวงมาลัยดาวเรือง" ขณะหาเสียง "เลือกตั้ง" อดีต ส.ส. เตือนระวัง "ถูกแกล้ง" เป็นของแถมจากพวงมาลัย ส่งผลเสียบุคลิกขณะขึ้นปราศรัย "หาเสียงเลือกตั้ง" ...
อีกหนึ่งสีสันเหลืองอร่ามของศีก "เลือกตั้ง" ที่มักพบเห็นประจำ และดูเหมือนจะเป็นของคู่กันกับนักการเมืองไทย นั่นคือ "พวงมาลัยดอกดาวเรือง" ที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคต่างๆ ลงพื้นที่หาเสียงจากประชาชนตามจังหวัด หรือสถานที่ต่างๆ ถูกคล้องมาลัยเต็มคอ เต็มแขนขณะออกหาเสียง "เลือกตั้ง" เป็นภาพที่คุ้นตาคนไทยมาหลายยุคหลายสมัย จึงเกิดคำถามจากเด็กรุ่นใหม่ Gen Y พวงมาลัยดอกดาวเรืองกับนักการเมืองไทย มีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมขนาดและสีเท่ากันเป๊ะ พรรคการเมืองซื้อแล้วให้ประชาชนช่วยสวมพวงมาลัยให้ ส.ส. หรือเปล่า
จุดแรกเริ่ม นักการเมืองกับพวงมาลัยดาวเรือง ในศึก "เลือกตั้ง"
'เฮียตือ' นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ประกาศลาออกจากพรรค เมื่อ 6 พ.ย. 61 หลังอยู่มายาวนานถึง 32 ปี ตั้งแต่ปี 2529 -2561เผยประวัติพวงมาลัยดาวเรืองจากประสบการณ์ของตัวเองในอดีตกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ว่า วัฒนธรรมการคล้องพวงมาลัยดอกดาวเรืองให้แก่นักการเมืองขณะออกหาเสียง "เลือกตั้ง" ในเชิงประวัติศาสตร์ ไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อใด
...
แต่มีข้อสันนิษฐานว่า เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2531 เพราะในปี 2529 ที่ลงสมัคร "เลือกตั้ง" ครั้งแรก ตอนนั้นยังไม่มีพวงมาลัยดอกดาวเรือง เริ่มเห็นมีมาประปรายเมื่อปี 2531 ในการลงเลือกตั้งครั้งที่ 2 พอปี 2535 ก็มีความนิยมมาตลอดจนถึงปัจจุบัน โดยก่อนปี 2529 นิยมคล้องพวงมาลัยให้ผู้หาเสียงเลือกตั้งเป็นพวงมาลัยดอกมะลิ 2 ชาย
สำหรับคุณค่าและความหมายของดอกดาวเรืองที่นำมาเป็นพวงมาลัยคล้องคอให้ผู้สมัคร ส.ส. เมื่อมีการลงพื้นที่ปราศรัย รณรงค์หาเสียง "เลือกตั้ง" และขึ้นเวทีปราศรัย ทำให้เป็น “ภาพจำ” ของประชาชนจนกลายเป็นวัฒนธรรมคล้องพวงมาลัยดอกดาวเรืองแก่นักการเมืองทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งจนถึงทุกวันนี้
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุเหตุผลว่า เปรียบเสมือนการมองถึงชัยชนะ เพราะดอกดาวเรืองมีความหมายที่ดีอยู่ในตัว ซึ่งหมายถึง "ความเจริญรุ่งเรือง" ประชาชนที่นำมาคล้องคอให้ขณะ "หาเสียงเลือกตั้ง" ก็เพราะรัก ชื่นชอบ อยากสนับสนุน ให้กำลังใจ และให้ประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรืองก็นำดอกดาวเรืองมาคล้องให้
อดีต ส.ส. ฝากเตือน ระวังโดนแกล้ง เป็นของแถมจาก "พวงมาลัยดอกดาวเรือง"
กับคำถามที่สังคมสงสัยว่า ผู้ให้ "พวงมาลัยดอกดาวเรือง" เบื้องหลังคือพรรคการเมืองซื้อแล้วให้ประชาชนช่วยสวมพวงมาลัยดอกดาวเรืองให้หรือเปล่า อดีตแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา อธิบายจากข้อเท็จจริง สมัยออกเดินทางหาเสียงตั้งแต่วันแรกที่ลง "รับสมัครเลือกตั้ง" เมื่อปี 2529 ว่า
ตนนั้นได้รับ "พวงมาลัยดาวเรือง" เยอะมากจากคนที่รักและสนับสนุนที่เตรียมมาคล้องต้อนรับเมื่อรู้ว่าจะปราศรัยหรือไปพบที่พื้นที่ใด ซึ่งคนริเริ่มให้ "พวงมาลัยดอกดาวเรือง" คือ ชาวบ้านที่รัก พอใจ สนับสนุน นิยมชมชอบ จะเรียกว่า "หัวคะแนน" ไม่ได้ เพราะตนไม่มีหัวคะแนน มีแต่ชาวบ้านเป็นฐานเสียง
...
“ไม่มีวันไหนที่ไม่ได้พวงมาลัยดอกดาวเรือง ช่วงฤดูกาลหาเสียงเลือกตั้งเป็นช่วงที่ดอกดาวเรืองขายดีที่สุด พอได้รับคล้องคอหนึ่งถึงสองพวงแรก พอพวงสาม สี่ก็ให้คล้องแขนแทนคอ จบจากจุดนั้นก็รีบนำออก เพราะต้องไปรับจุดต่อไป ถามว่าหนักไหม แล้วแต่ว่าดอกเล็กดอกใหญ่ แต่ช่วงนั้นไม่รู้สึกหนักแล้ว เป็นความรู้สึกภาคภูมิใจมากกว่า รู้สึกอิ่มเอิบที่ชาวบ้านรัก ชาวบ้านมาให้กำลังใจ
มองว่ายิ่งเยอะยิ่งดี บางคนใส่จนล้นคอ ซึ่งผมไม่นิยมอย่างนั้น อย่างเก่งแค่พวงสองพวง แล้วเอามาคล้องแขนดีกว่า
เคยมีเพื่อนนักการเมืองเล่าให้ฟัง ว่าโดนแกล้ง เพราะบางทีดอกดาวเรืองก็โรยหมามุ่ยมาด้วยก็มี พอใส่คอแล้วคัน ทำให้เสียบุคลิก เวลาขึ้นไปพูดปราศรัย แต่ผมไม่เคยโดน ไม่เคยระวังตัว ไม่เคยสังเกตด้วย เพราะผมหาเสียงกับชาวบ้านง่ายๆ ไม่เว่อร์” นายสมศักดิ์ กล่าว
มีจริง เวียนเทียน "พวงมาลัยดาวเรือง" สื่อภาพประชาชนสนับสนุนเยอะ
ด้วยเหตุ "พวงมาลัยดอกดาวเรือง" เมื่อนำมาคล้องให้ "ผู้สมัคร ส.ส." นอกจากตอบโจทย์ได้ในเรื่องความเชื่อด้านความเป็น "สิริมงคล" แล้ว ยังช่วยเสริมสร้าง "ภาพลักษณ์ของนักการเมือง" ให้โดดเด่นอีกด้วย ซึ่งนายสุวิทย์ มิ่งมล ผู้สื่อข่าวชำนาญการ ช่อง 9 จากประสบการณ์ที่คร่ำหวอดข่าวการเมืองมา 20 กว่าปี เป็นอีกเสียงยืนยัน
...
"ดอกดาวเรือง" เป็นที่นิยมในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง นั่นเป็นเพราะหาซื้อได้ง่ายทั่วไป และปลูกได้ทุกฤดูกาล อีกทั้งชื่อ “ดาวเรือง” เป็น "ไม้มงคล" นอกจากในช่วง "หาเสียงเลือกตั้ง"แล้ว ก็นิยมใช้กันทั่วไปในงานศาสนามงคลอื่นๆ เพื่อให้มี "ความเจริญรุ่งเรือง" ประสบความสำเร็จ ก้าวหน้า อีกทั้ง 1.หาง่าย 2. ร้อยง่าย 3. เก็บง่าย 4. เวลาคล้องใส่คอพวงเดียวก็ดูใหญ่
นอกจากนี้แล้วในพื้นที่ภาคอีสานผู้สมัครมักจะได้ "ผ้าขาวม้า" ที่ชาวบ้านทำเองควบคู่ "พวงมาลัยดอกดาวเรือง" ด้วย และจากประสบการณ์ช่วงทำ "ข่าวเกี่ยวกับนักการเมือง" เคยเห็น "นักการเมือง" ทุกคนจะได้รับพวงมาลัยเมื่อขึ้น "ปราศรัย" โดยเฉพาะ "หัวหน้าพรรค" มักได้รับพวงมาลัยดอกดาวเรืองเยอะกว่า ซึ่งส่วนใหญ่หัวคะแนนจัดมาให้ และทีมแต่ละพรรคจัดหา เคยเห็นซื้อมาเป็นถุงๆ แล้วนำมาร้อยพวงเองหรือสั่งเป็นพวง และบางครั้งมีการ "เวียนเทียน" พวงมาลัยเพื่อภาพลักษณ์ด้วย
...
“ถ้าจะใช้ดอกกุหลาบก็ราคาแพง จะนำดอกบัวมาร้อยให้ก็ไม่เหมาะสม เพราะใช้ในเรื่องศาสนามากกว่า ดอกไม้ไทยที่ถูกและหาได้ง่ายที่สุดก็ดอกดาวเรือง หากเป็นดอกอื่นๆ ก็ดูเล็ก แต่ดอกดาวเรืองดูใหญ่ เวลานำไปคล้องคอ คล้องแขนนักการเมืองแลดูใหญ ดูเต็ม หลังปราศรัยเสร็จ นักการเมืองถอดกองไว้หลังเวที จากนั้นบรรดาทีมหาเสียงก็เก็บเอาไปเวียนเทียนใช้ในเวทีปราศรัย หรือ การหาเสียงในจุดอื่น ทำให้ถูกมองว่ามีประชาชนมาสนับสนุนเยอะ
พวงมาลัยมีทั้งที่ชาวบ้านเอามาให้ แล้วทีมหาเสียงก็ตามมาคล้อง ดอกดาวเรืองมีทุกภาค ปลูกได้ทุกฤดูกาล ราคาไม่แพงมาก ง่ายกับการเก็บรักษา การร้อยก็ง่าย เสียบแป๊บเดียวก็เป็นพวงใหญ่แล้ว ซึ่งมีทั้งซื้อมาร้อยเอง และสั่งเป็นแบบพวงมาแล้ว” นายสุวิทย์กล่าว
เมื่อเป็นที่นิยมในศึก "เลือกตั้ง" เปิดราคา "ดอกดาวเรือง" ขยับสูงขึ้นหรือไม่
เมื่อเป็นที่นิยมในศึกเลือกตั้ง ราคาดอกดาวเรืองจะขยับตัวสูงขึ้นหรือไม่ ทีมข่าวฯ สอบถามจาก น.ส.โสพิชชา เสถียรคมสรไกร หรือฝ้าย วัย 26 จบโทรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า แต่มาช่วยอาขายดอกไม้ที่ ร้านเจ๊ตุ่ม "ปากคลองตลาด" มา 10 กว่าปี แต่ร้านอยู่มาตั้งแต่เปิดตลาดใหม่ๆ ได้ 40 กว่าปี เปิดเผยว่า
"ดาวเรือง" ของร้านนำมาจาก "โคราช" และ "บุรีรัมย์" ซึ่งเป็นแหล่งส่งขนาดใหญ่ ขณะนี้ดาวเรืองไม่ขาดตลาด ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากปัจจุบันคนทำเกษตรกันมาก หันมาปลูกดาวเรืองกันมากขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่มีตลาดส่ง ส่งผลให้ดอกดาวเรืองล้นตลาด ราคาจึงไม่แพงมาก
ช่วงนี้ "ใกล้เลือกตั้ง" และเป็นช่วงฤดู "หาเสียง" ของผู้สมัคร ส.ส. พวงมาลัยดาวเรืองขายดี คนมาซื้อมาลัยคล้องคอมากขึ้น ในแต่ละวันจะมีออเดอร์จากแม่ค้าทั่วไปครั้งละ 500-1 พันดอก มีทั้งซื้อไปร้อยเอง หรือสั่งเป็นพวงๆ ตั้งแต่ 20 พวง 100 พวง แล้วแต่พรรค แต่หากลูกค้าออเดอร์จำนวนมากๆ ต้องโทรสั่งล่วงหน้า 1-2 วัน
ทั้งนี้ พวงมาลัย 1 พวงใหญ่ราคา 50 บาท จะใช้ดอกดาวเรืองประมาณ 40-50 ดอก อุปกรณ์ในการร้อย แค่ใช้เข็มกับเชือกฟางสีเหลือง เพราะสีของเชือกจะกลมกลืนกับสีดาวเรือง ส่วนเทคนิค ก็เลือกดอกที่กลมๆ ขนาดเท่าๆ กันมาร้อย พวงมาลัยจะได้เสมอกัน และต้องผูกเชือกให้แน่นเวลาไปคล้อง เชือกจะไม่หลุด
ทั้งนี้ดาวเรือง ออกดอกตลอดปี แต่ "ช่วงหน้าร้อน" จะออกดอกเยอะสุด ปัจจุบันเมล็ดพันธุ์ มีหลายบริษัท แต่ละบริษัทก็จะพัฒนาเมล็ดพันธุ์ขึ้นเพื่อให้ตอบสนองต่อสภาพอากาศแต่ละฤดู ซึ่งคุณภาพกลีบดาวเรืองจะแตกต่างกันไป เช่น แปลงวิจัยพันธุ์ดาวเรืองที่เชียงใหม่จะผลิตสายพันธุ์ใหม่มาทุกปี เพราะอากาศแต่ละปีต่างกัน
สำหรับสีที่นิยมนำมาทำ "พวงมาลัยดาวเรือง" คือ "สีทอง" ถ้าในตลาดเรียก "สีส้ม" ด้านการดูแล ทางร้านจะเก็บตุนดอกดาวเรืองไว้ในห้องเย็น ส่วน "ราคา" ก่อน และขณะ "หาเสียงเลือกตั้ง" ไม่มีผลกับการคิดราคาขาย การตั้งราคาจะขึ้นอยู่กับว่าดาวเรือง "ล้นตลาด" หรือเปล่า ราคาตอนนี้ดอกใหญ่ 80 ส.ต. - 1 บาท ดอกเล็กๆ 10-20 ส.ต. แต่ถ้าร้อยดอกยาวเป็นเมตรราคาอยู่ที่ เมตรละ 40 บาท ช่วงดาวเรืองแพงก็เมตรละ 70-80 บาท
“อยากให้แก้เรื่อง เศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ การจัดระเบียบ ที่กำลังส่งผลกระทบต่อแม่ค้าในตลาด อยากให้จัดให้ปากคลองตลาดเป็นที่ท่องเที่ยวให้ชาวต่างชาติเหมือนเดิม พอจัดระเบียบไม่ให้ขายข้างทาง แผงค้าก็กระจาย คนก็ไม่ค่อยมาซื้อของเหมือนเดิม” น.ส.โสพิชชาเล่าความเดือดร้อน หวังฝากให้พรรคที่ชนะเลือกตั้ง 62 ช่วยแก้ไข
สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราว หรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่
reporter.thairath@gmail.com หรือช่องทาง Facebook : ทีมข่าวเฉพาะกิจ