วันนี้ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ มีอีกหนึ่งเรื่องราวอุทาหรณ์สำหรับคนคิดจะทำศัลยกรรม จากคำบอกเล่าของหนุ่มหน้าใสวัย 20 ปี โดนเพื่อนล้อจนเป็นปมในใจ เลือกศัลยกรรมทำปากกระจับ แต่ไม่ได้ผลอย่างที่ใจคาดหวัง ผ่านไป 15 วัน เเผลเน่า หลังผ่าตัด 3 เดือนกว่า ปากเข้าที่ แต่โชคร้ายข้างหนึ่งบาง ข้างหนึ่งหนา และปิดปากไม่ได้ อีกทั้งยิ้มเหมือนผี หมดกำลังใจ ไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตอย่างมั่นใจได้เหมือนเคย เครียดหนักถึงขั้นพบจิตแพทย์ ....

ไม่คิดอยากหล่อ แต่ลบปมด้อยในใจตั้งแต่เด็ก

สำหรับมูลเหตุที่ นายเอ (นามสมมติ) ตัดสินใจทำศัลยกรรมปากกระจับเมื่อเดือน มิ.ย. 61 ณ คลินิกแห่งหนึ่งที่รู้จักทางเฟซบุ๊ก เป็นเพราะต้องการคลายปมในวัยเด็ก ที่มัก​โดนล้อปากที่ใหญ่ว่าเหมือนส้วม หรือปากเป็ด จนเกิดความไม่มั่นใจ แต่ไม่คิดว่าการตัดสินใจครั้งนี้กลับกลายเป็นทำให้ชีวิตอับเฉา

“ผมแค่อยากมีปากปกติ​ เพราะเป็นคนปากใหญ่ รู้สึกไม่มั่นใจ​ ตอนเด็กๆ เคยโดนล้อ ประมาณว่าปากเหมือนส้วม หรือปากเป็ด” นายเอก กล่าวด้วยน้ำเสียงกังวล

...

ปากก่อนทำศัลยกรรม
ปากก่อนทำศัลยกรรม

ลังเลใจเพราะผ้าเปื้อนเลือด ทำเสร็จไม่มีใบเสร็จ ไม่นัดตรวจผล

ซึ่งเดิมที นายเอ ตั้งใจทำศัลยกรรมปากกระจับเพียงอย่างเดียว โดยตกลงทำในราคา 1 หมื่นบาท แต่ด้วยเป็นการทำศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิต จึงตัดสินใจทำจมูกด้วยในคราวเดียวกัน ตามคำแนะนำของคลินิก โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกือบ 2 หมื่นบาท จากราคาเต็มเกือบ 3 หมื่น

“ตอนแรกผมจะทำแค่ปาก​ แต่คลินิกของหมอแนะนำ บอกปากล่างดีแล้ว ทำแค่ปากบนกับจมูกดีกว่า เดี๋ยวลดราคาให้​ ผมคิดว่าเขาคงเข้าใจโครงสร้างใบหน้า ทำมาหลายคน​ ผมเลยตกลงทำ”

หลังทำ1เดือน
หลังทำ1เดือน

เมื่อถึงวันนัด นายเอเล่าเหตุการณ์ว่าหมอไม่มีสอบถามอะไร ดูรีบๆ ด้วยซ้ำ ขณะจะขึ้นเตียง มีผ้าเปื้อนเลือดชิ้นเล็กๆ อยู่บนเตียง เมื่อสอบถามว่าจะไม่เป็นไรใช่ไหม ก็ได้รับคำตอบว่าไม่เป็นอะไร นอนทับได้เลย แม้จะเกิดความลังเลใจ แต่สุดท้ายนายเอก็ตัดสินใจทำตามความตั้งใจ

“ตอนนั้น ผมกำลังลังเลอยู่เหมือนกันว่าจะยังไงดี ในห้องมีคนบอกว่าหมอทำสวย ผมจึงไม่ทันคิด เลยทำไป ตอนทำ ขึ้นนอนเตียง หมอวาดๆ แล้วตัดๆ แค่นั้น ไม่มีเครื่องวัด ไม่ให้คนไข้ดูด้วย ทำเสร็จ ไม่มีใบเสร็จให้ หรือใบนัดตรวจเลย และให้กลับบ้าน” นายเอ อธิบาย

หลังทำ 2 เดือนกว่า
หลังทำ 2 เดือนกว่า

15 วันหลังทำ แผลเริ่มปริ ศัลยกรรมทำพิษ คิดตัดปากทิ้ง

หลังทำปากกระจับได้ 15 วัน แผลเริ่มปริ ปากไม่เท่ากัน ข้างหนึ่งบาง ข้างหนึ่งหนา ตัดสินใจไปพบหมอ ขอให้ช่วยแก้ไข โดยรับปากจะแก้ไขให้หลังครบ 3 เดือน  

ตอนปากติดเชื้อ รู้สึกแย่มาก เคยคิดถึงขั้นว่าจะเอากรรไกรตัดทิ้ง เครียดมาก รู้สึกช็อก ช็อกจนแบบจะฆ่าตัวตาย ปากหุบไม่สนิท อ้าตลอด ต้องใส่หน้ากาอนามัยตลอด เพราะไม่มั่นใจ เวลาไปไหนก็มีคนมองแปลกๆ ออกไปไหนก็มีแต่คนมอง ใช้ชีวิตลำบาก ไม่กล้าออกบ้าน ไปไหนก็อาย ปากไม่เหมือนคนปกติ ผมรู้สึกท้อ (ร้องไห้สะอึกสะอื้น)” นายเอ ร่ำไห้ 

...

หลังทำ 3 เดือนกว่า​ ปากเข้าที่​ ข้างหนึ่งบางข้างหนึ่งหนา​ ปิดปากไม่ได้
หลังทำ 3 เดือนกว่า​ ปากเข้าที่​ ข้างหนึ่งบางข้างหนึ่งหนา​ ปิดปากไม่ได้

ชีวิตแย่กว่าเดิม เครียดหนัก จนต้องพึ่งจิตแพทย์

ปากกระจับที่คิดว่าหลังทำจะช่วยเสริมความมั่นใจ กลับกลายเป็นแหลมเหมือนนกกระจอก จึงเหมือนมีดทิ่มแทงใจจนคิดอยากตัดปากทิ้งแล้ว นายเอยังเครียดหนักสะสม ไม่สดชื่นเหมือนเคย ตื่นมาก็พะวงเรื่องปากทุกวัน จนต้องพบจิตแพทย์

“ปากผมเป็นแบบนี้ ก็นอนไม่หลับ กินอะไรไม่ได้ ท้อไปหมดเลย ผมถึงขั้นอ้วก รู้สึกแย่ทุกวัน ตื่นขึ้นมาเห็นปากก็รู้สึกแย่เลย จนพ่อพาไปพบจิตแพทย์ ให้ยาคลายกังวลกับยานอนหลับมากิน ชีวิตแย่ลงกว่าเดิม นายเอ เล่าด้วยเสียงสั่นเครือ

ตอนยิ้มเหมือนผี
ตอนยิ้มเหมือนผี

...

ล่าสุด คลินิกได้คืนเงินค่าศัลยกรรมทั้งหมดให้นายเอ ส่วนการแก้ไข้ปาก นายเอยังอยู่ระหว่างการหาข้อมูล เพื่อตัดสินใจว่าจะตัดสินใจเลือกศัลยกรรมแก้ ณ สถานที่ใด เบื้องต้นจากการสอบถาม รพ. แห่งหนึ่ง ต้องใช้เงินเกือบสองหมื่นห้า

“ผมอยากให้คน​ที่อยากจะทำศัยกรรม​ คิดดีๆ​​ ถึงหมอจะจบแพทย์​ ก็อาจจะทำพลาดได้​ ผมอยากให้สิ่งที่ผมเจอมา​ เป็นอุทาหรณ์​​ ผมไม่อยากให้ไครเป็นเหมือนผม​ มันแย่สุดๆ“ นายเอ ฝากทิ้งท้าย

ขี้เกรงใจ เชื่ออะไรง่ายๆ จุดอ่อนตกเป็นเหยื่อ เกิดศัลยกรรมพิษ

จากปัญหาปากไม่เท่ากันของนายเอ จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร ทีมข่าวฯ สอบถามจาก นพ.สงวน คุณาพร เลขาธิการ สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นจากกรณีดังกล่าว น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้มีตัวอย่างให้เห็นในข่าว ในโซเชียล แต่ด้วยบุคลิกลักษณะนิสัยคนไทย ที่ขี้เกรงใจ ไม่รักษาสิทธิ์ตนเอง เชื่ออะไรง่ายๆ จึงเป็นจุดอ่อนให้ตกเป็นเหยื่อของบุคคลอื่น แม้แต่ด้านการแพทย์ที่ควรยึดถือจริยธรรมในวิชาชีพระดับสูง

ใช้ชีวิตลำบาก ไม่กล้าออกจากบ้าน ไปไหนก็อาย ปากไม่เหมือนคนปกติจนรู้สึกท้อ
ใช้ชีวิตลำบาก ไม่กล้าออกจากบ้าน ไปไหนก็อาย ปากไม่เหมือนคนปกติจนรู้สึกท้อ

...

โดยให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหา หลังจากเห็นรูปภาพปากของนายเอที่ทีมข่าวฯ ส่งให้ดูว่า ปากมีความไม่เท่ากันเล็กน้อยของด้านซ้ายและขวา ไม่เห็นการอักเสบหรือติดเชื้อ ควรรอครบ 6 เดือน แล้วผ่าตัดแต่งเติมเล็กน้อยให้เท่ากัน การแก้ไข คงจะต้องเป็นการเพิ่มขนาดริมฝีปากบนให้ขยายขึ้นกว่าเดิม มีอยู่ 2-3 วิธี ดังนี้
1.ฉีดด้วยFiller
2. เติมด้วยไขมัน
3. ใช้ผิวหนังตัวเองมาปลูกผิวหนัง 

ซึ่งศัลยแพทย์ตกแต่งจะพิจารณาวิธีที่เหมาะสมโดยร่วมหารือกับคนไข้ถึงข้อดี ข้อเสีย ข้อจำกัด งบประมาณ รายละเอียดอื่น

สำหรับด้านเรียกร้องความรับผิดชอบ หากใครโชคร้ายเกิดกรณีดังเช่นนายเอขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรมในรูปแบบอื่นก็ตาม ผู้เสียหาย ต้องเก็บรวบรวมหลักฐาน เอกสาร ไทมไลน์ให้ครบถ้วน เพื่อติดต่อและแสดงให้คลินิกหรือสถานพยาบาลที่เลือกทำศัลยกรรมเพื่อให้แสดงความรับผิดชอบ

รู้สึกแย่ทุกวันหลังตื่น จนต้องไปพบจิตแพทย์
รู้สึกแย่ทุกวันหลังตื่น จนต้องไปพบจิตแพทย์

หากยังไม่ได้รับความสนใจหรือความเป็นธรรมในการปกป้องสิทธิ์ ให้แจ้ง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) หรือ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สบค.) ในจังหวัดที่อาศัยอยู่ เพื่อเข้าสู่กระบวนการในการตรวจสอบและช่วยเหลือต่อไปว่าสถานพยาบาล คลินิกนั้นๆ ตั้งถูกต้อง มีใบอนุญาตให้ดำเนินการ แพทย์ที่ดำเนินการมีใบอนุญาตหรือไม่

อุทาหรณ์สำหรับคนอยากทำศัลยกรรมปากกระจับที่ทีมข่าวฯ นำเสนอในวันนี้ คงเตือนใจได้ว่า ก่อนจะทำ ตั้งสติ คิดไตร่ตรองให้ดี ไม่เพียงเฉพาะศัลยกรรมปากกระจับเท่านั้น ยังรวมถึงศัลยกรรมเสริมความงามในด้านอื่นๆ ด้วย

สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราว หรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่

reporter.thairath@gmail.com  หรือช่องทาง Facebook : ทีมข่าวเฉพาะกิจ