สงครามความรัก สงครามความชัง สงครามครอบครัวที่เป็นยิ่งกว่า “สงครามสมรส” สงครามที่ยืดเยื้อไม่รู้จบรู้สิ้น แต่ในที่สุดก็ “มีวันสิ้นสุด”
“บท” คือสิ่งล้ำเลิศที่สุดในงานรังสรรค์สร้างชิ้นเยี่ยมนี้ เกลี่ย-กลบ-กลืน-ไกล่ ประสาน-ผลักไส-โยงใยให้ทุกอย่างได้ดำเนิน-เป็นไปและลงตัวตาม “กฎแห่งกรรม”
ผู้เขียนบทฯ 3 พลังหญิงกอดคอโอบกอดผู้กำกับฯคารวะนักแสดงทุกคนได้อย่าง “สติเบิก–ปัญญาบาน” งานสร้างที่ “เพริศ แพร้วแผ้วถาง” สังคมได้อย่างชาญเฉลียวเชี่ยวฉลาดและอาจหาญ
“ชาคริต” ปิดฉาก “ปรเมศวร์” หลังกรงเหล็กในคุกขังด้วยความเป็น “พ่อ” ผู้สำนึกผิดและยอมรับจำนนในวิบากกรรมได้งดงามร้าวใจที่สุด เป็น “เหนือนักแสดง” ที่ควรค่าคารวะยิ่ง
“ทักษอร” งามเฉียบเรียบนิ่งดิ่งขมกับ “คมชีวิต” ที่บาดลึก “บัวบงกช” เริ่มต้นชีวิตใหม่ในความเป็น “เมีย” (มือสอง) และ “แม่” (ลูกสอง) ได้เฉียบฉกาจสะอาดงาม
...
“พาขวัญ สหวงษ์” ละเลงเลือดเนื้อ เชื้อไขนักแสดงจาก “พ่อปอ ทฤษฎี” เต็มล้นท้นกล้าปัญญาเปี่ยม พร้อมเติบโตเป็นนักแสดงแท้จริงได้สมบูรณ์แบบ
ขณะที่ “เจ้าคุณแห่งสยาม–พันธ์ชนกชนม์ พันธ์สังข์” ได้กวาดทุกรางวัลจากทุกสถาบันล่วงหน้าไปหมดแล้วจากฉากสุดท้ายกลางศาล หาคำบรรยายใดๆไม่ได้เลย
ขอแสดงความชื่นชมนิยมยกย่องให้ “สงครามสมรส” เป็นละครดราม่าน้ำแร่สร้าง สรรค์ยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ ยากจะมีละครเรื่องใดทำได้เทียบเทียม (และอย่าได้คิดทำ)
ปิดท้ายที่ “ตรี ภรภัทร” ที่กอบโกยความรักความปลาบปลื้มชื่นชมไปเต็มๆในบท “ทนายภาวินท์” ผู้โอบอุ่นอ่อนโยนและสร้าง “หลักมั่นใหม่” ให้ชีวิตบัวบงกชและปณตได้อย่างงดงาม
ขอกราบกอดคารวะทุกดวงชีวิต “ดวงปัญญารังสรรค์สร้าง” แห่ง “สงครามสมรส” 2567–2024 ครับ.
“ดร.ศาสตร์ธนิก จุลมณี”
‘‘แจ๋วริมจอ’’
jaewrimjor@gmail.com