จากกรณี อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีซีอีโอของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง สเปซเอ็กซ์, เทสลา และ บอริง ได้เดินหน้าให้การช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า ด้วยการเสนอ “แคปซูลหลบหนี” กับ “ท่อสูบลมที่มีแอร์ล็อก” เพื่อลำเลียงเด็กๆ ทั้ง 12 คนและโค้ช ออกจากถ้ำหลวง แต่เมื่อวานนี้ทีมช่วยเหลือของไทยผนึกกำลังนักดำน้ำระดับโลกจากหลายชาติ ได้ช่วยเหลือ 4 สมาชิกหมูป่าออกมาแล้ว แต่ อีลอนฯ ก็ยังคงมีเจตนาในการช่วยเหลือต่อไป ตามที่เป็นข่าว
เกี่ยวกับอุปกรณ์ไฮเทคที่ อีลอน มัสก์ จะส่งมาช่วยเหลือ ดร.โกเมน พิบูลย์โรจน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจ กับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ว่า การใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือไฮเทคจาก อีลอน มัสก์ นั้น ส่วนตัวขอชื่นชมต่อเขาเป็นอย่างมาก ที่มีความจริงใจในการช่วยเหลือ 13 ชีวิตคนไทยที่ติดในถ้ำหลวง อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงนั้นการจะใช้อุปกรณ์ดังกล่าวในถ้ำหลวงได้หรือไม่ คงต้องให้เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปในถ้ำ รวมถึงทหาร หน่วยซีล และนักดำน้ำ เป็นผู้ประเมิน
“เพราะพื้นที่ที่จะใช้นั้นสลับซับซ้อน และคดเคี้ยวมาก ที่ว่าช่องทางลอดที่เล็กที่สุด มีขนาด 70 ซม. มีมุม องศา อย่างไร ก็ยังไม่มีใครทราบ นอกจากคนที่เคยเข้าไปในถ้ำ อีกทั้งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ไทยและนักดำน้ำของโลกที่เข้าไปช่วย ก็ได้ทำสำเร็จในการช่วย 4 หมูป่าออกมาได้แล้ว ดังนั้น การจะใช้อุปกรณ์ในการช่วยเหลือหรือไม่ ก็คงต้องผ่านการประเมินและคิดกัน เนื่องจากการใช้วิธีการให้เด็กๆ ดำน้ำออกมาด้วยวิธีการนี้มีเจ้าหน้าที่ช่วยประคองกันออกมาได้ทำสำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่ง”
...
ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัย เชื่อว่า อุปกรณ์ของ อีลอน มัสก์ จะมีความแข็งแรง ทนทาน สามารถรองรับต่อแรงกระแทกต่างๆ ได้ แต่อาจจะมีปัญหาต่อการสื่อสารกับตัวเด็กที่อยู่ด้านใน เพราะเด็กอาจจะสื่อสารกันลำบาก ซึ่งอาจจะต้องสื่อสารผ่านเครื่องมือสื่อสาร แตกต่างจากวิธีการให้เด็กดำน้ำออกมา นักดำน้ำและเจ้าหน้าที่ที่ให้การช่วยเหลือเขาสามารถสื่อสารกับเด็กได้ตลอดเวลา
เมื่อถามว่า แคปซูล ของอีลอน มัสก์ นั้น อาจจะมีน้ำหนักถึง 40 กก. เรื่องนี้จะเป็นปัญหาหรือไม่ ดร.โกเมน กล่าวว่า เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากมีน้ำหนักเบา ก็จะช่วยให้สามารถขนส่งออกมาได้อย่างสะดวกขึ้น เพราะในถ้ำไม่ได้มีแต่น้ำ แต่เป็นทางคดเคี้ยว ต้องเดินขึ้น ปีนขึ้น ทางลาด ทางชันก็มี แต่เชื่อว่าเครื่องดังกล่าวจะมีความปลอดภัยสูง แต่จะใช้ได้หรือไม่ ใช้ได้ดีหรือเปล่า ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจะเป็นผู้ประเมิน
“เชื่อว่าทางผู้เกี่ยวข้องน่าจะมีความยินดี ในฐานะนักวิจัยไทยคนหนึ่งก็รู้สึกยินดี ที่คนระดับโลกอย่างเขาให้ความสนใจที่จะช่วยเหลือ หากใช้ได้จริงก็คงจะดีมากๆ” ดร.โกเมน กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับอุปกรณ์ของ อีลอน มัสก์ นั้น มีรายงานว่า ได้มีการทดลองใช้แล้วในสระว่ายน้ำแห่งหนึ่งที่นครลอสแอนเจลิส โดย นายมัสก์ ระบุว่า เข็มขัดถ่วงน้ำหนักของนักดำน้ำจะพันรอบมินิซับจากภายนอก โดยมินิซับมีนำ้หนักเพียง 40 กก. ในที่แห้ง ดังนั้นจึงแบกในทางเดินถ้ำแห้งๆ ได้ นอกจากนี้ มัสก์ ยังบอกว่า เขาส่งแคปซูลดังกล่าวมาเมืองไทย ในเวลา 04.00 น. (เวลาประเทศไทย) และจะใช้เวลา 17 ชั่วโมงเพื่อส่งแคปซูลดังกล่าวไปถึง และหวังว่าจะทำให้เกิดประโยชน์.
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน