ทีมข่าวเจาะประเด็น มีโอกาสติดตามการฝึกหลักสูตรการทำลายวัตถุระเบิด กองบัญชาการตำรวจนครบาล รุ่นที่ 2 หรือที่ทุกคนต่างเรียกขานกันในนาม “หน่วยอีโอดี” อันเป็นหน่วยงานสำคัญในการผลิตตำรวจ ซึ่งเลื่องชื่อในเรื่องความเสียสละ ความเสี่ยงชีวิต และมีสติมากที่สุดอีกหน่วยหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

...

เปิดใจ ‘มือหนึ่งกู้ระเบิดเมืองไทย’ กำธร อุ่ยเจริญ หัวเรือใหญ่อีโอดี

พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ รอง ผบก.สปพ.(191) หรือ รองอุ่ย วัย 51 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด มือหนึ่งด้านงานเก็บกู้วัตถุระเบิดของเมืองไทย ยอมเปิดใจกับทีมข่าวถึงหลักสูตร EOD ว่า หลักสูตรดังกล่าว ใช้เวลาในการศึกษาทั้งหมด 14 สัปดาห์ หรือ 490 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็นภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งวิชาความรู้ที่ผู้เรียนจะได้รับหลังจากเรียนจบหลักสูตรก็คือ 1.มีความรู้ความชำนาญในการเก็บกู้วัตถุระเบิด 2.การพิสูจน์ทราบวัตถุต้องสงสัย 3.การตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ 4.การพิสูจน์ทราบเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดขนาดต่างๆ

พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ
พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ

ขณะที่ ผู้เรียนหลักสูตรการทำลายวัตถุระเบิด กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะต้องเข้ารับการฝึกจากหน่วยทำลายวัตถุระเบิดที่อยู่ในสังกัดของเหล่าทัพ อาทิ กองทัพบก(เข้ารับการฝึก 1 สัปดาห์), กองทัพเรือ(เข้ารับการฝึก 1 สัปดาห์), กองทัพอากาศ(เข้ารับการฝึก 1 สัปดาห์) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(เข้ารับการฝึก 5 สัปดาห์)

...

พ.ต.อ.กำธร นายตำรวจผู้เผชิญหน้ากับวัตถุระเบิดมามากกว่า 5 พันครั้ง บอกกับทีมข่าวว่า สำหรับผู้ที่เรียนจบจากหลักสูตรการทำลายวัตถุระเบิดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น บุคคลนั้นๆ จะต้องยึดปรัชญา 4 ข้อในการเก็บกู้วัตถุระเบิด อันได้แก่ 

1. ชีวิตต้องปลอดภัยทั้งชีวิตผู้เก็บกู้ระเบิด และชีวิตของประชาชน
2. ทรัพย์สิน ต้องไม่เสียหาย
3. วัตถุพยาน ต้องสมบูรณ์พอที่จะดำเนินคดีคนร้ายได้
4. ชุมชน ต้องดำเนินชีวิตเป็นปกติ

...

นอกจากนี้ มือหนึ่งด้านงานเก็บกู้วัตถุระเบิดของเมืองไทย ยังฝากถึงประชาชนทั่วไปสามารถระวังภัยจากเหตุระเบิดได้ โดยมีหลัก 4 ข้อง่ายๆ ดังต่อไปนี้
1. ไม่เคยเห็น
2. ไม่เป็นของใคร
3. ไม่ใช่ที่อยู่
4. ดูไม่เรียบร้อย

...

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังมีโอกาสพูดคุยกับนักเรียนทำลายวัตถุระเบิดถึงสารพัดเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการฝึก EOD ที่เดิมพันด้วยชีวิตนาทีต่อนาที...

เปิดใจนักเรียนอีโอดี บช.น. รุ่นที่ 2/2561 กล้า เสียสละ เพื่อชีวิตผู้บริสุทธิ์

นักเรียนทำลายวัตถุระเบิด หมายเลข E-02 ภัฎ อินเถลิงศักดิ์ (ฝากยศพันตำรวจโท) เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็นว่า ส่วนตัวเป็นคนที่ชื่นชอบการฝึกอยู่แล้ว โดยเฉพาะยุทธวิธีต่างๆ ในอดีตขณะที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ นอกจากการฝึกตามปกติแล้ว ก็มักจะไขว่คว้าหาการฝึกรูปแบบต่างๆ มากกว่าปกติ จนกระทั่งจบมาทำงาน ก็ต้องฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ จึงเป็นที่มาให้ตนชอบและรักในการฝึก

นักเรียนทำลายวัตถุระเบิด หมายเลข E-02 ภัฎ  อินเถลิงศักดิ์ (ฝากยศพันตำรวจโท)
นักเรียนทำลายวัตถุระเบิด หมายเลข E-02 ภัฎ อินเถลิงศักดิ์ (ฝากยศพันตำรวจโท)

“สำหรับหลักสูตร EOD นั้น ผมมีความใฝ่ฝันและมุ่งมั่นว่า ในชีวิตนี้ต้องมาฝึกให้จงได้ เพราะหลักสูตรนี้ไม่สามารถไปเรียนได้ตามโรงเรียนทั่วไป เมื่อฝึกแล้วก็จะเป็นทักษะที่จะติดตัวเราไปตลอดชีวิต”

“การเรียนหลักสูตรนี้ทำให้ผมสามารถประเมินสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างถูกต้องแม่นยำมาก มีหลักในการคิด วิเคราะห์ วางแผน ดำเนินการได้อย่างเป็นขั้นตอน และมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นักเรียนทำลายวัตถุระเบิด หมายเลข E-02 กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงอุปสรรค และความท้าทายในขณะที่รับการฝึกหลักสูตรทำลายวัตถุระเบิดนั้น คืออะไร? นักเรียนทำลายวัตถุระเบิด หมายเลข E-02 ตอบว่า “ความท้าทายการฝึกคือการที่ระยะเวลาในการฝึกที่กระชับขึ้น วันฝึกน้อยลง แต่ยังคงชั่วโมงการฝึกครบเต็มหลักสูตร ซึ่งจะต้องมีการเรียนการฝึกทั้งกลางวันกลางคืนต่อเนื่องกันทุกวัน ฉะนั้นเราจะต้องมีการเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการฝึกเกี่ยวกับวัตถุระเบิดจริง เราจะต้องคำนึงถึงกฎของความปลอดภัยอย่างสูงสุด เพราะหากพลาดไปนั่นหมายถึงชีวิตของเพื่อนร่วมทีมทุกคน”

และอีกบทบาทหนึ่งในฐานะรองหัวหน้านักเรียน เป็นความท้าทายเกี่ยวกับการปกครองดูแล การที่จะช่วยพาสหายร่วมรบ ต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ เราต้องให้กำลังใจ และคอยกระตุ้นให้ทุกคนมีความรุกรบ สามารถฟันฝ่าจนจบหลักสูตรได้ทุกคน เราจะต้องดูแลกันและกันให้ดี เพราะหากว่าเรายังไม่สามารถดูแลกันได้ แล้วเราจะออกไปดูแลประชาชน ดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติบ้านเมืองได้อย่างไร” นักเรียนทำลายวัตถุระเบิด หมายเลข E-02 ตอบอย่างภาคภูมิ

ส่วนความรู้ที่ผู้เรียนได้รับในการฝึกครั้งนี้ นักเรียนทำลายวัตถุระเบิด หมายเลข E-02 กล่าวว่า ความรู้ที่ได้รับก็มีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ทำให้เรารู้วิธีการทำงานของระเบิดมาตรฐาน ระเบิดแสวงเครื่อง รู้วิธีการทำลาย วิธีการทำให้ปลอดภัย และที่สำคัญคือทำให้เรารู้วิธีการทำงานของโจร ซึ่งเราจะต้องพัฒนาความรู้ความสามารถ ฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ ตกผลึกเป็นทักษะที่เป็นเลิศ ให้เหนือโจร

"การฝึกแต่ละหลักสูตรมีเสน่ห์ในตัวของมันเอง EOD ก็เช่นกัน พวกเราได้หล่อหลอมความรักความสามัคคี ความเป็นพี่ เพื่อน น้อง พวกเราไม่ต้องการคนเก่ง แต่ต้องการคนที่ร่วมทำงานเป็นทีม นี่คือเสน่ห์ของ EOD" นักเรียนทำลายวัตถุระเบิด หมายเลข E-02 ใช้หัวใจตอบคำถาม

คุณจะนำวิชาความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในหน่วยของคุณอย่างไรบ้าง? ผู้สื่อข่าวถาม นักเรียนทำลายวัตถุระเบิด หมายเลข E-02?

หมายเลข E-02 ตอบจริงจังจริงใจว่า “ขณะนี้ตำแหน่งของผมคือ สารวัตรป้องกันปราบปราม ด้านหนึ่งคือด้านการป้องกัน ผมสามารถที่จะไปกำหนดมาตรการการป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หากพบวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่ ผมสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการฝึก EOD นี้ไปใช้ในการกำหนดแผนเผชิญเหตุ สามารถบริหารสถานการณ์ในภาวะวิกฤติต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีครูฝึกและมิตรสหาย EOD ที่มีความรู้ความสามารถ คอยให้คำแนะนำขั้นตอนการปฏิบัติที่ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างแน่นอน”

เปิดใจนักเรียนอีโอดี บช.น. รุ่นที่ 2/2561 เสี่ยงตาย ไม่หวังคำสรรเสริญ ชีวิตผู้กล้า EOD

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังมีโอกาสพูดคุยกับนักเรียนทำลายวัตถุระเบิด หมายเลข E-04 ปริวรรต รัตนรุ่งโรจน์ (ฝากยศพันตำรวจโท) เราถามนักเรียนผู้นี้ถึงเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจมาเรียนว่ามาจากอะไร ได้รับคำตอบว่า...

“ปัจจุบันแนวโน้มภัยคุกคามรูปแบบใหม่จะเป็นภัยที่มีความซับซ้อน หลากหลายมิติและทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ภัยคุกคามนี้จะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของสังคมไทยโดยตรง หากไม่มีการเตรียมการรับมือป้องกัน ยับยั้ง และแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ และเมื่อเกิดเหตุร้ายแรง สังคมไทยอาจจะต้องตกอยู่ในสภาวะระส่ำระสาย เสียขวัญ จนขยายวงกว้างไปสู่ความมั่นคงด้านอื่นๆ เช่น กรณีเกิดเหตุที่มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีโจมตีด้วยการลอบวางระเบิดหลายๆ จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง หรืออีกหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร”

นักเรียนทำลายวัตถุระเบิด หมายเลข E-04 ปริวรรต รัตนรุ่งโรจน์ (ฝากยศพันตำรวจโท)
นักเรียนทำลายวัตถุระเบิด หมายเลข E-04 ปริวรรต รัตนรุ่งโรจน์ (ฝากยศพันตำรวจโท)

“ผมเองได้รับการบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการตำรวจในกองบัญชาการตำรวจนครบาล และปัจจุบันยังคงดำรงตำแหน่งในนครบาล ได้ผ่านเหตุการณ์สำคัญๆ หลายครั้ง ได้เห็นเพื่อนพี่น้องข้าราชการ หรือพี่น้องประชาชนได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต มีทรัพย์สินเสียหายรวมมูลค่าสูง ซึ่งทุกเหตุการณ์ที่ผู้คนต้องอพยพออกจากพื้นที่ด้วยความหวาดกลัว กลับมีกลุ่มเจ้าหน้าที่ EOD ไม่กี่นาย เข้าไปปฏิบัติงานในจุดดังกล่าว โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งที่กำลังจะเผชิญคืออะไร อันตรายแค่ไหน และไม่เคยหวังมีชื่อเสียงสรรเสริญใดๆ มีเพียงความมุ่งมั่นจะทำให้ทุกอย่างปลอดภัย ไร้การสูญเสีย และคืนความเป็นปกติสุขกลับคืนมาเท่านั้น

นักเรียนทำลายวัตถุระเบิด หมายเลข E-04 ปริวรรต รัตนรุ่งโรจน์ (ฝากยศพันตำรวจโท)
นักเรียนทำลายวัตถุระเบิด หมายเลข E-04 ปริวรรต รัตนรุ่งโรจน์ (ฝากยศพันตำรวจโท)

ในท้ายที่สุด พ.ต.อ.กำธร มือหนึ่งด้านงานเก็บกู้วัตถุระเบิดของเมืองไทย ได้ทิ้งท้ายกับทีมข่าวไว้ว่า “ผมไม่ได้เปรียบพวกเราเป็นวีรบุรุษหรือฮีโร่ เพราะงานที่เราทำอยู่เป็นการช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์ให้ปลอดภัยจากเหตุระเบิด และในขณะที่ทุกคนเดินหนี แต่เรากลับเป็นคนที่เดินเข้าไปเพื่อเก็บกู้วัตถุระเบิดที่แสนอันตราย มันเป็นความภาคภูมิใจของเรา ชาวอีโอดี”.