เป็นอีกหนึ่งสีสันความสนุกในละคร “พรหมลิขิต” นักแสดงหนุ่ม “รอน-ภัทรภณ โตอุ่น” ดีใจที่ได้ร่วมแสดงในบท “เพิ่ม” หลายคนเลยอยากสนใจอัปเดตชีวิตหนุ่มรอนตอนนี้ ซึ่งเป็นเพื่อนซี้ปึ้กสาว กรีน-อัษฎาพร ชอบชวนไปไหนด้วยกัน จนมาจุดแซวกันเองว่าถ้าอายุ 40 ปีแล้ว ยังไม่มีใครมาแต่งงานกันมั้ย
เจอ รอน เลยต้องถามความซี้ ก่อนหน้านี้ทำเซอร์ไพรส์วันเกิดกรีน ผูกพันกันมานานขนาดไหน?
“ตั้งแต่ผมประกวดเอเอฟ 5”
ก่อนหน้ากรีนบอกว่าแรกๆ ไม่ชอบขี้หน้าเรามาก่อน?
“ใช่ๆ ตอนออดิชัน ด้วยความที่ผมอยู่โรงเรียนสหแต่เค้าอยู่โรงเรียนหญิงล้วนแต่ด้วยความที่ผมเชียร์เค้าตั้งแต่ยังไม่ประกาศผลเข้ารอบ ผมเชื่อว่าเข้าแน่นอน ผมชอบคนคาแรกเตอร์แบบนี้ มีความโก๊ะๆหน่อย อยากเป็นเพื่อนกับเค้าแต่ไม่รู้เค้าไม่ชอบผม จนเข้าบ้านเอเอฟและออกมาจนสนิทกัน ถึงมาเล่าให้ฟังว่าไม่ชอบเลยอะไรไม่รู้ ชอบมาอยู่ใกล้ มาพลังล้นใส่ ผมกับเค้าสายนักแสดงเดียวกัน ผมส่วนใหญ่ทำงานกับช่อง 3 แต่กรีนจะทำงานกับช่อง 7 เลยไม่ได้โคจรมาเจอกันเท่าไหร่ จนมาปัจจุบันทุกคนเป็นนักแสดงอิสระ ช่องต่างๆมีทางเลือกให้เราไปโน่นมานี่มากขึ้นเลยให้คนดูแลคนเดียวกันและช่วยกันทำงาน การตีความเรื่องบท การทำงาน การเตรียมตัว เรามีเป้าหมายเดียวกันอยากเป็นนักแสดงที่มีความสามารถ ซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน จะรู้แล้วว่าเพื่อนเซนซิทีฟเรื่องนี้เราก็จะให้กำลังใจกัน”
...
เรื่องของกรีน รอนจะรู้คนแรกๆ?
“ไม่แน่ใจ แต่ผมจะเป็นคนไม่ถามไม่จี้ แต่ถ้าวันนึงอยากเล่าก็เปิดมา มีประเด็นหนักๆ จริงๆ เราแค่อยากให้รู้สึกว่าถ้าอยากพูดทักมาเพราะเราอยู่ตรงนี้ ยินดีรับฟัง”
ก่อนหน้ามีประเด็นกรีนบอกอายุ 40 ถ้าไม่มีแฟนจะชวนเราแต่งงานกัน เค้าพูดกับเรานานแล้วหรือยัง?
“(หัวเราะ) เค้าเป็นแบบนี้แหละ ชอบแซวกันขำๆ พูดเล่นกัน คนเราปณิธานในชีวิตแตกต่างกัน อย่างของผม ครอบครัว สุขภาพ งาน เงินทอง เป็นท็อปทรี ส่วนท็อปไฟว์ของผมอาจจะไม่เหมือนคนอื่น ผมอยู่ได้ ถ้าวันนึงเราไม่ต้องยึดรีเลชันชิปที่เป็นเรื่องของคู่ ผมมีคำตอบให้กับตัวเองแล้วว่าผมโอเค ผมแชร์ให้เค้าฟัง แต่เค้าบางทีจะมีคนเข้ามาในชีวิตเค้า ผมเคารพซึ่งกันและกัน จนวันนึงมาคุยกัน เพื่อนวันนึงถ้าเราไม่มี แล้วเพื่อนไม่มีใคร เรามาคบกันได้ ผมก็พูดว่าขนลุกนะ ก็แซวกลับ คือมันอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่อายุ 18 เห็นกันมาเริ่มต้นเราเห็นกัน มันอยู่มานานถึง 15 ปี พอกรีนพูดผมก็บอกขนลุกเพื่อนไม่ต้องพูดนะ (หัวเราะ) ไม่เอาๆ”
ได้ย้อนถามมั้ยว่าอารมณ์ไหนถึงชวนแต่งงาน?
“เค้าจะมีความแฟนตาซีกับผม เพื่อนได้นะเราฝากไข่แล้ว แล้วผมก็จะเบรก เดี๋ยวก่อนใจเย็นๆก่อนเพื่อน เราไม่รู้เกิดอะไรขึ้นแต่ ณ ตอนนี้ ผมโตมาผมเป็นหัวหน้าครอบครัว ผมดูแลพ่อ แม่ ดูน้อง วันที่ผมทำงานเสร็จ ผมมีความสุขกับเรื่องอื่นๆ ผมสอนโยคะ ผมไปเที่ยวเดินป่าคนเดียว ทุกวันผมมีความสุขดีอยู่แล้ว”
โสดนานมาก?
“ใช่ครับ คนจะชอบถามว่าไม่มีแฟนเลยเหรอ มีเข้ามาแต่กลายเป็นเข้ามาทั้งชายและหญิง พอเราไม่ได้เปิดตัวคบใครก็จะมีคนหลากหลายประเด็นว่าเราชอบผู้ชายหรือเปล่า หรือเรามาตรฐานสูง ซึ่งตรงนี้เข้าใจกับสิ่งที่คนมองเข้ามาแล้วมาตั้งคำถาม แต่เราบางทีเรามีความคิดชัดเจนเรารู้เราต้องการอะไร เลยไม่รู้สึกเป็นปัญหา”
จากที่บางคนชอบคิดว่าเราชอบผู้ชายหรือเปล่า ทำให้เรารู้สึกว่ามาจำกัดมาตีกรอบชีวิตเราไปมั้ย?
“แต่ก่อนรู้สึกเยอะ คนทุกคนมีบุคลิกเป็นของตนเอง เรื่องความชอบ บุคลิกต่างๆมันซับซ้อนมาก คนชอบตัดสินคนอื่นด้วยวิธีคิดของตัวเอง บางทีก็แอบคิดคนเราชอบรู้เรื่องคนอื่นมากกว่าตัวเราเองอีก บางทีรู้สึกสังคมตัดสินเราไปแล้ว”
อึดอัดกับสายตาที่เค้ามองเราแบบสงสัยมั้ย?
“ผมงงมากกว่า บางคนเค้ามั่นใจมาก เค้ารู้ดีเรื่องของเรา เค้าฟันธงให้เราหมดเลย โอเคๆแล้วแต่เค้า”
ถามถึงการมารับบทพ่อเพิ่มในละคร “พรหมลิขิต” กำลังเป็นที่พูดถึง?
“ผมรับบทพ่อเพิ่ม ปกติเป็นบ่าวของยายกุย แต่มีเหตุการณ์ทำให้ต้องไปดูแลเรือนพุดตาน ผมคอยอยู่ซัพพอร์ตแม่พุดตาน (เบลล่า-ราณี) มีน้องจ๊ะจ๋ารับบทอึ่ง จะเป็นบ่าวชาย บ่าวหญิง หลานสาวป้าแดง ศัลยา”
พอเป็นละครที่คนตั้งตารอ กดดันมั้ย?
“ผมเริ่มที่บทเลย เราตั้งโกลเอาไว้อยากให้ตัวละครมีชีวิต อยากให้คนดูเห็นว่าตัวละครตัวนี้มีแง่มุม มีเสน่ห์น่าติดตาม ผมไม่ค่อยกดดันแต่ทุกครั้งที่เปิดละครทุกๆเรื่องจะมีความตื่นเต้น เราจะได้ทำความรู้จักกับตัวละครตัวใหม่ ให้ตัวละครออกไปโลดแล่น ทำไมเราเล่นได้หมด ไม่ว่าเป็นคนดี คนไม่ดี คนขี้อาย คนน่ากลัว คนโรคจิต ไม่ว่าเราถูกไปวางเป็นตัวละครตัวไหน เราสามารถทำให้ทุกคนรู้สึกเล่นได้ เราก็อยากทำให้มันดีที่สุดแต่ก็มีตื่นเต้นเพราะไม่เคยทำงานกับเบลล่า พี่โป๊ปมาก่อน แล้วตัวละครที่ผมเล่นก็จะอยู่ในเรือนแม่พุดตาน อยู่ 3 คน พอถ่ายละครจบกลายเป็นเราก็ได้เพื่อน เบลล่าน่ารัก”
ตอนแรกเจอเบลล่า นางเอกเบอร์หนึ่งแบบนี้เป็นไง?
“เกร็งครับว่าเค้าจะคุยกับเรามั้ย ส่วนพี่โป๊ป ไม่ค่อยคุยหรือเปล่า แต่พอร่วมงานจริงๆ เค้ามีมุมโบ๊ะบ๊ะด้วยกันทั้งคู่ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ตอนทำงานมีความสุข ได้เพื่อน ได้พี่ ได้น้อง ก่อนหน้านี้เบลล่าเพิ่งชวนไปทำบุญ เรื่องนี้พอเราไม่ได้คุยการทำงาน ต่อด้วยทำบุญ เริ่มคุยกัน ห้องพระ อยากไปไหว้พระ เริ่มต้นทีแรกเกร็งมาก มีคืนคิว 1 วัน แล้วเบลชวนไปทำบุญกันมั้ย วัดสุทัศน์ เบลเอารถมารับก็ไปทำบุญกัน เห็นว่าจริงๆเค้าเป็นคนน่ารัก มีน้ำใจ จิตใจดีครับ”.
เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่