ตอนที่ 17
เช้าวันรุ่งขึ้น ผู้นำจากมิตรประเทศทั้งห้าเกิดความคิดเห็นไม่ตรงกัน แบ่งเป็นสองฝ่ายคือยอมกับไม่ยอมให้พชรเข้าร่วมประชุมเพื่อขอความช่วยเหลือในการรบกับพวกดารัณ ดังนั้นพชรจึงต้องหยิบยกเหตุผลด้วยความเป็นจริงเกี่ยวกับความชั่วร้ายของดารัณที่ตั้งแต่ยึดอำนาจการปกครองมินาลินไป ประชาชนมีแต่เดือดร้อนและล้มตาย เพียงเพราะพวกเขาไม่ยอมรับในตัวดารัณ
บาจรีย์กับลำธารก็ช่วยพชรยืนยันความเป็นจริง แต่หนึ่งในผู้นำที่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับวาสินยังยืนยันไม่ให้พชรร่วมประชุม อีกทั้งดารัณที่รู้ข่าวนี้จากทหารของตนที่มาซุ่มดูเมื่อวานตอนพชรต่อสู้กับราชองครักษ์หลวงทั้งสอง ก็สื่อสารผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์เข้ามายังที่ประชุมด้วย ดารัณวางอำนาจพูดจาให้ร้ายพชร และโน้มน้าวผู้นำทั้งห้า แต่ระหว่างนี้เองมาดิสร์ ปรากฏตัวพร้อมสร้อยศิราพัชรที่ดารัณถวิลหามานานเพื่อการเป็นกษัตริย์ที่สมบูรณ์ มาดิสร์นำมาสวมใส่ให้พชรต่อหน้าทุกคน รวมทั้งดารัณที่ยังจ้องเขม็งผ่านจอด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย
"บัดนี้สร้อยแห่งกษัตริย์ได้อยู่กับท่านพชรแล้ว" มาดิสร์ ประกาศก้อง
"เท่ากับว่าท่านดารัณไม่มีสิทธิ์เป็นเหนือหัวแห่งมินาลินตั้งแต่แรก..."
"ท่านผู้นำเข้าใจถูกต้องแล้ว และที่สำคัญคือกษัตริย์ วาสินยังมีชีวิตอยู่...มันผู้นี้เป็นได้เพียงกบฏในคราบผู้นำเท่านั้น จริงไหมล่ะท่านดารัณ"
ดารัณโกรธแค้น ด่ากราด ชี้นิ้วใส่หน้าบรรดาผู้นำ
"จะอย่างไรก็ตาม พวกท่านทั้งหลายจงสำนึกว่าหากคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อเรา ชีวิตท่านและประชาชนของพวกท่านจะหาไม่"
แล้วสัญญาณภาพดารัณก็ขาดหายไป บรรดาผู้นำต่างหันมามองหน้ากันอึ้งๆ หนึ่งในกลุ่มย้ำถามพชรว่าจริงหรือ ที่ท่านวาสินยังไม่สิ้นบุญ
"ครับ...เมื่อรู้เช่นนี้ ท่านจะเลือกช่วยใครระหว่างคนชั่วที่กระหายในอำนาจ กับเราและกองกำลังกู้ชาติผู้ยอมตายเพื่อรักษาชาติมินาลิน"
ผู้นำทั้งห้านิ่งคิดอย่างตัดสินใจ...เมื่อได้คำตอบเป็นที่พอใจแล้ว สองพ่อลูกมาดิสร์กับบาจรีย์มีโอกาสทักทายแสดงความคิดถึงต่อกันเพียงเล็กน้อย เพราะพชรต้องรีบกลับค่ายทำหน้าที่ของตนเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป แต่ระหว่างการเดินทางที่ต้องบุกป่าฝ่าดงในตอนค่ำ รถเกิดหม้อน้ำรั่วทำให้คณะของพชรต้องหยุดพักค้างคืนที่บ้านของชาวบ้านก่อน
โอกาสนี้พชรอยากพูดคุยปรับความเข้าใจกับลำธาร แต่เธอยืนยันเสียงแข็งไม่อยากให้เขาเข้าใกล้ มันสายไปแล้วที่จะคุยเรื่องนี้อีก
"แต่คุณตัดสินผมในมุมของคุณฝ่ายเดียว มันยุติธรรมแล้วเหรอ"
"แล้วยังไง จะให้ฉันเข้าใจนาย จะให้ฉันยอมเป็นคนโง่ ที่ถูกนายหลอกลวงมาตลอดใช่มั้ย นายรู้อยู่แก่ใจว่าสุดท้ายเราไม่มีวันรักกัน ฉันผิดใช่มั้ย ที่ฝากความหวังไว้กับนาย ฉันผิดใช่มั้ยที่โง่รักนายเอง ฉันผิดใช่..."
ทันใด พชรดึงลำธารเข้ามาจูบ ลำธารทั้งรักทั้งแค้นผลักเขาออกแล้วตะเบ็งเสียงใส่
"ฉันเกลียดนาย!"
"แต่ผมเลิกรักคุณไม่ได้"
เพี้ยะ! เสียงฝ่ามือลำธารฟาดเข้าที่หน้าพชรเต็มแรง
"อย่าให้ฉันต้องเกลียดนายมากไปกว่านี้ ไปให้พ้นหน้าฉัน ออกไป!"
ลำธารผลักไสไล่เขาออกไปด้วยใจที่เจ็บปวด พชรเองก็รู้สึกไม่ต่างจากลำธาร เดินคอตกน้ำตาคลอออกไปอย่างร้าวรานใจ
ส่วนบาจรีย์กับธามที่ต่างคนต่างก็รัก โดยธามได้เผยใจออกไปแล้ว แต่บาจรีย์ยังกั๊กความรู้สึกเอาไว้ด้วยความสับสน จนเมื่อคืนนี้ธามมาพูดแขวะเรื่องการอภิเษก บาจรีย์ เลยระบายความรู้สึกนึกคิดจริงๆออกมาว่าเธอเองก็ชอบเขา ธามดีใจและเป็นสุข ทั้งๆที่รู้ว่ารักครั้งนี้ไม่มีวันสมหวัง จึงขอกอดเธอในคืนนี้ให้นานเท่าที่จะนานได้
เช้าแล้ว ทั้งสี่คนขึ้นรถมุ่งหน้ากลับค่ายโดยไม่มีใครพูดกับใครเลย จนกระทั่งใกล้ถึงค่าย ลำธารกรีดร้องขึ้นมาอย่างตกใจเพราะเห็นศพชาวบ้านหลายคนข้างทาง เมื่อจอดรถลงไปดู ปรากฏว่าศพถูกฆ่าด้วยอาวุธสงครามและขวาน ทุกคนหน้าเครียดขึ้นมาทันที ต่างตระหนักถึงอันตรายที่กำลังจะมา
คามิน คเชนทร์ และทหารกลุ่มหนึ่งกำลังปะทะกับพวกภูษณะที่ลาดตระเวนรอบค่าย ภูษณะได้รับบาดเจ็บเพราะปกป้องพาริณ โชคดีไม่ถึงตายเพราะอดิศรกับจ่าแสงนำกำลังมาสมทบ ส่วนที่ประตูค่ายอีกด้าน เวคินและสหายกลุ่มใหญ่กำลังปะทะกับราชิตและฟารุตที่นำกำลังมาไม่น้อย เวคินฮึดสู้จนตัวตาย โดยที่คณะของพชรมาช้าไป ทุกคนเศร้าเสียใจต่อการจากไปของเวคิน หัวหน้ากองกำลังใต้ดินผู้จงรักภักดี พชรแค้นราชิตแทบ
กระอัก ตามไล่ล่ามันไปอย่างไม่คิดชีวิต โดยไม่ฟังคำทัดทานของใครๆ
แล้วความบุ่มบ่ามขาดสติของพชรก็ทำให้อดิศรบาดเจ็บสาหัสด้วยคมกระสุนของราชิตที่ตั้งใจยิงพชร แต่อดิศรพุ่งตัวเข้ามาบัง ธามวิ่งตามมาช่วยพาอดิศรหลบไปหลังพุ่มไม้ ส่วนพาริณเข้าช่วยพชร เพราะราชิตยิ่งฮึกเหิมสั่งทหารฆ่าพวกมันให้ได้ แต่แล้วมีชาวบ้านกลุ่มใหญ่ที่เป็นแนวร่วมกองกำลังใต้ดินบุกเข้ามา ราชิตเห็นว่ากำลังของตนน้อยกว่า จึงเป็นฝ่ายล่าถอยไป
ooooooo
อดิศรถูกพากลับค่ายอย่างเร่งด่วน ลำธารพอรู้ว่าพชรเป็นต้นเหตุให้พ่อของเธอบาดเจ็บ ก็โกรธจัดถึงกับตบหน้าพชรทันทีที่เขากล่าวคำขอโทษ
"คำขอโทษของนายมันไม่มีความหมายอะไรเลย กี่ครั้งแล้วที่นายวู่วาม บ้าดีเดือด กี่คนแล้วที่ต้องตายเพราะนาย ถ้าพ่อฉันเป็นอะไรไป ฉันจะไม่ให้อภัยนายเลย"
จากนั้นลำธารก็รีบเข้าไปช่วยธีรัชรักษาอดิศรในห้อง พชรจะเดินตามไปแต่ถูกธามผลักอกแทบล้ม
"ไม่ต้องมายุ่ง ไป!" ธามตวาดไล่ แล้วเดินตามลำธารเข้าไปข้างใน พชรรู้สึกผิดขึ้นมาจับใจ เดินคอตกกลับไปห้องพัก แล้วเฝ้าโทษตัวเองไม่ดี ทำให้ทุกคนต้องมาเจ็บมาตายแทนแบบนี้...
ภูษณะที่บาดเจ็บเพราะช่วยพาริณ แต่อาการของเขาไม่หนักเท่าอดิศร จึงไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ที่บาจรีย์กับพาริณ เป็นห่วงก็คือพชร ที่เข้าไปเก็บตัวเงียบในห้องนานแล้ว...
ด้านราชิตกับฟารุตที่วังมินาลิน ทั้งคู่กำลังถูกดารัณระเบิดอารมณ์ใส่อย่างเกรี้ยวกราดที่ฆ่าพชรไม่สำเร็จ
"ขออภัยท่านดารัณ แต่ถึงเราถอนรากถอนโคนมันไม่ได้ ก็ตัดกำลังมันไปได้มาก ไอ้เวคินก็ตายแล้ว มันเคยฆ่าคนของเราไปมาก"
"แต่พวกมันก็จะได้กลุ่มมิตรประเทศมาช่วย หลักการของเราคือตัดต้นหญ้าก่อนมันจะมีโอกาสงอก ไอ้พวกชาวบ้านมันเหิมเกริมกล้าออกมาร่วมกับพชร จะปล่อยไว้ไม่ได้ เรียกทหารที่ช่องเขาขาดรวมพลรอรับคำสั่งข้า"
"ท่านจะเดินทาง..."
"เออสิวะ ต้องไปแสดงให้พวกมันเห็นหน่อย จะได้รู้ตัวว่าแผ่นดินนี้มันเป็นของใคร"
ราชิตฟังแล้วไม่สบายใจ ขณะที่สีหน้าฟารุตก็มีแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด...แล้วจากนั้นอีกไม่นานพชรก็ได้รับรู้ข่าวนี้จากใครบางคนที่ส่งเป็นรหัสเข้ามายังเครื่องรับในค่าย พชรสีหน้ามุ่งมั่นคิดทำการบางอย่าง แล้วแอบไปดักพบลำธารตรงหน้าบ้านพักของเธอ
ลำธารเพิ่งกลับจากรักษาอดิศร ท่าทางเธอเหนื่อยและเพลียมาก ไม่อยากพูดหรือทะเลาะอะไรกับพชรอีกแล้ว เธอจะรีบเข้าที่พักแต่พชรก้าวมายืนขวางหน้าประตู ซ้ำยังจับมือถือแขนเธอด้วย เธอเลยตบหน้าเขาอย่างสุดจะทน
"บอกแล้วไงอย่ามายุ่งกับฉัน พ่อฉันเสียสละชีวิตให้นายยังไม่พอใช่มั้ย นายยังต้องการอะไรจากฉันอีก"
"ถึงคุณจะโกรธจนไม่อยากจะมองหน้า ไม่อยากจะพูดกับผมอีก ผมก็มีสิ่งสุดท้ายที่ต้องจะพูดกับคุณ...ต่อไปผมจะไม่รบกวนคุณอีก ผมจะไม่ทำให้คุณไม่สบายใจอีกแล้ว ผมมาเพื่อจะขอบคุณ ทุกๆอย่างที่คุณทำให้กับพวกเรา ทำให้ชาวมินาลิน เหมือนที่ผมเคยบอกคุณ...ศิราพัชร คุณคือเพชร เพชรที่ส่องแสงให้โลกนี้สว่าง และทำให้ผมได้รู้จักกับความรัก หลังจากนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้คุณรู้ว่าดวงใจของผมจะไม่เงียบเหงา ดวง
ใจของผมมีสหายที่ร่วมรบ มีเพื่อนและทุกๆคน คุณไม่ต้องเป็นห่วงผมอีกต่อไปแล้ว"
ฟังเขาจนจบ ลำธารรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก...มองตามพชรที่เดินห่างออกไปทุกที ด้วยน้ำตาที่รื้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
แล้วค่ำนั้นเอง บาจรีย์ก็ลนลานมาบอกธามว่าพชรหายตัวไป แต่ธามเหมือนไม่ใส่ใจ บาจรีย์จึงไปบอกลำธาร และพูดคุยปรับความเข้าใจกันเรื่องความรักระหว่างเธอกับพชรที่ต้องเป็นไปเพราะความจำเป็น ทั้งที่ตอนนี้เธอเองก็รักชายอีกคนหนึ่งอยู่
ลำธารคิดหนักเรื่องพชรหายไป จนเผลอร้องไห้ออกมาให้ธามเห็น ธามเลยซักด้วยท่าทีโมโหว่าใครมาบอก พี่จะได้ไปบอกพวกเขาว่าอย่าเอาเรื่องผู้ชายคนนี้มากวนใจน้องอีก
"พี่ธาม...อย่า...ใครจะบอกก็ไม่สำคัญ มันสำคัญที่ใจของลำธาร ลำธารไม่เข้มแข็งเอง ลำธารอาจจะเสียใจเพราะผู้ชายคนนี้ ให้เขาหายไปเลยอาจจะดีซะกว่า แต่มันจะเลวร้ายที่สุดกับประชาชนมินาลิน ที่จะสูญเสียความหวังเดียวของพวกเขาไป พี่ธาม เราสองคนมาอยู่ที่นี่เพื่ออะไรกันแน่ เราก็มีหน้าที่ของเราไม่ใช่เหรอ"
ธามนิ่งฟังอย่างแสนจะบีบคั้นหัวใจ ใจหนึ่งก็ยังโกรธพชร แต่ใจหนึ่งก็ตระหนักถึงหน้าที่
ooooooo
ที่ช่องเขาขาด พชรปลอมตัวเข้ามาปะปนในกลุ่มสมุนของดารัณ แล้วตั้งใจจะจัดการกับดารัณให้ จงได้ ทั้งที่รู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พชรก็ยอมแลกด้วย ชีวิตของตัวเอง
ไม่ทันที่พชรจะลงมือ ดารัณไหวตัวทัน พชรจึงตกอยู่ในอันตรายที่แวดล้อมไปด้วยสมุนของดารัณ ยังดีที่พวกธามและภูษณะยกโขยงตามมาช่วย หลังจากพวกเขาพบกระดาษข้อความที่พชรทิ้งเอาไว้ ส่วนลำธารกับบาจรีย์ก็แอบออกจากค่ายไล่หลังมาเหมือนกัน
การต่อสู้ของสองฝ่ายดุเดือดเลือดพล่าน พชรพลาดท่าถูกจับและถูกดารัณทรมานหมายให้ตายช้าๆ ลำธารที่มาพร้อมบาจรีย์กล้าที่จะเข้าไปช่วยพชรอย่างไม่กลัวตาย ทั้งที่คนอื่นๆกำลังวางแผนช่วยเหลือพชรอยู่
เมื่อลำธารกับบาจรีย์กล้าบ้าบิ่นแบบนี้ พวกธามเลยไม่ต้องรีรออะไรอีกแล้ว ภูษณะเองที่ยังไม่หายดีก็สู้ยิบตา โดยมีพาริณร่วมแรงแข็งขัน จนพวกเขาสามารถล้มคามินกับคเชนทร์ได้ แต่ก็ยากที่จะต้านราชิตกับทหารของดารัณอีกจำนวนมาก
ทันใดทั้งชาวบ้านที่จงรักภักดีต่อวาสินและพชรก็รวมตัวกันกลุ่มใหญ่เข้ามาช่วย รวมทั้งกองกำลังจากมิตรประเทศที่วาสินไปเจรจาด้วยตัวเองจนพวกเขาพร้อมใจกันมาช่วยเหลือ
"ท่านพ่อ ลูกไม่รู้จะขอบพระทัยได้อย่างไร"
"มินาลินก็คือชีวิตของพ่อเช่นกัน มันถึงเวลาแล้วที่เราจะคืนความสงบสุขให้กับบ้านเมือง"
"เพราะฉะนั้น นี่ก็คือสงครามครั้งสุดท้าย อย่าถอยแม้แต่ก้าวเดียว ตายเป็นตาย เพื่ออิสรภาพแห่งมินาลิน"
สิ้นเสียงจริงจังแข็งกร้าวของพชร ทุกคนต่างชูอาวุธในมือขึ้นอย่างฮึกเหิม พลันดารัณที่เมื่อครู่ถอยไปตั้งหลักก็เดินเข้ามาพร้อมทหารรายล้อม
"ทหารทุกคน จัดการกับไอ้พวกกบฏเดี๋ยวนี้ ราชิต ฆ่าไอ้วาสิน ฆ่าพวกมันให้หมด"
ราชิตก้าวออกมาตามคำสั่งของดารัณทันที สีหน้าดุดันไม่เกรงกลัวใดๆ
"เพื่อองค์เหนือหัวดารัณ ฆ่าพวกมันให้หมด" ราชิตตะโกนปลุกเร้า...วาสินก้าวออกไปเผชิญหน้าอย่างหาญกล้า
"ถ้าเจ้าต้องการฆ่าชาวเมืองมินาลินที่ต่อสู้เพื่อเรา ก็จงฆ่าเราเพียงคนเดียว เอาสิ พวกเจ้ายิงเราเลย เราวาสินผู้ครองแคว้นมินาลินที่ถูกพวกดารัณก่อการกบฏ"
ทหารทั้งหมดเพ่งมองวาสิน แล้วหันกลับมามองกันเองเลิ่กลั่กลังเล ราชิตรีบตะโกนสำทับ
"อย่าไปฟังมัน มันโกหก วาสินตายแล้ว ฆ่ามันสิ พวกเจ้าฆ่ามัน"
"เอาสิ ถ้าพวกเจ้าเป็นชาวมินาลินจริงก็จงยิงเลย ยิง
พวกเราให้ตาย แต่นี่คือกษัตริย์วาสิน ท่านพ่อของเราและเหนือหัว ของพวกท่านทุกคน ก่อนที่ไอ้ดารัณจะวางแผนฆ่า"
"ไม่จริง มันเป็นตัวปลอม พวกแกดูหน้ามันสิ ใช่วาสินที่ไหน แกเอาคนพิกลพิการมาหลอกพวกโง่งมให้หลงเชื่อ วาสินตายไปแล้ว"
"คนตายไปแล้วจะมีศิราพัชรอย่างนี้หรือ" วาสินชูศิราพัชรขึ้นเหนือศีรษะ ทหารทุกคนตะลึงมองแทบไม่เชื่อสายตา พชรฉวยโอกาสนี้ขอร้องทหารและพี่น้องชาวมินาลินทุกคนร่วมมือกันจัดการดารัณเพื่อชาติบ้านเมืองที่จะกลับมาสงบร่มเย็นดังเดิม
"หุบปากซะ...อย่าไปฟังมัน" ดารัณตะโกนลั่น แล้วเล็งปืนจะยิงวาสิน แต่ถูกฟารุตเตะปืนกระเด็น
ที่แท้ ฟารุตก็คือคนที่คอยส่งข่าวไปทางพชรนั่นเอง!
"พวกเราทุกคนจงรับรู้ว่าดารัณได้ลอบฆ่ากษัตริย์วาสินจริง แต่ท่านยังไม่ตาย ท่านยืนอยู่ตรงหน้าพวกเรา ขอให้ ทุกคนวางอาวุธและช่วยกันกำจัดพวกทรราชตัวจริงคือดารัณ กับราชิต"
ดารัณกับราชิตแค้นแทบคลั่ง ระดมยิงไม่ยั้ง แต่เพราะทหารที่เคยยืนอยู่ข้างดารัณกลับตัวกลับใจทำให้ทั้งคู่หมดตัวช่วย แถมยังถูกรุกไล่จนหมดทางสู้ ดารัณถูกพชรแทงด้วยกริชขาดใจตาย ขณะที่ราชิตเลือกที่จะตายด้วยน้ำมือตนเอง คว้ากริชมาปาดคอดับดิ้นสิ้นใจไปอีกคน!