กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ กับคดีอลเวง ศึกชิงหวย 30 ล้านบาท ระหว่างร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ คนนำหวยรางวัลที่ 1 หมายเลข 533726 จำนวน 5 ใบ มูลค่า 30 ล้านบาท งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 2560 ไปขึ้นเงินที่กองสลากฯ และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าของ ต่อมามีการแจ้งความดำเนินคดีกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งต่างฝ่ายต่างยืนยันว่าตัวเองเป็นเจ้าของ
เมื่อถูกโอนย้ายจากตำรวจภูธรภาค 7 มาอยู่ในมือกองปราบฯ หลัง “หมวดจรูญ” โร่ขอความเป็นธรรม ไม่มั่นใจการทำงานของตำรวจท้องที่ คืบหน้าล่าสุด พลตำรวจโทฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง เปิดเผยเมื่อ 13 ก.พ. 61 ว่า การสอบสวนหาพยานหลักฐานมีความคืบหน้าจนได้พยานหลักฐานมากพอที่จะพิสูจน์ได้ว่า ใครเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ตัวจริง คาดว่าสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ สามารถสรุปสำนวนคดีได้แน่นอน
หนึ่งในหลักฐานสำคัญที่กองปราบฯ ได้รับจาก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำมาสนับสนุนเพื่อช่วยคลี่คลายคดี คือ คลิปเสียงที่อ้างว่า “ครูปรีชา-นางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ อายุ 58 ปี หรือ เจ๊บ้าบิ่น” แม่ค้าขายสลากที่ถูกรางวัล ที่แผงขายด้านหน้าธนาคารกสิกรไทย คุยโต้ตอบกันหลังหลังทราบผลสลาก เวลาประมาณ 16.30 น. วันที่ 1 พ.ย. 2560 ว่า ครูปรีชายันไม่ถูกหวย
...
บนสนทนาในคลิปเสียง สอบถามกันว่าถูกรางวัลที่ 1 ไหม เพราะเจ๊บ้าบิ่นจำได้ว่าบนแผงของตัวเองมีเลขรางวัลดังกล่าว และครูปรีชาน่าจะเป็นคนซื้อไป แต่ครูปรีชาปฏิเสธ พร้อมระบุชัดเจนหมายเลขที่ตนซื้อ
คลิปเสียงนี้ กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม ซึ่งฝ่ายหนึ่งมองว่าอาจจะเป็นเสียงของครูปรีชากับเจ๊บ้าบิ่น แต่อีกฝ่ายก็เห็นต่างว่า อาจมีการตัดต่อเสียงก็เป็นได้
เพื่อความเป็นธรรม และกระจ่างแจ้ง ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้ส่งคลิปเสียงให้ ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยวิทยาการสื่อสารของมนุษย์และคอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเทียบเสียง เผยขั้นตอนทางด้านวิทยาศาสตร์ในการตรวจพิสูจน์
ศาลรับเป็นหลักฐานร่วมหรือไม่ ต้องดูที่มาของการได้มาของคลิปด้วย
โดยทีมงาน ดร.ชัย นั้น ได้เคยให้บริการเปรียบเทียบเสียงกับทาง DSI และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาหลายปี แม้ตอนนี้จะหยุดได้สักพัก เนื่องจากทีมวิเคราะห์มีไม่พอ แต่จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาตั้งแต่เรียน และการทำงานหลายสิบปี ดร.ชัย ให้ทัศนะกับทีมข่าวฯ เรื่องการพิสูจน์โดยการเปรียบเทียบเสียงในประเทศไทย ปัจจุบันยังไม่มีที่ให้เลือกมากมายนัก ผลลัพธ์ที่ได้ต้องเอาไปตีความในชั้นศาล
“ในแง่การตรวจสอบเชิงวิทยาศาสตร์ ผลลัพธ์ของการตรวจสอบ มันจะเป็นค่าความน่าจะเป็น เช่น โอกาสที่จะเป็นเสียงครูปรีชา 72% แล้วผลลัพธ์นี้ จะต้องเอาไปตีความในชั้นศาล ต้องมีในแง่กฎหมายเข้ามาคุยว่า จริงๆ แล้วศาลจะรับหลักฐานนี้เป็นหลักฐานร่วมในการพิจารณาได้หรือไม่ ถูกต้องตามกฎหมายหรือเปล่า เพราะต้องมาดูที่มาของการได้มาของคลิปเสียงนี้” ดร.ชัย เผยถึงผลลัพธ์ที่ได้หลังตรวจสอบ
...
เปิดวิธีทางเทคโนโลยีพิสูจน์เสียงในคลิปว่า ใช่ หรือไม่ใช่ครูปรีชา
สำหรับกรณีคลิปที่ทีมข่าวส่งให้นั้น มีขั้นตอนตรวจพิสูจน์ทางหลักวิทยาศาสตร์ โดยมีเทคโนโลยีใช้ในการตรวจสอบว่า เสียงนี้ ผู้พูดใช่ครูปรีชาหรือเปล่า แต่ก็มีเงื่อนไขหลายอย่างที่จะบอกว่าเชื่อมั่นได้แค่ไหน
“เท่าที่ฟังคลิปเสียงที่ส่งมาให้ เสียงต้นฉบับที่ครูปรีชาเคยให้สัมภาษณ์ในสื่อต่างๆ กับเสียงบันทึกผ่านโทรศัพท์ ที่สังคมสงสัยว่าเป็นครูปรีชาหรือเปล่า ทั้งสอง 2 เสียงนี้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันมาก เพราะฉะนั้นเปรียบเทียบยาก ถ้าเปรียบเทียบออกมาได้ความถูกต้อง 60% ก็ไม่รู้หรอกว่า เหตุที่มันไม่คล้ายเสียงต้นฉบับ เพราะตัวเนื้อเสียง หรือสภาพแวดล้อม”
ทั้งนี้ ดร.ชัย ได้อธิบายถึงเสียงสนทนากันของครูปรีชา และแม่ค้าหวยที่บันทึกผ่านโทรศัพท์ โดยชี้แจงว่าเอคโค่เยอะมาก เปรียบเทียบไปก็เชื่อถือไม่ได้ อีกทั้งความยาวของเสียงต้องสงสัยที่คุยกันนั้นก็สั้นเกินไป ไม่เพียงพอสำหรับการที่จะบอกถึงความเชื่อมั่นได้แค่ไหน
...
“ตามมาตรฐานสากล ต้องใช้เสียง 3 นาที แต่ผมเคยทดสอบในประมาณ 1 นาที ก็พอกล้อมแกล้มได้ แต่เราจะบอกกับต้นทางที่ขอให้เราตรวจสอบว่า ผมไม่สามารถการันตีผลว่าถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ เวลาส่งข้อมูลเสียงไปใช้บริการทดสอบที่ต่างประเทศ เขาจะขอเสียงต้นแบบที่อยู่ในสภาวะแวดล้อมเดียวกัน เช่น เสียงที่เราจะตรวจสอบเป็นเสียงผ่านโทรศัพท์ เขาก็จะขอเสียงครูปรีชาที่ผ่านโทรศัพท์มาเปรียบเทียบ” ดร.ชัย อธิบายถึงขั้นตอนการตรวจพิสูจน์เทียบเสียง
เผยขั้นตอน และ 3 สิ่งที่ต้องใช้ในการตรวจพิสูจน์เทียบเสียง
อย่างไรก็ดี สำหรับสิ่งที่ต้องใช้ในการตรวจพิสูจน์ ดร.ชัย บอกกับทีมข่าวฯ ว่า เพื่อความเข้าใจง่าย ขอระบุเป็นข้อๆ ดังนี้
1. เสียงของครูปรีชาในสภาวะแวดล้อมเดียวกัน บันทึกด้วยเสียงโทรศัทพ์ มีเอคโค่เหมือนกัน ยาวอย่างน้อย 3 นาที ในขณะเดียวกัน เสียงที่สงสัยว่าเป็นคุณปรีชาหรือไม่ต้องยาวอย่างน้อย 1 นาที
...
2. เสียงคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ครูปรีชาในสภาวะแวดล้อมเดียวกัน บันทึกด้วยเสียงโทรศัพท์มีเอคโค่เหมือนกัน มีจำนวนเยอะที่สุดเท่าที่จะเยอะได้ อาจจะเป็น 100 คน 50 คน หรือ 30 คน เพื่อนำมาเปรียบเทียบ
3. หลังจากนั้นเอาเสียงครูปรีชา 3 นาที มาสร้างเป็นต้นแบบ แล้วนำเสียงต้องสงสัย ลองเปรียบเทียบกันโดยใช้ความถี่เสียง ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ทีม ดร.ชัย พัฒนาขึ้นมาเอง ไม่ใช่โปรแกรมสำเร็จรูปใดๆ ต้องผ่านงานวิจัยมาเท่านั้น แล้วก็จะได้ค่าความน่าจะเป็นออกมา
“หากความน่าจะเป็นเสียงต้องสงสัยจะเป็นเสียงครูปรีชา สมมติออกมา 80% แล้วเอาเสียงต้องสงสัยนี้ไปใส่ในเสียงของคนอื่นเพื่อเปรียบเทียบ ถ้า 100 คนนั้นออกมา 80% เต็ม นั่นก็แสดงว่าเสียงต้องสงสัย ไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นเสียงครูปรีชา แต่หากผลเปรียบเทียบเสียงคนอื่นออกมา 50% หรือ 40% ก็จะมั่นใจขึ้นว่าเสียงนี้อาจจะเป็นครูปรีชาสูงมาก
เวลาในการตรวจสอบใช้ไม่นาน ซอฟต์เแวร์รันแป๊บเดียว แต่ต้องเตรียมข้อมูลในข้อ 1 และ 2 ให้ครบ ซึ่งมีเงื่อนไขเยอะมาก ความดังใกล้เคียงกัน ไม่ใช่เสียงทับซ้อนของคนอื่น ถ้ามีเสียงคนพูดหลายๆ คน ต้องตัดเอาเฉพาะเสียงครูปรีชาเพียงคนเดียว” ดร.ชัย กล่าวสรุป
คลิปเสียงเรื่องหวย อาจมีการตัดต่อหรือเปล่า สามารถตรวจพิสูจน์ได้หรือไม่
ข้อสงสัยสุดท้าย กับประเด็นหัวข้อสนทนากันในวันนี้ ดร.ชัย อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ทิ้งทายว่า สามารถตรวจสอบได้ในเสียงบางประเภท
“การตัดต่อมีหลายทาง ผมก็เคยตรวจสอบการตัดต่อแล้ว การตรวจสอบการตัดต่อ อย่างเช่น ตัดต่อทางเวลา คือ เอาเสียงมาต่อกันทางเวลา มันอาจจะเห็นร่องรอยของรอยต่อ แต่ถ้าเกิดว่านำเสียงไปมิกซ์กันทางความถี่ หรือเสียงทับกันแบบมีดี้ แล้วเซฟเป็นแทร็กเดียว จะตรวจดูการตัดต่อยาก โดยเฉพาะถ้าเสียงมีการผ่านกระบวนการบีบอัด ขยายกลับมา เช่น จากเสียงตั้งต้น ถูกอัดมาเป็น MP3 เสียงก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ ก็จะตรวจสอบยากในเรื่องของการตัดต่อ สำหรับคลิปเสียงคุยกันเรื่องหวย ผมไม่ได้ดูละเอียดว่าตัดต่อหรือเปล่า แค่ฟังเพื่อตรวจสอบว่า คนพูดเป็นครูปรีชาหรือเปล่าเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม คลิปเสียงที่สังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์ ยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นเสียงของครูปรีชาจริงหรือไม่ เพราะต้องผ่านกระบวนการตรวจพิสูจน์กันต่อไป ส่วนเจ๊บ้าบิ่นที่ถูกกองปราบฯ สอบสวนเมื่อวาน จะพูดถึงคลิปเสียงนี้หรือไม่อย่างไร ต้องรอผลการสืบสวนจากกองปราบฯ
โปรดติดตามกันต่อไป อีกไม่กี่อึดใจ หากคดีความถึงที่สุดแล้ว ความจริงก็จะกระจ่างว่าใครคือเจ้าของหวย 30 ล้านตัวจริง เพราะความจริงคือความจริง ไม่มีใครหลีกหนีความจริงไปได้พ้น.
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
- ติดตาม คลิปซีรีส์สกู๊ป ศึกชิงหวย 30 ล้าน จากทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้ที่นี่ -
- สกู๊ปศึกชิงหวย 30 ล้าน ของทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ที่เกี่ยวข้อง -