ตอนที่ 13
ในกระท่อม ธรรณธรยังคงพลุ่งพล่านใช้พลังจิตทำให้ข้าวของพุ่งใส่ทะนง ทะนงโมโหคว้าฉมวกมาจะแทงแต่ถูกดึงหลุดมือไป ธรรณธรจะใช้ฉมวกนั้นแทงกลับแต่เหมือนได้ยินเสียงห้ามของเกวลิน ทำให้เกิดความสับสน ทะนงฉวยโอกาสหยิบท่อนไม้ฟาดหัวเขาสลบอีกครั้ง
กรณ์ ปู่ ใหญ่และต๋องเห็นว่าท้องฟ้ามืดครึ้มฝนเทกระหน่ำ เชื่อว่าเป็นเพราะพลังจิตธรรณธร จึงพากันกลับที่พัก อนิมาไม่เห็นทั้งธรรณธรและเกวลินมาด้วยก็ร้องไห้เป็นห่วง
ธรรณธรถูกทะนงมัดอีกครั้งแล้วหวดด้วยท่อนไม้ตั้งใจเอาให้ตาย แต่จู่ๆธรรณธรก็ลืมตาโพลงขึ้นทั้งที่เลือดท่วมหน้า วิญญาณเมฆเข้าสิงทำให้มีแรงกระชากมือหลุดจากสิ่งผูกมัด จับมือทะนงบิดจนท่อนไม้ร่วงและบอกกล่าวว่าตนไม่ใช่คุณหลวง
พละกำลังเมฆมีมากจนทะนงสู้ไม่ได้ เขาโวยวายว่าธรรณธรไม่ใช่คน เมฆยอมรับว่าตนไม่ใช่คนแต่เป็นวิญญาณที่ถูกขวัญวงศ์วางแผนใส่ร้ายจนตาย
“ขวัญวงศ์?...มึงพูดอะไรวะ”
“เลิกคิดที่จะฆ่าคุณหลวงเถอะขอรับ เลิกจองเวรจองกรรมต่อกันจะได้ไม่ต้องมีเวรกรรมข้ามภพข้ามชาติกันเยี่ยงนี้”
ทะนงตวาดว่าอย่ามาสอน ไม่มีทางที่ตนจะเลิกจองเวร เขาชักมีดมาพุ่งแทงแต่เมฆหลบทันแล้ววาดลวดลายแม่ไม้มวยไทยใส่จนทะนงล้มมีดกระเด็น ทะนงพลิกลิ้นขอธรรณธรอย่าทำอะไรตน เมฆซึ่งอยู่ในร่างธรรณธรขอร้องว่า
“ถ้าคุณขวัญวงศ์จะสัญญา จะเลิกจองเวรแล้วยอมปล่อยคุณหลวงกับคุณแก้วไป”
ทะนงรับคำ เมฆยังไม่วางใจ ถามย้ำว่าตนจะเชื่อคำพูดเขาได้หรือ
“เชื่อได้สิ ฉันสัญญาแล้วก็คือสัญญา ปล่อยฉันแล้วฉันจะปล่อยคุณหลวงไป...”
ทะนงควานมือหาอาวุธจนเจอไขควงเก่าๆจึงกำเอาไว้ พอเมฆกล่าวขอบคุณ นับจากวินาทีนี้สิ้นเวรกรรมต่อกันเสียที จังหวะนั้นทะนงเอาไขควงแทงเข้าที่ท้องเมฆและเข่นเขี้ยวอาฆาต
“กับไอ้คุณหลวงบ้าบออะไรนั่นกูปล่อย แต่กับมึงไอ้ธรรณ กูไม่ปล่อย”
ทะนงแทงซ้ำอีกครั้งแล้วผลักล้ม ร่างธรรณธรนอนเลือดทะลัก เมฆกุมไขควงที่ท้องกล่าวอย่างผิดหวัง
“ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ชาติ คุณก็ไม่เคยเปลี่ยน”
ทะนงหัวเราะเยาะยอมรับว่าตนจะไม่เปลี่ยนจน
กว่าเขาจะตาย แล้วดึงไขควงออกมาจะแทงซ้ำ ทันใดเสียงปืนดังเปรี้ยง ไขควงในมือกระเด็น ทะนงร้องด้วยความ เจ็บปวด มองเห็นตำรวจหลายนายพร้อมด้วยกรณ์ ใหญ่และปู่ยืนจังก้า ทะนงยังไม่ยอมแพ้ ดึงตัวธรรณธรขึ้นมาเป็นโล่กำบังท้าให้ตำรวจยิง
“ยิงสิวะ กูกับไอ้ธรรณจะได้พรุนไปพร้อมๆกัน ฮ่าๆๆๆ”
ทะนงหัวเราะร่าราวกับตลกเสียเต็มประดา กรณ์พูดโพล่งว่าทะนงบ้าไปแล้ว เมฆจึงเร่งกรณ์
“ยิงเลยขอรับ คุณหลวงจะไม่เป็นอะไร เชื่อกระผมเถอะขอรับ”
กรณ์ ใหญ่และปู่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ทะนงตวาดจะตายแล้วยังปากดี เมฆยืนยันว่าตนตายแล้วตายอีกไม่ได้ ทะนงมองหน้าแล้วเหมือนเห็นเป็นภาพอดีตตอนที่ขวัญวงศ์มองเมฆถูกหลวงวรงค์แทง...ทะนงผงะ เมฆใช้โอกาสนั้นดึงมีดมาแทงที่ขาทะนงจนเขาต้องปล่อยร่างธรรณธร ทะนงโมโหเงื้อไขควงในมือจะแทง ตำรวจลั่นไกใส่ทันที ร่างทะนงทรุดลง เมฆอโหสิกรรมให้ก่อนที่เขาจะสิ้นใจ กรณ์เข้าประคองเมฆถามเป็นอย่างไรบ้าง
“กระผมไม่เป็นไรขอรับ แต่คุณหลวง...” เมฆก้มมองเลือดที่ไหลจากท้องธรรณธร
ปู่รีบถามหาเกวลิน เมฆขยับลุกจะไปตามหาเธอแล้วออกจากร่างทันที ธรรณธรฟุบหมดสติ ทุกคนตกใจ... เวลาเดียวกันนั้นที่บ้านสวน อนิมาทำแก้วในมือตกแตก รู้สึกใจคอไม่ดีเป็นห่วงธรรณธรมาก
ด้านเกวลินพยายามช่วยแชมเปญที่โดนตอไม้ไผ่แทงทะลุขา ฉีกปลายเสื้อจะห้ามเลือดให้แต่แชมเปญกลับปัดมือออกแล้วจะดึงตอไม้จากขาด้วยตัวเอง เกวลินร้องห้ามเพราะจะทำให้เลือดไหลไม่หยุด แชมเปญตวาดแว้ด
“ไม่ต้องมาทำดีกับฉัน สะใจก็พูดมาเถอะ”
แชมเปญฝืนดึงไม้ออกจากขาร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ยังหันมาบอกเกวลินว่าตนไม่คร่ำครวญให้มาช่วย ไม่มีวัน...ไม่เพียงเท่านั้นแชมเปญยังเอาตอไม้มาจ้วงแทงใส่เกวลิน เธอขยับถอยหนีได้ทันแต่ล้มลงแชมเปญตามแทงซ้ำ เกวลินเอามือจับไว้ พลางร้องลั่นด้วยความตกใจ
“คุณมันบ้าไปแล้ว!”
เกวลินตัดสินใจถีบแชมเปญหงายหลัง แล้วลุกขึ้นถือไม้ไว้ป้องกันตัว แชมเปญทำเป็นร้องโอดโอยเจ็บแผล ขอให้เกวลินช่วย เกวลินหลงเชื่อทิ้งไม้เข้าไป ห้ามเลือดจะพันผ้าให้...เสียงกรณ์กับปู่ตะโกนเรียกเกวลิน เธอได้ยินดีใจบอกแชมเปญว่ามีคนมาช่วยแล้ว
ปู่เป็นคนเดียวที่มองเห็นวิญญาณเมฆ และบอกทางให้ตำรวจและทุกคนตามมา เกวลินตะโกนบอกกรณ์ว่าตนอยู่ตรงนี้ เมฆหายวับไปทันที ปู่ร้องเรียกเมฆให้รอด้วย...แชมเปญยังไม่ยอมแพ้ คว้าก้อนหินขึ้นมาฟาดหัวเกวลินเต็มแรงจนฟุบลง แล้วลากขาคลานหนีออกไป
กรณ์ ปู่และทุกคนวิ่งมาถึงเข้าประคองเกวลินถามใครเป็นคนทำ เธอบอกว่าแชมเปญและเธอยังบาดเจ็บมาก ปู่สมน้ำหน้าปล่อยให้ไปตายในป่าเลย เกวลินตำหนิ ว่าเราคืออาสากูภัย ชีวิตคนสำคัญที่สุดลืมแล้วหรือ ใหญ่ย้ำปู่ว่าเราต้องช่วยตามหาเธอ เกวลินถามถึงธรรณธร ใหญ่ตอบว่าเขาถูกทะนงทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ดีที่เมฆมาเข้าร่างช่วยไว้ได้ เกวลินหน้าเสียจะร้องไห้
อนิมาร้องไห้อยู่หน้าห้องฉุกเฉิน กนกกับกรุณาคอยปลอบใจ เกวลินมาถึงรีบถามอาการธรรณธร กฤตบอกว่าตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉินหมอกำลังช่วยอยู่ เกวลินเกาะประตูน้ำตาไหลพรากภาวนาขออย่าให้เขาเป็นอะไร... ภายในห้อง หมอและพยาบาลช่วยกันปั๊มหัวใจธรรณธร
หลังจากเกวลินกับอนิมาสวดมนต์ภาวนา ผ่านไปสักครู่ หมอเปิดประตูออกมาบอกว่าคนไข้เสียเลือดมาก ทำให้ความดันตกต้องให้เลือดด่วน แต่ตอนนี้ทางโรงพยาบาลมีเลือดไม่พอ เกวลินรีบเสนอตัวยินดีให้เลือดแก่ธรรณธร ตนมีเลือดกรุ๊ปโอ ปู่แย้งว่าเธอเพิ่งผ่านเรื่องร้ายมาร่างกายยังไม่แข็งแรง อนิมาเห็นด้วย ตนมีเลือดกรุ๊ปเดียวกับพี่ชายตนให้เขาเอง เกวลินคัดค้านก่อนเดินตามหมอไป
“เกวเองดีกว่า ที่คุณธรรณต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะเกว ขอเกวได้ทำเพื่อเขาสักครั้งนะคะ แต่คุณนิควรจะเตรียมตัวไว้ ถ้าเลือดที่เกวให้ยังไม่พอ...”
ทุกคนมองอย่างเป็นห่วง ระหว่างที่เกวลินนอนให้เลือด เธอหันมองธรรณธรที่นอนไม่ได้สติมีออกซิเจนครอบปากหายใจรวยริน เธอพึมพำน้ำตาไหล
“คุณธรรณฉันรู้ว่าคุณได้ยินฉัน คุณต้องไม่เป็น อะไรนะ คุณต้องตื่นขึ้นมานะคะ ทุกคนรอคุณอยู่รวมทั้ง...ฉันด้วย...”
วิญญาณเมฆยืนหน้าเศร้าอยู่ในห้องด้วย...ด้านหน้าห้องฉุกเฉิน อนิมายังคงร้องไห้ไม่ยอมทานอะไรสักนิด กรณ์เป็นห่วงทั้งปลอบและขู่ว่าพี่ชายเธอคงไม่ดีใจแน่ ถ้ารู้ว่าน้องสาวที่รักต้องเป็นอะไรไปอีกคน อย่าทำอะไรให้เขาต้องห่วงเลย คอยเป็นกำลังใจให้จะดีกว่า
อนิมาสะอึกสะอื้น กรณ์มองด้วยความสงสารจับใจ ดึงเธอมากอด อนิมากอดตอบแน่นเหมือนต้องการกำลังใจ
“ฉันจะผ่านมันไปได้จริงๆเหรอ”
“จริงสิ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะอยู่ข้างๆคุณ...”
อนิมารับฟังด้วยความซาบซึ้งใจ
ooooooo
วิญญาณธรรณธรล่องลอยมาที่แห่งหนึ่งดูร่มรื่น มีผู้คนอยู่ในชุดโบราณเดินยิ้มแย้ม เห็นแก้วยืนยิ้มก่อนจะหันหลังเดินไป ธรรณธรชะเง้อมองแล้วรีบเดินตาม จนกระทั่งยืนคว้างคนเดียว เมฆยืนอยู่ด้านหลัง
“หลวงวรงค์ขอรับ อย่าไปขอรับ คุณแก้วรอคุณหลวงอยู่ขอรับ”
เสียงเรียกนั้นทำให้ธรรณธรหันกลับมาทวนชื่อคุณแก้ว เมฆจึงให้ความกระจ่างว่า
“ใช่ขอรับ คุณแก้วคนรักของท่านไงขอรับ”
“คนรัก...เกวลิน...แล้วฉันไม่ไปได้ด้วยเหรอ”
“กระผมอโหสิกรรมให้คุณหลวงแล้ว คุณหลวงไม่ต้องไปแล้วขอรับ”
ธรรณธรคิดว่าตัวเองตายแล้ว เมฆบอกยังไม่ตายเขาจะพากลับไป ธรรณธรถามทำไมถึงช่วยตน ทั้งที่ในอดีตตนเป็นคนฆ่าเขา เมฆอธิบายว่าที่คุณหลวงทำไปเพราะความเข้าใจผิด ทุกอย่างเป็นแผนของขวัญวงศ์
ตนรู้ว่าคุณหลวงรักคุณแก้วมาก ธรรณธรแย้งว่าเขาก็รักแก้วเช่นกัน
“กระผมรักคุณแก้ว และอยากเห็นคุณแก้วมีความสุขกับคุณหลวงขอรับ”
“นายไม่โกรธไม่อาฆาตฉันเลยเหรอเมฆ”
“ไม่เลยขอรับ เพราะคุณหลวงชดใช้ให้กระผมหมดแล้ว ตั้งแต่กระผมตายไป”
เมฆให้เห็นภาพว่าหลวงวรงค์ถูกขวัญวงศ์วางแผนให้ฆ่าเขาแล้วตัวขวัญวงศ์ก็ถูกเกศวางแผนฆ่า หลวงวรงค์ทนทุกข์ทรมานเห็นแก้วแต่งงานไปกับหลวงประดิษฐ์ จึงครองตัวเป็นโสดและทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เมฆทุกปี
“กระผมไม่รู้จะอาฆาตคุณหลวงไปเพื่ออะไร เพราะความอาฆาตจะทำให้ผมติดอยู่ ไม่ได้ไปไหนเสียที การให้อภัยเท่านั้นจะปลดบ่วงพันธนาการทุกอย่างขอรับ”
ธรรณธรยิ้มขอบใจเมฆอย่างสุดซึ้ง...สัญญาณชีพจรที่เงียบลงของธรรณธรดังขึ้น หมอกับพยาบาลมองหน้ากันอย่างมีความหวัง เกวลินดีใจมองหน้าเขาน้ำตาไหลพราก
ในขณะเดียวกัน กลางป่าที่มืดมิด เสียงแชมเปญร้องโหยหวน ท่าทางหวาดกลัวปัดอะไรออกจากตัว พยายามลุกวิ่งหนี ข้างทางเต็มไปด้วยดวงตาวาวของสัตว์ป่า
เช้าวันใหม่ กรุณาเอาบันทึกมาอ่านให้ทุกคนฟังในห้องพักฟื้นของธรรณธร ว่าหลวงวรงค์ได้ขอขมาต่ออัฐิเมฆทุกเดือนจนวาระสุดท้ายของชีวิตด้วยวัย 64 ปี ก่อนตายได้บอกแก้วว่าเธอคือหญิงเดียวที่ท่านรัก ท่านจะรอจนกว่าชาติหนึ่งที่จะได้สมหวังในความรักกับเธอ...กรณ์แปลกใจว่าท่านรู้อดีตชาติได้อย่างไร กรุณาตอบขำๆว่า
“ก็ไม่รู้สิ แกจะกลับไปถามไหมล่ะ...”
กรุณาอ่านต่อไปว่า คุณแก้วอภัยให้หลวงวรงค์แต่ไม่อาจกลับมารักท่านได้เพราะต้องซื่อสัตย์ต่อสามีและครอบครัว จึงได้บันทึกไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ว่า การกระทำของมนุษย์ในทุกเรื่อง ต้องตั้งมั่นด้วยสติอยู่ตลอดเวลา ...เกวลินฟังแล้วถอนใจ อนิมาบ่นทำไมธรรณธรยังไม่ฟื้น นอนหลับมาสองวันแล้ว
บ่ายวันนั้น หน่วยกู้ภัยของใหญ่ออกไปช่วยสาวจมน้ำ ปู่กระโดดลงไปช่วยงมร่างเธอขึ้นมาได้ ทำการ ผายปอดและปั๊มหัวใจแต่เธอก็ไม่รอด กลับมานั่งถอนใจบ่นให้ยุ้ยฟังด้วยความสงสาร ยุ้ยกำลังอินเลิฟมีความสุขคุยไลน์กับหนุ่มเคน จนต๋องปวดใจ
เกวลินกลับบ้านมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่คิดจะนอนพักกลับรีบจะออกไปเฝ้าไข้ธรรณธรอีก กรณ์หน่ายใจฝากให้บอกอนิมาว่าเดี๋ยวตนตามไป
ธรรณธรลืมตาขึ้นมาเห็นอนิมาเดินออกจากห้องน้ำจึงเอ่ยเรียก อนิมาดีใจมากโผกอดเขาถามหาเกวลินอย่างน้อยใจว่าตนเจ็บขนาดนี้ยังไม่เฝ้าอีก อนิมาบอกว่าเกวลินเฝ้าทุกวันเพิ่งกลับไป ธรรณธรยิ้มออก อนิมาบอกให้เขารอเซอร์ไพรส์เธอเอง...อึดใจเดียวเกวลินก็โผล่เข้ามาพร้อมดอกไม้ในมือเดินไปจัดใส่แจกัน ธรรณธรชำเลืองมอง พอเห็นเธอจัดดอกไม้เสร็จก็รีบหลับตา
เกวลินมานั่งข้างเตียง รำพันความรู้สึกจากใจออกมา “เกวมาแล้วนะคะ คอยเกวนานไหม ทำไมไม่ยอมตื่นซะที เกวใจไม่ดีแล้วนะ อย่าเป็นแบบนี้สิ ตื่นขึ้นมาคุยกัน ตื่นมาเป็นเมฆก็ได้เอ๊า...ฉันคิดถึงคุณมากเลยรู้ไหม”
อนิมาส่ายหน้าขำๆได้ยินธรรณธรบ่นเบาๆ “คิดถึงผมหรือเมฆล่ะ...” แล้วแอบโบกมือไล่น้องสาวออกไป อนิมาจึงทำทีขอตัวออกไปข้างนอกฝากเกวลินดูแลพี่ชาย
เมื่ออยู่กันสองคน เกวลินแกล้งลองใจเขาว่า “ธรรณคะ เกวมีเรื่องจะสารภาพ คุณหลับไปหลายวัน มีคนมาจีบเกวด้วยล่ะ รูปก็หล่อ นิสัยดีแถมรวยด้วยนะคะ เกวจะสนใจเขาดีไหมคะ”
ธรรณธรตาโตขยับลุกขึ้นนั่ง ถามว่ามันเป็นใคร เกวลินดีใจแต่เก็บอาการถามเขาฟื้นแล้วหรือ ธรรณธร
งงทำไมไม่ดีใจ เธอทำท่าคิดแล้วบอกรู้สึกเฉยๆ เขาโกรธ “คุณไม่คิดถึง ไม่อยากกอดผมเลยเหรอ” เห็นเธอส่ายหน้าเขาโวยวาย “ไอ้นั่นมันเป็นใครที่มาจีบคุณน่ะ...ผมถามว่ามันเป็นใคร”
“มีที่ไหนกันล่ะ ฉันอำเล่น เพราะอะไรรู้ไหม เพราะคุณฟื้นตั้งนานแล้วแต่คุณแกล้งฉัน”
ธรรณธรติงว่าเธอไม่มองมัวแต่สนใจคนอื่น ตนหลับไปไม่กี่วันก็นอกใจตนแล้ว เกวลินเหน็บว่าทีหลังจะได้ไม่กล้าหลับอีก ธรรณธรดึงเกวลินมากอดถามเธอเรียกหาเมฆทำไม เธอแกล้งลอยหน้าเปรยว่าคิดถึง เขาดึงให้หันมา ถามอีกทีว่าคิดถึงใคร เธออมยิ้มตอบว่าคิดถึงเขา เท่านั้นชายหนุ่มก็สงบลงยิ้มแต้ แล้วหอมแก้มเธอซ้ายทีขวาทีจนเธอร้องบอกให้พอ แต่เขากลับกอดเธอแน่นขึ้น จนรู้สึกเจ็บแผลเองถึงปล่อย
ooooooo
จากที่ปู่ช่วยสาวจมน้ำแต่ไม่รอด ทำให้วิญญาณสาวคนนั้นตามติดปู่มาถึงบ้าน เธอบอกว่าเธอชื่อย่าจะขอเป็นแฟนกับเขาตลอดไป ปู่หน้าเสียกลัวผีจนขนหัวลุกวิ่งออกมาหาใหญ่ ต๋องและแมค พอทุกคนรู้ว่าผีตามติดปู่ก็สลายตัว
ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้เขาอีก
ด้านแชมเปญกระเซอะกระเซิงหลงอยู่ในป่า แผลที่ขาเน่าเฟะจนหนอนขึ้น เธอพยายามดิ้นรนให้อยู่รอดจนกระทั่งมีชาวบ้านมาพบพาส่งโรงพยาบาล
เช้าวันใหม่ อนิมาเข้าร้านหลังจากไม่ได้มาหลายวัน เห็นกรณ์ทำงานทุกอย่างแทนก็แอบปลื้มใจ กรณ์ถามว่าคิดถึงตนบ้างไหม เธอบอกว่าคิดถึงเพราะไม่มีคนคอยกวนประสาท ชายหนุ่มยิ้มแสดงว่าเธอชอบ อนิมายอมรับเขินๆ
“อืม...เวลาคุณกวนประสาท ฉันรู้สึก...สนุกดี”
“เหมือนผมเลย เวลาผมกวนประสาทคุณ ผมก็สนุกดีเหมือนกัน เรานี่ก็เข้ากันดีเนอะ เหมือนกาแฟขมๆกับน้ำตาลหวานๆผสมกันแล้วอร่อยดี”
“ช่างจินตนาการนะ ใส่นมด้วยสิจะได้มันๆ”
“แล้วถ้าเราได้เจอกันทุกวัน เจอกันทั้งวัน เจอกันตลอดไป ก็เหมือนได้เติมคาเฟอีนให้ชีวิต คุณว่าดีไหม” กรณ์ยื่นกาแฟลาเต้ร้อนให้ พร้อมพูดหน้าตาเฉยว่า
“เป็นแฟนกันนะ...” หญิงสาวชะงักเขิน กรณ์สำทับให้ตอบ อนิมาแกล้งดื่มกาแฟไม่พูดอะไร กรณ์ชี้ว่าฟองครีมที่ทำเป็นรูปหัวใจติดปากเธอแล้วเอาทิชชู่เช็ดให้ หญิงสาวเลยเขินอายหนักกว่าเดิม
วันเดียวกันธัญญารู้ข่าวแชมเปญจากตำรวจ จึงรีบมาดูที่โรงพยาบาล หมอให้เธอเซ็นยินยอมตัดขาแชมเปญเพราะมันเน่าจนติดเชื้อ ธัญญาร้องไห้สงสารลูกช่างเป็นเวรกรรมแท้ๆ
ธรรณธรออกจากโรงพยาบาล กรณ์จัดฉลองเล็กๆในบ้านสวน ชูแก้วแสดงความยินดีกับธรรณธรและเกวลินที่รักและเข้าใจกัน แล้วประกาศเรื่องตัวเอง “ส่วนแก้วนี้แด่ข่าวดีของผมกับคุณนิ”
“เดี๋ยวก่อน! ฉันไปตอบตกลงมีข่าวดีกับคุณตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เคยถามฉันสักคำไหม”
“เอ้า! นี่ผมยังไม่ถามคุณเหรอ งั้นผมถามเลยแล้วกัน”
กรณ์คุกเข่าลงขอแต่งงานหน้าตาเฉย อนิมาโวยจะบ้าหรือ ยังไม่เคยเป็นแฟนกันเลย
“เอ้า! นี่ผมเข้าใจมาตลอดว่าเราเป็นแฟนกันแล้วนะเนี่ย ตายแล้วทำไงดี”
เกวลินเสนอให้เป็นแฟนกันตอนนี้เลย กรณ์เห็นด้วยบอกเป็นแฟนกันตอนนี้แล้วพรุ่งนี้แต่งงานเลย
อนิมาทั้งเขินและอาย ธรรณธรแหย่มัวอายอยู่ได้ พอดีพ่อแม่กรณ์ไม่ยกลูกให้จะยุ่ง กนกกับกรุณายิ้มอย่างเอ็นดู บอกว่าพวกตนเอากรณ์ใส่กล่องยกให้นานแล้ว กรณ์หันมาถามว่าพ่อกับแม่เปิดทางขนาดนี้จะเอาตนไหม อนิมาตอบตกลงทันที
ทุกคนเฮลั่น กฤตรีบบอกว่าพรุ่งนี้จะเตรียมนายอำเภอมาจดทะเบียน อนิมาเหน็บเขาเป็นหมอหรือนายทะเบียนกันแน่ ธรรณธรกุมมือเกวลินยิ้มอย่างอบอุ่นใจ
เมื่อแชมเปญฟื้นขึ้นมาพบว่าตัวเองเสียขาไปข้างหนึ่งก็กรีดร้องอาละวาดจนช็อกไป พอธรรณธรรู้ข่าวก็สลดใจบอกต่อแก่เกวลิน กรณ์เองเมื่อรู้ข่าวแชมเปญก็อดที่จะไปเยี่ยมไม่ได้ เขาบอกอนิมาให้เข้าร้านกาแฟก่อนตนจะไปทำธุระ อนิมาทำหน้าน้อยใจ
ธรรณธรเห็นสีหน้าน้องจึงถามเป็นอะไร อนิมาบอกว่ารู้สึกกรณ์มีอะไรปิดบัง ธรรณธรรู้ทันทีบอกเธอว่าตนรู้ว่าเขาไปไหนทำอะไร อนิมากับเกวลินมองหน้าธรรณธรอย่างสงสัย
กรณ์มาเยี่ยมแชมเปญที่โรงพยาบาลจิตเวช เธอนั่งเหม่อลอยพร่ำพูดแต่คำว่า ไม่มีใครรักฉันเลย...
กรณ์กุมมือเธอถามจำตนได้ไหม เธอมองนิ่งๆแล้วพูดประโยคเดิม ธรรณธรพาอนิมาและเกวลินตามมาดู กรณ์สบตาอนิมากล่าวเศร้าๆกลัวเธอไม่เข้าใจ ธรรณธรตอบแทนว่า เขาทำถูกแล้วคนเคยรักกันก็ควรจะห่วงใยกันบ้าง แล้วธรรณธรก็หันมาพูดกับแชมเปญขออโหสิกรรมที่เราก่อร่วมกันในชาติก่อนและชาตินี้ แชมเปญน้ำตาไหลริน เกวลินและอนิมากล่าวตาม
ทุกคนเดินออกจากโรงพยาบาล กรณ์เอ่ยถามอนิมาว่าเข้าใจตนใช่ไหม เธอปฏิเสธและว่าไม่เข้าใจทำไมเขาถึงเห็นตนเป็นเด็กไม่รับฟังเหตุผล ตนโตพอที่จะแยกแยะออกไม่ใช่หึงหน้ามืดตามัว กรณ์แกล้งถามเราถึงขั้นหึงกันแล้วหรือ อนิมาอายที่พลั้งปาก เขาหัวเราะชอบใจ...
อนิมาสั่งห้ามกรณ์ยิ้มให้สาวอื่น ห้ามปิดบังทุกเรื่องห้ามเจ้าชู้ ห้ามเถียง พอแต่งงานกันเขาต้องอยู่ในโอวาท
กรณ์ถามเปลี่ยนใจทันไหม อนิมายิ้มๆ บอกว่าไม่ทันแล้ว
หลังจากหมดเรื่องร้ายๆ ธรรณธรก็เปลี่ยนเป็นคนสุขุม สุภาพอ่อนโยน รู้จักขอโทษทุกคนจนกฤตแปลกใจ ธรรณธรยอมรับว่าเป็นเพราะเกวลิน
ooooooo
แล้วก็ถึงวันแต่งงานของธรรณธรและเกวลิน งานจัดขึ้นในสวนสวย เกวลินแต่งตัวชุดเจ้าสาวสุดสวยอยู่ที่บ้าน ปู่เห็นแล้วตะลึงอยากร้องไห้ด้วยความเสียดาย แต่ตอนนี้เขามีวิญญาณสาวชื่อย่าตามติด กรณ์บอกว่าพ่อกับแม่ยังมาไม่ถึงจึงโทร.ไปบอกธรรณธรว่าต้องรอพวกท่านก่อน
ท่าทางธรรณธรร้อนใจ อนิมาปลอบให้ใจเย็นๆกฤต รับหน้าแขกในงานเชื้อเชิญให้ทานของว่างไปพลางๆก่อน... พอกนกกับกรุณามาถึงบ้าน เกวลินโล่งอกจะรีบไปงาน
ปู่เสนอว่าควรไปด้วยรถมูลนิธิจะถึงเร็วกว่า ทุกคนรวมทั้งเจ้าสาวจึงพากันขึ้นรถ ปู่เปิดไซเรนวิ่งเร็วจี๋ไปยังโรงแรมที่จัดงาน...คนแถวนั้นแตกตื่นคิดว่ามีเหตุร้าย แต่พอเห็นเจ้าสาวลงจากรถก็พากันทึ่ง เกวลินรีบวิ่งมาด้วยรองเท้าผ้าใบ ธรรณธรดีใจมากเมื่อเห็นเจ้าสาวสวย ปู่วิ่งตามเอารองเท้ามาให้ ธรรณธรจึงรับมานั่งใส่ให้ ท่ามกลางการเชียร์ของทุกคน
กรุณาอดย้ำกับเกวลินไม่ได้ว่า อย่าทำอะไรให้เสียชื่อแม่ อย่าดื้ออย่าซน กรณ์แย้งว่าน้องโตแล้ว ธรรณธรยิ้มขำๆจูงมือเกวลินไปที่เค้กก้อนโต จับมือเธอให้กุมมีดตัดเค้กร่วมกันและกระซิบข้างหูเธอว่า เธอเป็นภรรยาตนแล้ว เกวลินจึงบอกให้เขาสัญญาว่าจะเชื่อฟังตน เขารับคำ
ต๋องตะโกนให้จูบเจ้าสาว เกวลินเขิน ธรรณธรหันมาบรรจงจูบ เสียงเชียร์ยังไม่หมดให้เจ้าสาวจูบเจ้าบ่าวบ้าง เกวลินยิ่งเขิน ธรรณธรบอกให้เธอจูบเขาไม่ต้องอาย เธอจึงหอมแก้มเขาฟอดอย่างรวดเร็ว ธรรณธรรวบเอวเธอกอดแน่น สบตาซึ้งจนทุกคนเฮ...ด้วยความอิจฉา
ถึงเวลาโยนช่อดอกไม้ เกวลินหันหลังเตรียมโยน สาวๆเข้ามารอแย่งกันรับ ช่อดอกไม้ลอยเคว้งตกลงในมือยุ้ยอย่างไม่คาดฝัน เธอดีใจมากที่จะได้แต่งงาน...
หลังเสร็จพิธี ธรรณธรก็อุ้มเกวลินไปนั่งรถสปอร์ตพาไปห้องหอ กรุณาร้องบอกเดี๋ยวแม่จะตามไปส่งตัว
เมื่อเสร็จสิ้นการส่งตัว ธรรณธรอาบน้ำเปลี่ยนชุดออกมา เห็นเกวลินนั่งเขียนอะไรอยู่ก็เข้าไปถาม เธอบอกว่าอยากบันทึกเรื่องราวแบบยายเทียดไว้ให้ลูกหลานอ่านบ้าง ธรรณธรให้ไว้เขียนวันหลัง ตนรอเวลานี้มาเป็นร้อยปี เกวลินผลัดขอเขียนอีกสักครู่ให้เขาเข้านอนก่อน
ธรรณธรงอนขึ้นนอนบนเตียงแล้วจ้องไปยังเกวลิน เธอร้องด้วยความตกใจเพราะปากกาในมือกระเด็นไป สมุดก็ปิดหน้าเอง ธรรณธรเดินมาดึงลิ้นชักออก สมุดลอยเข้าไปเก็บในนั้น
“นี่คุณ! คุณควบคุมมันได้แล้วเหรอ...คุณห้ามใช้พลังจิตกับฉันนะ อ๊าย!...อย่านะ...อย่า...”
ธรรณธรอุ้มเกวลินขึ้นไปนอนบนเตียง แล้วไฟในห้องก็ดับลงเอง เป็นเทียนสว่างขึ้นสลัวสร้างบรรยากาศ ธรรณธรเอื้อนเอ่ย “เกวลิน ผมขอสาบานว่า จะรักและซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยามทุกข์และยามสุขจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
เกวลินอ่อนลงสบตาเขาหวานซึ้ง “เกวก็จะรักและซื่อสัตย์ต่อคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่เช่นกันค่ะ”
เกวลิน หลับตาพริ้มปล่อยให้ความรักดำเนินไปตามหัวใจปรารถนา...
วันต่อมา ธรรณธรโอบกอดเกวลินอยู่ริมน้ำมองดวงดาวยามค่ำคืน เกวลินเห็นหิ้งห้อยเหนือพื้นน้ำจึงเอ่ยถามบ้านเขามีหิ้งห้อยด้วยหรือ ธรรณธรเองก็แปลกใจ จู่ๆหิ้งห้อยก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นๆบินเข้ามาหา ทั้งสองตื่นตา ตื่นใจ แสงหิ้งห้อยตัวรวมกันก่อเป็นร่างเมฆมลังเมลือง
“กระผมมาลาคุณแก้วกับคุณหลวงขอรับ”
เกวลินรีบถามจะไปไหน เมฆตอบว่า ตนวนเวียนอยู่ในโลกนี้เพราะยังมีห่วง บัดนี้หมดห่วงเพราะได้เห็นทั้งสองสมรัก ตนจะไปตามบุญกรรมที่ก่อมา หมดเวลาของตนแล้ว ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจะได้มาเจอกันอีก...ธรรณธรขอบใจที่มีแต่ความปรารถนาดีให้ เมฆก้มกราบทั้งสองคนแล้วแสงก็กระจายออกเป็นหิ้งห้อยบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
เกวลินปลาบปลื้มที่มีคนมอบหัวใจให้ถึงสองดวง ธรรณธรอยากให้เธอบอกว่ารัก เธอเขินอายแต่ก็พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ว่าตนรักเขาเท่าหัวใจของตนเอง ธรรณธรสวมกอด รับคำว่าจะดูแลหัวใจของเธอให้สมกับที่เธอมอบให้...สองหัวใจนี้เพื่อเธอคนเดียวเท่านั้น
ooooooo
–อวสาน–