icon member

ศิราพัชร ดวงใจนักรบ

ตอนที่ 18

เมื่อมินาลินกลับมาสงบร่มเย็น ปกครองด้วยวาสินดังเดิม เนตราที่ลี้ภัยไปอยู่กับตวิษาและมาดิสร์ ที่มินทุก็เดินทางกลับมา และเตรียมจัดพิธีอภิเษกให้กับพชรและบาจรีย์ในเร็ววัน

อดิศรได้รับคำชมจากทั้งวาสินและมาดิสร์ที่เขาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อมินาลิน รวมทั้งบุตรชายกับบุตรสาวของอดิศรที่กล้าหาญสมเป็นบุตรของท่านนายพลแห่งกองทัพไทย ยังความปลาบปลื้มให้แก่อดิศรและศิรดาผู้เป็นภรรยา ที่เพิ่งเดินทางจากเมืองไทยมาสมทบ

ธามและลำธารดีใจมากที่ได้พบแม่ หลังจากไม่ได้เห็นหน้ากันเป็นเดือนๆ แต่จากนั้นไม่นานความดีใจของทั้งคู่ก็ค่อยๆเหือดหายกลายเป็นซึมเศร้า เมื่อรู้ว่าวันอภิเษกของพชรกับบาจรีย์ถูกกำหนดชัดเจนแล้วในวันพรุ่งนี้

แม้จะทำใจเอาไว้บ้างแล้ว แต่เมื่อถึงเวลานี้จริงๆ ลำธารก็ทนที่จะอยู่ร่วมงานด้วยไม่ได้ วันนี้เธอตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าข้าวของเตรียมจะกลับเมืองไทย แต่จู่ๆพชรมาปรากฏตัวตรงหน้า ทำให้ลำธารแทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่

"นายมาที่นี่ทำไม นายก็รู้ว่าตัวเองกำลังจะต้องอภิเษก"

"ผมรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ผมแค่อยากมาอยู่ใกล้ๆคุณ อยากใช้เวลาที่เหลืออยู่ทั้งหมดเพื่อจดจำทุกๆอย่างเกี่ยวกับคุณเอาไว้ จะได้ไหมครับ"

"พชร..." ลำธารโผเข้ากอดพชรแน่น พลางสะอื้นไห้ ด้วยความเสียใจ

พชรกอดลำธารแน่นไม่แพ้กัน รับรู้ถึงความเจ็บปวดของเขาและเธอ กับความรักที่ไม่มีวันสมหวัง...พชรเหลือบไป เห็นกระเป๋าของลำธารก็ชะงักด้วยความแปลกใจ มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม

"ฉันจะกลับบ้าน...จะกลับประเทศไทย"

พชรอึ้ง หัวใจหล่นวูบ มองลำธารอย่างปวดร้าว

"ขอโทษนะ ถึงฉันอยากจะอยู่กับนายมากกว่านี้ ให้เวลามันยาวนานออกไปไม่มีที่สิ้นสุด แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ ฉันคงอยู่ร่วมงานอภิเษกของนายกับเจ้าหญิงบาจรีย์ไม่ได้"

"ลำธาร...เพราะผมเอง ผมไม่น่าไปรักคุณตั้งแต่แรก"

"ไม่...มันไม่ใช่ความผิดของใคร บางทีมันอาจจะเป็นกรรมของฉันเอง ที่มีโอกาสได้พบกับรักแท้ แต่ว่า...ไม่มีสิทธิ์ที่จะครอบครอง"

ลำธารผละออกมาจากพชร กลั้นใจเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าต่อ เก็บไปก็พยายามกลั้นน้ำตา พชรไม่อาจทนดูต่อไปได้ ต้องเดินหนีออกมาทุบผนัง ทั้งเจ็บใจและเสียใจ ที่ความรักของเขาและเธอต้องลงเอยด้วยการจากลาแบบนี้...

ความรู้สึกของบาจรีย์กับธามก็ไม่ต่างจากพชรและลำธาร...บาจรีย์เดินไปหาธามที่หลบมานั่งซึมเศร้าอยู่ในสวนคนเดียว

"อยู่นี่เองเหรอ ฉันเดินหานายแทบแย่"

"เจ้าหญิงมีธุระอะไรกับผมเหรอ หรือว่าอยากให้ไปช่วยเลือกเครื่องประดับ"

"นายล่ำ...ฉันรู้ นายไม่อยากให้ฉันเศร้า แต่นายอย่าทำอย่างนี้อีกเลย ถึงจะฝืนยิ้มแค่ไหนมันก็กลบเกลื่อนอะไรไม่ได้อยู่ดี"

"ใช่สิ ผมมันเล่นละครไม่เนียน แต่ว่าอย่างน้อยรอยยิ้มก็พอปลอบใจตัวเองได้ว่าเหตุการณ์มันไม่ได้เลวร้ายไปซะหมด คุณไม่รู้หรอกว่ามันยากแค่ไหนที่ผมต้องพยายามยิ้ม ยิ้มออกมาให้ได้...ใช่ ผมต้องกลบเกลื่อน กลบเกลื่อนว่าผมไม่ได้เสียใจจนแทบจะบ้า กลบเกลื่อนว่าผมไม่ได้น้อยใจที่เกิดมาเป็นแค่นายทหารธรรมดาๆ ไม่ใช่เจ้าชาย ไม่มีสิทธิ์รักคุณได้ คุณรู้ไหมว่าผมเสียใจแค่ไหนที่ทำอะไรให้คุณไม่ได้เลย อย่างน้อยผมก็อยากจะทำให้คุณยิ้มออกมาได้บ้าง"

บาจรีย์สะอึกอึ้ง นึกไม่ถึงว่าธามจะพยายามทำเพื่อเธอมากขนาดนี้

"ธาม...นายเข้าใจผิดแล้ว ใครว่านายทำอะไรเพื่อฉันไม่ได้ นายคือคนที่สอนให้ฉันรู้ว่าฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนนึง ที่หิวได้ ร้อนได้ หนาวได้ เจ็บปวดได้ และรักได้ นายทำให้ฉันได้รู้จักความรัก และนั่นเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ฉันเคยรู้จัก"

บาจรีย์น้ำตาท่วม กอดธามแน่น แล้วต่างคนก็ต่างบอกรักกันอีกครั้ง...เป็นครั้งสุดท้าย

ooooooo

อดิศรกับศิรดาพอรู้ว่าลำธารจะกลับเมืองไทยในเย็นนี้ ทั้งคู่ไม่เห็นด้วย ยกเหตุผลขึ้นมาว่า เราอุตส่าห์ ช่วยกู้บ้านกู้เมือง เสร็จแล้วน่าจะอยู่ร่วมพิธีสำคัญด้วย ถ้าเราด่วนกลับไปก่อนจะไม่เหมาะสม  ลำธารนิ่ง

พูดไม่ออก แต่อดิศรมองออกว่าลูกสาวรู้สึกอย่างไร จึงเข้ามาโอบไหล่ลูกและพูดด้วยเสียงค่อนข้างเบา ตั้งใจไม่ให้ศิรดาได้ยิน

"พ่อรู้ว่าที่ลูกอยากกลับไม่ใช่เพราะงานที่โน่น พ่อมองดูลูกตลอด ทำไมพ่อถึงจะไม่เข้าใจหัวอกลูก แต่พ่อก็ยังอยากให้ลูกอยู่ร่วมงาน เพราะการเยียวยาบาดแผลที่ดีที่สุดก็คือการยอมรับ อดทนอีกนิดนะลูก แล้วเราก็จะกลับไปมีชีวิตของเราตามเดิม"

"ค่ะพ่อ ลำธารจะอดทน จะยอมรับมันให้ได้"

ผละจากพ่อแม่มาแล้ว ลำธารก็ได้รับคำปลอบโยนจากพี่ชายอีกว่า

"ไม่ต้องคิดมากนะลำธาร เดี๋ยวพ้นวันพรุ่งนี้เราก็จะได้กลับบ้าน แล้วทุกอย่างก็จะกลายเป็นแค่ความทรงจำ"

"แต่มันก็เป็นความทรงจำที่เราสองคนคงไม่มีวันลืมนะพี่ธาม"

สองพี่น้องต่างก็เศร้าหมอง โอบกอดให้กำลังใจกันและกัน พชรเดินมาเห็น เขาตัดสินใจเข้ามาขออนุญาตธามขอคุยกับลำธารสักครู่ ธามไม่ต้องถามความเห็นลำธาร แค่มองหน้าก็รู้ใจ จึงปล่อยลำธารไปกับพชร

พชรนำสร้อยรักเท่าชีวิตที่เขายังเก็บรักษาไว้อย่างดีมาสวมใส่คอให้ลำธาร แต่ลำธารทักท้วงว่าสร้อยนี้เป็นของประจำ ตระกูลของเขาที่จะต้องมอบให้กับบาจรีย์?

"มันเป็นของคุณ เป็นของคุณคนเดียวเท่านั้น ผมไม่ สามารถยกดวงใจให้กับใครอื่นได้ แล้วผมจะยกสร้อยเส้นนี้ให้กับคนอื่นได้ยังไง"

"แต่ว่า..."

"คุณไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องบาจรีย์ ผมเชื่อว่าบาจรีย์จะเห็นด้วย ลำธาร...ได้โปรดรับมันไว้เถอะ อย่างน้อยขอให้มันเป็นเครื่องเตือนใจคุณว่า ณ แผ่นดินมินาลินแห่งนี้ยังมีชายคนหนึ่งที่รักคุณมาก และเขาจะรักคุณตลอดไป"

"พชร...ฉันจะเก็บรักษาสร้อยเส้นนี้ไว้อย่างดี ขอให้ นายจดจำไว้เหมือนกันว่า...ที่ประเทศไทยมีผู้หญิงคนหนึ่งที่รักนายมาก และผู้หญิงคนนั้นจะรักนายตลอดไป"

แล้วทั้งคู่ก็สวมกอดกันแนบแน่น ราวกับไม่อยากจะพรากจากกันอีกเลย...

ooooooo

เช้าวันอภิเษกที่จัดขึ้นอย่างสมเกียรติของเจ้าหญิงและเจ้าชาย มีแขกเหรื่อจำนวนไม่น้อยมาร่วมแสดงความยินดี แต่ขณะพิธีดำเนินไปนั้น บาจรีย์กลับไม่ ยอมรับแหวนจากพชร ทั้งยังตัดสินใจพูดความจริงว่าเธอไม่ได้รักพชรแล้ว เธอรักธาม ส่วนพชรก็ไม่ได้รักเธอ เขารักลำธารต่างหาก

ทุกคนภายในงานต่างฮือฮาขึ้นมา แต่ลำธารซึ่งทำใจไม่ได้ลุกหนีออกไปก่อนหน้านี้จึงไม่มีโอกาสรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ลำธารตัดใจนั่งรถออกจากวังมินาลินไปโดยไม่รอพ่อแม่ และพี่ชาย ส่วนในวัง ผู้ใหญ่ทั้งหมดกำลังมึนงงว่าเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง และเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่เมื่อพชรอธิบาย และยืนยันว่าเขารักบาจรีย์อย่างน้องสาว ส่วนบาจรีย์ก็ยืนกรานว่าเธอจะไม่อภิเษกกับพชร ผู้ใหญ่ สองฝ่ายต่างจึงตัดสินใจไม่ถูก ส่วนอดิศรกับศิรดานั้นหน้าเสีย ที่ลูกชายตัวเองเข้ามามีส่วนพัวพัน

"ท่านประมุขของทั้งสองแคว้น กระผมขอประทานอภัยแทนลูกชายซื่อบื้อคนนี้ด้วย ไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าทำเรื่องไร้กาลเทศะอย่างนี้"

"พ่อครับ ถึงมันจะไม่ถูกธรรมเนียม แต่ว่าผมจริงใจนะครับ ท่านมาดิสร์ ผมรักเจ้าหญิงบาจรีย์ลูกสาวท่านจริงๆ ไม่รู้ว่ารักตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งๆที่เจ้าหญิงก็ไม่ใช่คนน่ารักเลย ทั้งดื้อ ทั้งซน แล้วก็หยิ่งเป็นที่หนึ่ง"

"นายล่ำ! นายพูดอย่างนี้ได้ไงเนี่ย ตัวเองดีตายล่ะ ชอบใช้กำลัง เอาแต่ใจ เผด็จการ ก้าวร้าวก็ที่หนึ่ง"

"หยุด...พอได้แล้วทั้งสองคน ท่านวาสิน เราต้องขอโทษด้วยที่ลูกสาวของเราผิดคำสัญญา ช่างน่าละอายเหลือเกิน เราไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว"

"ท่านอย่าโทษตัวเองเช่นนั้นเลย ลูกชายของเราก็ผิดคำสัญญาเหมือนกัน เอ๊ะ พชรหายไปไหน มีใครเห็นพชรบ้างมั้ย" วาสินและทุกคนเหลียวหาพชรที่ไม่รู้ว่าหายไปตอนไหน...

พชรนั่งรถตามลำธารออกไป เมื่อทันกันก็บอกข่าวดีกับเธอด้วยความตื่นเต้นว่า บาจรีย์ปฏิเสธที่จะอภิเษกกับเขา ต่อไปนี้พันธะสัญญาของมินาลินกับมินทุหมดลงแล้ว เขามีสิทธิ์ ที่จะทำตามหัวใจตัวเองแล้ว...ลำธารดีใจสุดชีวิต สวมกอดพชรทั้งน้ำตา

แต่ในวังมินาลิน พ่อแม่ของสองฝ่ายยังหาทางออกไม่ได้ว่าจะทำยังไง ในเมื่อพิธีถูกจัดขึ้นแบบนี้แล้ว ที่สุดมาดิสร์ กับตวิษาก็ยอมให้ธามเป็นเจ้าบ่าวแทนพชร บาจรีย์กับธามจึงได้สมรสสมรักอย่างไม่ทันตั้งตัว

อีกครู่ต่อมา วาสินกับเนตราออกมาตามพชรกับลำธารที่หน้าวัง วาสินบอกให้พชรพาลำธารเข้าไปร่วมพิธี

"พิธี? พิธีอะไรกันครับท่านพ่อ ก็ลูกสารภาพแล้วว่าลูกไม่ได้รักบาจรีย์"

"พ่อรู้ แต่งานอภิเษกก็ได้จัดขึ้นแล้ว จะให้พ่อล้มเลิกมันก็ไม่ถูกต้อง อีกอย่างเจ้าสาวเขาก็รออยู่"

พชรกับลำธารหน้าเสียขึ้นมาทันที เนตราก็เลยอดรนทนไม่ไหว

"ดูสิลูกหน้าเสียใหญ่แล้ว...ท่านพ่อล้อเล่นน่ะลูก เราจะจัดพิธีอภิเษกให้เจ้าหญิงบาจรีย์กับคุณธาม บุตรชายท่านอดิศรต่างหากล่ะ ส่วนพิธีอภิเษกของลูกทั้งสองคงต้องรอก่อน เจ้าสาวยังต้องจัดเตรียมเสื้อผ้าข้าวของให้พร้อมก่อน...ใช่ไหมจ๊ะ"

"ท่านพ่อ...ท่านแม่" พชรตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง

"แม่น่าจะสังเกตตั้งแต่ทีแรกว่าคุณหมอลำธารสวมสร้อยรักเท่าชีวิต คุณหมอนี่เองที่เป็นคนกุมหัวใจของลูก...เก็บสร้อยเส้นนี้ไว้ให้ดีนะจ๊ะ เพราะมันคือสร้อยที่ต้องส่งมอบให้กับเจ้าสาวประจำตระกูลของเราทุกๆรุ่นไป"

ลำธารกับพชรซาบซึ้งใจรีบทรุดลงนั่งคุกเข่าก้มศีรษะขอบคุณท่านทั้งสอง จากนั้นเนตราก็เร่งให้พชรพาลำธารตามไปข้างใน

พอท่านทั้งสองเดินลับกาย พชรก็ยิ้มกริ่มชวนว่าที่เจ้าสาวควงแขนเข้างาน ลำธารกลับยึกยักว่าเธอแค่รับคำเชิญร่วมงาน แต่เรื่องเป็นว่าที่เจ้าสาวต้องขอคิดดูก่อน

"อ้าว ทำไมล้อผมเล่นแบบนี้ล่ะครับ"

ลำธารยิ้มๆไม่ตอบ เดินนำหน้าไปก่อนเลย...พชรเดินบ่นโอดโอยและออดอ้อนตามหลัง แต่ลึกๆก็สุขใจ

ooooooo

ธามกับบาจรีย์สมหวังในรักไปนานพอสมควรแล้ว แต่คู่ของพชรกับลำธารยังไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่ง ทั้งที่บาจรีย์ก็อยากเป็นเพื่อนเจ้าสาวใจจะขาด ส่วนภูษณะกับพาริณ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่คืบหน้ามีแต่ความหวานชื่น

วันนี้พชรทนรอต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว เขามาตัดพ้อลำธารว่าเธอรักษาแต่แผลกาย แต่แผลใจไม่ยอมรักษาให้เขาสักที

"แผลใจอะไรกัน ฉันไม่เห็นเคยตรวจเจอว่านายเป็นโรคหัวใจ"

"ไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เลย ก็แผลใจที่ผู้หญิงเขาไม่ยอมตกลงแต่งงานด้วยซะที ตอนนี้ใครๆก็สงสารผมกันหมดแล้ว เป็นถึงรัชทายาท แต่ผู้หญิงไม่ยอมแต่งงานด้วย"

"พูดเกินไปรึเปล่า ใครเขาจะว่า"

"ลำธาร...นี่คุณจะแกล้งทรมานผมทำไม คุณไม่รู้เหรอว่าผมรักคุณมากและต้องการให้คุณอยู่เคียงข้างผมแค่ไหน"

"ฉันรู้ แต่ฉันยังไม่อยากจะเชื่อ มันไม่ใช่ความฝันใช่ไหมพชร นี่ฉันไม่ได้ฝันใช่ไหม คุณกำลังขอฉันแต่งงาน"

"แบบนี้...เป็นความฝันรึเปล่า" พชรพูดพร้อมกับดึงลำธารเข้ามากอด แต่ลำธารยังแกล้งส่ายหน้าเหมือนยังไม่แน่ใจ พชรเลยจูบหน้าผาก แถมด้วยจุมพิตที่ปากอย่างอ่อนโยน "แล้วแบบนี้ล่ะ"

"ฉัน...ฉันยิ่งรู้สึกเหมือนอยู่ในฝันใหญ่เลย"

"ไม่เป็นไร ผมจะอยู่ข้างๆคุณจนกว่าคุณจะเชื่อว่ามันเป็นความจริง...ลำธาร คุณเป็นคนที่พิเศษจริงๆ คุณคือ

ศิราพัชร เพชรแท้ในดวงใจของผม แต่ถ้าคุณยังไม่พร้อม และอยากจะให้ผมรอคุณแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็ได้ครับ ผมยินดีที่จะรอคุณไปตลอดชีวิตเลย ไม่ว่าพรุ่งนี้  มะรืนนี้  หรือว่าวัน..."

"ไม่ต้องแล้ว...แต่งงานกับฉันวันพรุ่งนี้เลยนะ"

พชรยิ้มกว้าง ก้มลงจุมพิตแผ่วเบาที่หน้าผากเธออีกครั้ง ก่อนจะตระกองกอดกันและกันอย่างมีความสุข...สมหวัง


ooooooo

-อวสาน-

ศิราพัชร ดวงใจนักรบ

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด