icon member

ดวงใจอัคนี

ตอนที่ 12

หลังจากทำความเข้าใจกันเรียบร้อยดีแล้ว อัคนีขับรถมาส่งอัจจิมาที่บ้าน แต่พออัคนีเลี้ยวรถกลับออกไป ศิลาที่ซุ่มอยู่ในความมืดก็โผล่พรวดออกมารวบตัวอัจจิมาและสั่งห้ามส่งเสียงดัง เพราะกลัวพ่อจะตื่นมาได้ยิน

ถึงจะรู้ความจริงหมดแล้วว่าพี่ชายทำผิดอะไรไว้บ้าง แต่อัจจิมาก็ยังแกล้งถามเพราะอยากได้ยินเขาสารภาพ   แต่ เปล่าเลย  ศิลายังปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้ทำอะไร จู่ๆมีตำรวจมาจับถึงบ้าน ตนก็ต้องหนีไปตั้งหลักก่อน

"พี่ศิลา...จี๊ดรู้ความจริงหมดแล้วนะ" อัจจิมาหมดความอดทน "ทางนั้นเขามีหลักฐานมัดตัวพี่แน่นออกอย่างนั้น พี่จะปฏิเสธได้ยังไง นายเข้มไม่ได้ตายอย่างที่พี่คิดนะ ตอนนี้เขาหายดีแล้ว"

ศิลาผงะด้วยความตกใจ "บรรลัยแล้วกู...จี๊ด แกต้องช่วยฉันนะ แกมีเงินเท่าไหร่ เอามาให้ฉันยืมก่อน"

"เงินสดในบัญชีจี๊ดมีไม่ถึงแสน พี่ศิลาจะเอาไปทำไม"

"หนี!!"

"ไม่ได้นะ พี่ทำผิดก็ต้องยอมรับผิดสิ เงินแค่นี้พี่จะหนีไปได้สักกี่วัน ที่สำคัญจี๊ดไม่ช่วยคนผิดให้ทำผิดซ้ำสองหรอก"

"แกอยากให้ฉันตายงั้นเหรอ"

"ติดคุกไม่ถึงกับตายนะพี่ศิลา"

"แต่มันก็เหมือนกับตายทั้งเป็นไม่ใช่เหรอ ฉันไม่คิดจะหนีไปไหนหรอก เพียงแต่อยากจะหลบไปตั้งหลักทำใจสักพัก แล้วก็จะมามอบตัว"

"พี่คิดอย่างนี้จริงๆเหรอ"

"แกก็รู้ว่าชีวิตฉันมีอิสรเสรีขนาดไหน จู่ๆต้องมาติดคุกยังงี้แกจะไม่ให้ฉันมีเวลาทำใจบ้างเหรอ นะจี๊ด พรุ่งนี้แกช่วยเบิกเงินแล้วเอาไปให้ฉันที่ที่ดินปลูกป่านะ"

"พี่ต้องสัญญานะว่าจะกลับมามอบตัว"

"ฉันสาบาน แต่พรุ่งนี้แกต้องเอาเงินไปให้ฉันนะ ถ้าแกไม่ไปฉันต้องตายแน่ๆ แล้วอย่าบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ล่ะ แม้แต่กับพ่อ ฉันไม่อยากให้พ่อเสียใจ ฉันไปก่อนนะ"

อัจจิมาพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ แล้วหันกลับเข้าบ้านไปดูพ่อในห้องนอน ปรากฏว่าพ่อยังไม่หลับอย่างที่คิด

"พ่อหลับไม่ลงหรอก เป็นห่วงเจ้าศิลา นี่มันยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ"

อัจจิมาจำต้องส่ายหน้าเพราะไม่อยากให้พ่อไม่สบายใจ

"มันคงกลัวตำรวจมาล้อมจับเลยไม่กล้ากลับมา เพราะไอ้พวกอดิศวรมันจงเกลียดจงชังพ่อ เล่นงานพ่อไม่ได้ มันก็มาลงที่ลูก"

"พ่อไม่คิดบ้างเหรอว่าพวกเขาอาจจะพูดความจริง...บางส่วน"

"เป็นไปไม่ได้ ศิลามันอาจจะเกเรแต่ไม่มีวันทำอะไรชั่วๆอย่างนั้นเด็ดขาด หรือแกคิดว่าพี่แกกล้าเผาบ้านคนอื่น กล้าฆ่าคน"

"จี๊ดเพียงแต่คิดว่า ถ้าพี่ศิลาไม่ได้ทำผิดทำไมต้องหนี ตำรวจก็แค่เชิญไปสอบปากคำ"

"ใครจะไปรู้ล่ะ ตำรวจอาจเป็นพวกมันก็ได้ มันออกจะกว้างขวางแถมยังรวยล้นฟ้า ใครๆก็ต้องซูฮกมัน ใครจะยอมเป็นทาสมันก็ยอมไป แต่พ่อไม่มีวันยอม"

พิศาลพูดไปใส่อารมณ์ไปจนเส้นเลือดปูด ลูกตาโปน อัจจิมาเลยใบ้รับประทาน ความจริงที่ตั้งใจจะอธิบายให้พ่อฟัง กลืนหายลงไปในลำคอ...

สายวันรุ่งขึ้น อัจจิมาต้องไปเบิกเงินที่ธนาคารเพื่อนำไปให้ศิลา...ขณะเธอกลับออกจากธนาคารเจอพฤกษ์กับมิลค์ โดยบังเอิญ แต่เธอทักทายพวกเขานิดหน่อยเพราะต้องรีบไปธุระต่อ ส่วนพฤกษ์กับมิลค์แยกไปที่ร้านเฮียป๋องแล้วไปเจออัคนีเข้า พออัคนีรู้ว่าอัจจิมาอยู่แถวนี้ก็เลยจะตามไปหา แต่ต้องชะงักเมื่อพฤกษ์บอกว่าคุณจี๊ดไปแล้ว เห็นเธอบอกจะรีบไปทำธุระสำคัญ...

อัจจิมาไปถึงกระท่อมท้ายที่โดยไม่รู้เลยว่ากำลังถูกพี่ชายตัวเองหลอกมาเพื่อล้างหนี้ จนเมื่อไกรภพปรากฏตัวพร้อมลูกน้องสองคนโดยไร้เงาของศิลา แล้วไกรภพจะปลุกปล้ำเธอ เธอถึงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แล้วที่สำคัญตอนนี้ศิลาก็ไม่ปลอดภัยด้วย เพราะไกรภพคิดจะหักหลังฆ่าปิดปากเขา

เท่านั้นไม่พอ ไกรภพยังเอาโทรศัพท์ของอัจจิมาโทร.ไปตามอัคนีมาดูลีลารักของเขากับอัจจิมา อัคนีโกรธแค้นแทบคลั่งรีบบึ่งรถมาทันเวลา แล้วจัดการกับไกรภพและลูกน้องจนสลบเหมือด แต่ตัวเองก็บาดเจ็บไม่น้อยเหมือนกัน

จากนั้นอัจจิมาก็ขอร้องอัคนีไปช่วยศิลาที่กำลังตกอยู่ในอันตราย ซึ่งศิลาก็อยู่ไม่ไกลจากกระท่อมนี้ กำลังถูกเฮียหมูกับสมุนจะเอาชีวิตชดใช้หนี้สินจำนวนสองล้าน แต่เมื่ออัจจิมาจะรับผิดชอบใช้ให้เอง แต่ขอเวลาหนึ่งสัปดาห์ เฮียหมูพอใจจึงพาสมุนกลับไปทันที

อัจจิมาตรงเข้ามาประคองศิลาที่ถูกซ้อมสะบักสะบอมแล้วจะพาเขาไปโรงพยาบาล

"ไม่...ฉันไม่อยากไป ฉันอยากเจอพ่อ พาฉันไปหาพ่อที ก่อนที่ตำรวจจะมาจับฉัน"

จากนั้นไม่นานทั้งสามคนพากันเข้าไปที่บ้านพิศาล พอพิศาลรู้ว่าศิลาทำเลวระยำอะไรไว้บ้าง โดยเฉพาะกับน้องสาวแท้ๆ พิศาลโกรธจนฟิวส์ขาด ตบหน้าศิลาเต็มแรงก่อนจะด่าซ้ำอย่างเจ็บปวดอย่างที่สุด

"เลวบัดซบ! แกทำอย่างนี้กับน้องแกได้ยังไง"

พิศาลหันไปคว้าปืนขึ้นมาจ่อไปที่ศิลาด้วยอารมณ์เดือดพล่าน อัจจิมาถลาเข้ามากันพ่ออย่างอกสั่นขวัญแขวน

"ใจเย็นๆนะคะพ่อ"

"หลีกไปจี๊ด ฉันจะฆ่ามัน มันเลวยิ่งกว่าหมา มันไม่น่าเกิดมาเป็นผู้ชาย ไม่น่าเกิดมาเป็นลูกฉัน มึงอย่าอยู่เลย"

"อย่าครับคุณลุง" อัคนีอดไม่ได้ต้องวิ่งเข้ามาห้าม

"ปล่อยพ่อเถอะจี๊ด พี่มันเลวจริงๆอย่างที่พ่อว่า" ศิลาปลดปลงอย่างหมดสิ้นหนทาง

"มึงรู้ตัวเหมือนกันเหรอ ไอ้ลูกชั่ว!" พิศาลเอาด้ามปืนฟาดใส่ศิลาจนชายหนุ่มล้มคว่ำไปกับพื้น อัจจิมาเข้ามาพยุงพี่ชาย แต่ศิลาดันน้องสาวออกไป พร้อมกับคลานเข้ามาคุกเข่าต่อหน้าพ่อ

"ฆ่าผมเถอะครับพ่อ ผมอยากตาย คนที่ผมทำเลวระยำกับเขาไว้ เขากลับมาช่วยชีวิตผม ผมไม่รู้จะอยู่มองหน้าเขาได้ยังไง ผมละอายใจ"

พิศาลกัดฟันกรอด น้ำตาคลอด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง

"แกจะไปเกกมะเหรกเกเรที่ไหน ทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้กับใคร ฉันไม่เคยสน เรื่องที่แกเปิดบ่อน ฉันก็ยังพอทำใจได้ แต่เรื่องที่แกไปเผาบ้านคนอื่น ไปทำร้ายคนหรือเที่ยวไปรังแกผู้หญิงรังแกคนเพศเดียวกับแม่แก แกทำยังงั้นได้ยังไงไอ้ศิลา โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้นได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวแก แกยังมีหัวใจ ยังมีความเป็นคนอยู่รึเปล่า"

ศิลาน้ำตาไหล ความรู้สึกผิดในใจเป็นยิ่งกว่าดาบที่ทิ่มแทงใจตัวเอง ชายหนุ่มโผเข้าไปกอดขาพ่อ

"ผมขอโทษครับพ่อ...ผมขอโทษ"

"แกมีความจำเป็นอะไร ทำไมต้องขายน้อง"

"เพราะไอ้ไกรภพค่ะพ่อ มันล่อพี่ศิลาไปเข้าบ่อนแล้วร่วมมือกับพวกมาเฟียเจ้าของบ่อนโกงเงินพี่ศิลา ทำให้พี่ศิลาติดหนี้มัน"

"แกก็เลยขายน้องใช้หนี้ ไอ้ระยำเอ๊ย แกเป็นหนี้มันเท่าไหร่"

"สองล้านครับพ่อ"

พิศาลได้ฟังถึงกับช็อกหมดสติไปทันที ลูกทั้งสองคนต้องเร่งรีบพาส่งโรงพยาบาล โดยมีอัคนีติดตามไปด้วยความเป็นห่วง...

พิศาลนอนหายใจพะงาบๆบนเตียง มีเครื่องช่วยหายใจครอบจมูก เขามองศิลาด้วยความรู้สึกปวดร้าว เสียใจ และท้ายที่สุดก็อดสงสารในชะตากรรมของลูกในไส้ไม่ได้ ในขณะที่ศิลาก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน ยิ่งเห็นสายตาพ่อที่มองมา ชายหนุ่มยิ่งเจ็บร้าวลึกเข้าไปในทรวง

"ผมขอโทษ..."

บุรุษพยาบาลและพยาบาลเข็นเตียงพาพิศาลเข้าไปในห้องฉุกเฉิน โดยให้ญาติรอด้านนอก ศิลามองตามพ่อและร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร

"มันเป็นความผิดของพี่เอง พ่อต้องมาเจ็บหนักอย่างนี้ ก็เพราะพี่"

"พ่อคงดีใจที่พี่ศิลาคิดได้" อัจจิมาปลอบ

"พี่ต้องขอโทษแกด้วยนะจี๊ด พี่ทำเลวระยำกับแกแค่ไหน แกก็ไม่เคยปริปากบอกพ่อ แกเป็นน้องเป็นผู้หญิง แกยังเข้มแข็งกว่าพี่ พี่สิ...หน้าโง่ อ่อนแอ นอกจากจะไม่เคยปกป้องแกแล้วยังจะลากแกไปลงเหวลงนรกอีก ยกโทษให้พี่ด้วยนะ"

"จี๊ดไม่เคยโกรธพี่ศิลาเลย เราเป็นพี่น้องกัน มีกันอยู่สองคนแค่นี้ จี๊ดจะโกรธพี่ศิลาได้ยังไง"

ศิลาเข้ามากอดอัจจิมาแน่น หญิงสาวหลับตาอย่างอิ่มเอม เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้รับไออุ่นจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชาย แต่เมื่ออัจจิมาลืมตาขึ้น ก็ต้องผละออกมาจากศิลาอย่างตกใจ เมื่อเห็นตำรวจสามนายพาสิงห์และจันซึ่งโดนล็อกกุญแจมือเข้ามา

ศิลาหน้าซีดสลด บอกกับอัจจิมาว่า "พี่ฝากดูแลพ่อด้วยนะ แล้วแกก็ดูแลตัวเองดีๆ" จากนั้นมาทางตำรวจ บอกว่าเขาพร้อมแล้ว ตำรวจจึงใส่กุญแจมือ แต่ก่อนที่ศิลาจะก้าวผ่านอัคนีออกไป เขาได้เอ่ยปากกับอัคนีว่า

"ฉันต้องขอโทษนายสำหรับทุกเรื่องที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องพิมพ์นภา ฉันเสียใจจริงๆ"

อัคนีหน้าเครียดขึ้นมาทันที สองมือกำแน่นพยายามจะสงบสติอารมณ์...อัจจิมาได้ยินที่ศิลาพูดและสังเกตสีหน้าของอัคนี ก็อดแปลกใจสงสัยไม่ได้ว่าพิมพ์นภาคือใคร?

ooooooo

อัจจิมาเดินกลับมาทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรงที่เก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน อัคนีตามนั่งข้างๆ ปลุกปลอบเธอด้วยความเป็นห่วงจับใจ

"อย่าเสียใจเลยนะจี๊ด ถ้ามองในแง่ดี การที่ศิลาเข้าไปอยู่ในคุกยังไงก็ปลอดภัยกว่าหลบหนีอยู่ข้างนอก เพราะไหนจะตำรวจ แล้วยังจะพวกมาเฟียที่บ่อนอีกล่ะ"

"จี๊ดก็คิดอย่างนั้น แต่ก็อดสงสารไม่ได้ ตั้งแต่เกิดมาพี่ศิลาไม่เคยลำบาก จี๊ดนึกไม่ออกว่าเขาจะทนอยู่ในคุกได้ยังไง"

"เขาอาจจะลำบาก อึดอัด กดดัน และเจ็บปวด แต่ความรู้สึกพวกนั้นจะทำให้เขาเข็ด คิดได้ และไม่ทำอะไรที่ทำให้ต้องกลับเข้าไปในนั้นอีก"

"คิดแล้วก็เจ็บใจที่พี่ศิลามาคบคนชั่วๆอย่างไอ้ไกรภพ มันทำให้พี่ศิลาเสียคน เสียอนาคต แล้วพ่อก็ยังต้องเสียที่ดินให้มันไปฟรีๆอีก"

"จี๊ดจะไม่เสียที่ดินแม้แต่วาเดียว ไฟคุยกับดินแล้ว ดินบอกให้ส่งเรื่องฟ้องศาลเพื่อขอเพิกถอนการโอนที่ดินที่ไอ้ไกรภพมันทำไว้"

"ทำได้จริงๆเหรอไฟ"

"ได้สิ เรามีหลักฐานเป็นเอกสารปลอมที่มันเอามาปิด ไล่ที่ชาวบ้าน แล้วพวกชาวบ้านที่จี๊ดช่วยเหลือก็พร้อมจะมาเป็นพยานให้จี๊ด รวมทั้งเจ้าศักดิ์ด้วย ไฟจะจัดการทุกอย่างให้เอง แต่พ่อจี๊ดต้องยินยอม"

"ขอบคุณนะไฟ ขอบคุณที่ช่วยเหลือจี๊ดทุกอย่าง จี๊ดสบายใจขึ้นเยอะเลย จะเหลืออยู่ก็แค่เรื่องเดียว"

"เรื่องอะไร"

"พิมพ์นภาที่พี่ศิลาพูดถึงคือใครน่ะไฟ"

อัคนีสะอึก จะบอกอัจจิมาว่ายังไงดี แต่แล้วระฆังก็ช่วยชีวิตไว้ได้ทันเมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น

"เยินขนาดนี้ ไปทำแผลสักนิดนะคะ"

ทั้งคู่หันไปมองที่มาของเสียง แล้วก็ต้องตาลุกวาว ทั้ง แปลกใจและดีใจสุดๆที่เห็นทิพย์ธาราหรือหมอน้ำน้องสาวฝาแฝดของอัคนีที่อภิเษกกับเจ้าชายแห่งปารวัตรไปแล้ว

อัคนีลุกพรวดไปกอดน้องสาว...แล้วสองพี่น้องก็พากันไปยังห้องทำแผล ทิพย์ธาราทำแผลให้อัคนีพร้อมกับตอบคำถามของเขาไปด้วยว่า

"น้ำมาถึงนี่เมื่อบ่ายนี้เองแล้วก็มาคนเดียวจ้ะ เจ้าชายทรง ติดภารกิจเป็นองค์ประธานในการประชุมกับองค์กรต่างประเทศหลายงานเลยเสด็จมาด้วยไม่ได้ น้ำเป็นห่วงไฟก็เลยรีบบินมาก่อน"

"เป็นห่วงไฟเรื่องอะไร"

"ก็เรื่องที่ไฟไปมีเรื่องกับพวกพศวัต  แล้วก็ได้แผลเสียเลือดเสียเนื้อไม่เว้นแต่ละวันน่ะสิ  ดินกับลมเมลหาน้ำ

ทุกวัน น้ำกลัวจะไม่ได้เห็นหน้าไฟก็เลยรีบกลับมา"

"ดีเลย จะได้อยู่ร่วมงานแต่ง"

"ไม่งานแต่ง ก็งานตาย"

"เฮ้ย ไหงแช่งกันอย่างนี้ล่ะ โธ่เอ๊ย คนอย่างนายอัคนีทนอย่างกะควาย ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่เป็นอะไรง่ายๆอยู่แล้ว" พูดไม่ทันขาดคำก็ต้องร้องโอ๊ยโอดโอยขึ้นมาเพราะโดนทิงเจอร์ เช็ดแผลเข้าให้เต็มๆ

"ทนหน่อยน่า หายแล้วจะได้มีแรงไปสู้กับว่าที่พ่อตา กับคุณจี๊ดคงไม่มีอะไรแล้วมั้ง ดูใจอ่อนลงเยอะเลยนี่"

"ลูกอ่อน แต่พ่อยังแข็งปั๋ง"

"อยากรู้เหมือนกัน พ่อตาแรงกับลูกเขยร้อน ใครจะแน่กว่ากัน"

อัคนียิ้มบางๆอย่างยอมรับ ส่วนอีกห้องใกล้ๆกัน อัจจิมา อยู่กับพิศาลที่ย้ายออกจากห้องฉุกเฉินแล้ว  พิศาลพอรู้ว่าศิลาถูกตำรวจจับไปแล้วก็เศร้าสลด   รำพันออกมาว่าพ่อผิดเอง

อัจจิมารีบบอกไม่ใช่ ที่เรื่องมันเลวร้ายอย่างนี้ก็เพราะไกรภพต่างหาก

"คนอื่นมันแค่ปลายเหตุ แต่ต้นเหตุคือพ่อ พ่อสอนลูกไม่ดีเอง พ่อยัดเยียดแต่ความเคียดแค้นชิงชังใส่หัวลูกๆ ดีใจกับชัยชนะที่ลูกได้มาบนความย่อยยับของศัตรู โดยไม่เคยมองว่าอีกฝ่ายจะฉิบหายยังไง ไม่เคยแยกแยะให้ลูกรู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก ที่ศิลามันมีจุดจบในคุกแบบนี้ก็เพราะพ่อ พ่อผิดเอง"

"อย่าโทษตัวเองอย่างนี้สิคะ พ่ออย่าคิดมากเลยนะ เดี๋ยวอาการจะยิ่งทรุดลงไปอีก ยังไงพศวัตก็ต้องผ่านช่วงเวลาเลวร้ายไปให้ได้ เราต้องฝ่ามันไปได้ค่ะพ่อ"

"พ่อดีใจที่ได้เป็นพ่อของผู้หญิงที่เข้มแข็ง อดทนอย่างลูก พ่อเสียใจที่ไม่ได้ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกอย่างเด็กผู้หญิงทั่วไป พ่อปล่อยปละละเลยให้ลูกทำงานหนักในฟาร์ม จนนางฟ้าน้อยๆของพ่อต้องกร้านแดดกร้านลม พ่อเป็นได้ ก็แค่พ่อ แต่ไม่รู้เลยว่าการเป็นพ่อที่ดีนั้นเขาเป็นกันยังไง"

"แต่จี๊ดเป็นจี๊ดได้จนทุกวันนี้ก็เพราะวิธีเลี้ยงของพ่อนะคะ ถ้าพ่อไม่ปล่อยให้จี๊ดคิดตัดสินใจ หรือทำงานหนักตั้งแต่ต้น จี๊ดจะดูแลฟาร์มอย่างทุกวันนี้ได้ยังไง"

"พ่ออาจจะไม่เคยบอกลูก แต่พ่ออยากให้ลูกรู้ว่าพ่อภูมิใจในตัวลูกเสมอ ตอนนี้ลูกคงต้องลำบากมากขึ้น เพราะเจ้าศิลามันก็ไม่อยู่ แล้วพ่อก็ยังมานอนป่วยอย่างนี้ ไหนยังจะต้องเสียใจที่ที่ดินของเราตกเป็นของคนอื่นเพราะพ่ออีก"

"เรื่องงานที่ฟาร์ม พ่อไม่ต้องห่วงนะคะ จี๊ดดูแลได้ ส่วนเรื่องที่ดิน จี๊ดจะไม่มีวันยอมให้คนเลวๆพรรค์นั้นมาโกงที่ไปจากเราเด็ดขาด"

"ลูกจะทำยังไง"

"เรามีหลักฐานพอที่จะยื่นเรื่องฟ้องศาลค่ะ แต่พ่อต้องยินยอมให้ไฟเขาไปจัดการ"

"ไม่! พ่อไม่มีวันยอมลดตัวไปขอความช่วยเหลือจากพวกอดิศวร"

อัจจิมานั่งนิ่งพูดไม่ออก พิศาลแอบเหล่ลูกสาวแล้วเปรยขึ้นโดยไม่มองหน้า แต่น้ำเสียงอ่อนลง

"พ่อจะยกสมบัติทุกอย่างให้แก ถึงเวลานั้นแกจะไปขอความช่วยเหลือจากใครหน้าไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับพ่อ"

อัจจิมายิ้มออกมาได้ แล้วจะโผเข้าไปกอดพิศาล แต่พิศาลพลิกตัวหันหน้าหนีอย่างงอนจัด...ส่วนที่บ้านอดิศวร ยามนี้ทุกคนกำลังมีความสุขกันถ้วนหน้าเมื่อมีทิพย์ธาราร่วมโต๊ะกินข้าว และทิพย์ธาราก็จะยังอยู่ที่นี่อีกสักพักก่อนกลับไปปารวัตร

ทิพย์ธาราแวะมาตรวจดูอาการพิศาลทุกวัน จนเข้าวันที่ สามเธอจึงแจ้งแก่อัจจิมาว่า อาการของพิศาลเป็นปกติดีแล้ว บ่ายนี้กลับบ้านได้ อัจจิมาขอบคุณทิพย์ธาราก่อนจะปรึกษาเรื่องรอบเดือนของตนที่ไม่มาสองเดือนแล้ว

"อาจเป็นเพราะคุณจี๊ดมีเรื่องที่ทำให้เครียดหรือวิตกกังวลมากๆในช่วงที่ผ่านมา หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะร่างกายอ่อนแอ ทำงานหนักมากเกินไป แล้วก็พักผ่อนน้อยจนฮอร์โมนทำงานผิดปกติน่ะค่ะ"

"ถ้างั้นมียาหรือวิตามินอะไรที่จี๊ดจะกินบำรุงร่างกายได้ไหมคะ"

"มีค่ะ แต่อย่าเพิ่งดีกว่านะคะ เพราะว่ามันมีสาเหตุสำคัญอีกอย่างที่ทำให้รอบเดือนไม่มาตามปกติ ซึ่งถ้าเป็นสาเหตุนี้เราต้องระมัดระวังเรื่องการกินยามากๆ"

"มีอะไรอีกคะ"

"การตั้งครรภ์ค่ะ"

อัจจิมาใจหายวาบ เรื่องวุ่นวายที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตทำให้หญิงสาวไม่นึกเฉลียวใจคิดถึงเรื่องนี้เลย...จากนั้นไม่นาน เธอก็มุ่งหน้าไปร้านขายยาเพื่อซื้อแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ จู่ๆอัคนีเดินเข้ามาประกบเพราะทราบข่าวนี้จากทิพย์ธาราแล้ว อัจจิมาอายจึงกำชับอัคนีอย่าเสียงดังไป เธอแค่สงสัยเท่านั้น

"จี๊ดแค่สงสัย แต่ไฟอยากรู้มากถึงมากที่สุด แบบว่า... แหม อะไรจะขนาดนั้น เปิดปุ๊บติดปั๊บ แสดงว่าของเขาดีจริงๆ"

"นี่ ถ้าจะเข้าไปด้วยกันต้องห้ามทะลึ่งตึงตัง ห้ามโวยวายเสียงดัง แล้วก็ต้องระวังตัวให้มากที่สุด อย่าให้ใครที่รู้จักเราได้ยินหรือรู้เรื่องนี้เป็นอันขาด สัญญาก่อน"

อัคนียกมือขึ้นมาทำท่าปฏิญาณตนแข็งขัน แต่พอเดินเข้าไปสั่งซื้อสิ่งที่ต้องการ  ทั้งคู่ถึงกับหน้าถอดสีเมื่อเจอพี่หนูต่อยืนหูผึ่งตาพองก๋า ทำท่าเหมือนจะกรี๊ดออกมาเสียให้ได้...


ด้วยกลัวจะอับอายขายหน้าประชาชี อัคนีกับอัจจิมารีบลากพี่หนูต่อออกมาเจรจากันในที่ลับตาคน นี่เองทำให้ทั้งคู่ ได้รู้ความจริงว่าเหตุการณ์คืนนั้นที่กระบี่เป็นการเข้าใจผิดของเขาและเธอ โดยมีพี่หนูต่อเป็นตัวต้นเหตุอย่างไม่ตั้งใจ

"ผมก็นึกว่าผมขาดสติแล้วปล้ำจี๊ดจนเป็นอย่างนี้ซะอีก"

"เห็นก๋ากั่นทั้งคู่ แต่ไหงสอบตกเรื่องเอ็กซ์วายแซดอย่างนี้ล่ะ แหม...ถ้าใครจูจุ๊กกับผู้หญิงจนเลือดสาดขนาดนี้ล่ะก็ คงต้องส่งไอซียูแล้วล่ะค่ะ แต่ว่า...นอกจากคืนนั้นแล้วยังมีจู้ฮุกกรู้กันอีกไหมคะ"

"มีแต่จู้ฮุกกันเฉยๆ แต่ไม่เคยได้กรู้กันสักครั้งครับ"

"อู๊ย...ถ้างั้นจะไปท้องได้ไงคะ ในเมื่อพี่หนูต่อให้น้องไฟกับน้องหนูจี๊ดกินยานอนหลับกันทั้งคู่ แถมพี่หนูต่อยังนอนสลบสอดแทรกคาราเมลคั่นกลางอีกต่างหาก ถ้าเป็นคืนนั้นคืนเดียว รับรองค่ะว่าน้องไฟกับน้องหนูจี๊ดยังจิ้นกันทั้งคู่แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ แถบเทสต์การตั้งครรภ์เนี่ยทิ้งไปได้เลย การันตีค่า"

"จริงๆเหรอคะพี่หนูต่อ โธ่เอ๊ย จี๊ดก็กลุ้มใจอยู่ตั้งนาน สองนาน"

"ดีใจที่ไม่ได้ท้อง แต่แอบเสียใจที่ไม่มีอะไรกันจริงๆใช่มั้ยล่ะ"

คำพูดพี่หนูต่อทำให้อัคนีหันมามองหน้าอัจจิมาแล้วยิ้มอย่างสงสัยใคร่รู้ เหมือนกัน ครั้นแยกจากพี่หนูต่อมาแล้ว อัคนีนำคำพูดประโยคนั้นมาถามอัจจิมา แต่อัจจิมาแค่ยิ้มไม่ยอมตอบ อัคนีพูดจากใจจริงว่า

"แต่ไฟดีใจนะที่อย่างน้อยไฟก็ไม่ได้บังคับทำอะไรจี๊ดอย่างคนที่ขาดสติ ไฟอยากอยู่กับจี๊ดอย่างมีสติ มีความรู้สึก มีความรักให้กันตลอดเวลา"

"รู้แล้วน่า เคยพูดแล้วนี่ ไม่ต้องมาหวีตหวานกลางถนนหรอก อายคนอื่นเขาบ้าง"

"อายทำไม รักก็ต้องบอกรักสิ" ว่าแล้วอัคนีก็ตะโกนบอกรักอัจจิมาจนผู้คนที่เดินผ่านไปมาหยุดมองมาเป็นตา เดียว อัจจิมาถึงอายม้วนแทบจะวิ่งหนีไปจากตรงนั้น

ตกตอนบ่าย ทั้งคู่มารอรับพิศาลออกจากโรงพยาบาล แต่พอพิศาลลงมาเห็นอัคนีก็ปฏิเสธเสียงแข็ง และไม่ยอมนับญาติกับพวกอดิศวร ทิพย์ธาราอยู่ในเหตุการณ์ด้วยรู้สึกสงสารอัคนีมาก อัจจิมาเองก็เช่นกัน เธอพยายามไกล่เกลี่ยเกลี้ยกล่อมพ่อแต่ก็ไร้ผล อัคนีจึงต้องผละไปทั้งที่ไม่เต็มใจ...แต่เพียงอัคนีก้าวขึ้นรถ คนร้ายสองคนบนรถมอเตอร์ไซค์ที่รอจังหวะอยู่ก็สาดกระสุนใส่ พิศาล แต่อัจจิมาเอาตัวเองเข้าบังจนได้รับบาดเจ็บอาการน่าเป็นห่วง

อัคนีเป็นห่วงอัจจิมาแทบคลั่ง เขาอาละวาดจะทำร้ายมือปืนสองคนที่จับตัวได้ให้แหลกคามือ จนพิศาลต้องห้ามปราม ก่อนจะตามตำรวจมารวบตัวไป จากนั้นทั้งคู่ก็เข้ามาเฝ้ารอฟังผลการผ่าตัดอัจจิมา โดยมีทิพย์ธาราเป็นหนึ่งในทีมแพทย์ด้วย

มนตรี สุพรรษา และลูกชายอีกสองคน รวมทั้งพี่หนูต่อ ปีใหม่ ใหญ่ และพฤกษ์กับมิลค์ ทุกคนแห่กันมาเอาใจช่วยอัจจิมา...อัคนีน้ำตาคลอตาแดงก่ำ รำพันจะไม่ให้อภัยตัวเองถ้าอัจจิมาเป็นอะไรไป มนตรีสงสารลูกจับใจ แยกตัวเดินไปหาพิศาลที่กระวนกระวายเป็นห่วงอัจจิมาไม่น้อยไปกว่าอัคนี

พิศาลยังต้องนั่งรถเข็น แต่ไม่ยอมให้มนตรีแตะต้อง เขาพาตัวเองห่างออกไปจากกลุ่มคน เพื่อพูดคุยกันตามลำพัง

"นายมองไม่เห็นหรือว่าเด็กสองคนนั่นรักกันขนาดไหน" มนตรีเปิดฉากเสียงเรียบ แต่พิศาลตอกกลับอย่างมีอารมณ์ว่า

"ผู้หญิงในโลกมีตั้งกี่ร้อยกี่พันล้าน ทำไมพวกมึงไม่ไปรักไปชอบ ทำไมต้องมายุ่งกับพศวัต เที่ยวก่อนก็พ่อมันที่มาแย่งคนรักกูไป แล้วนี่ลูกชายมันยังจะมาพรากลูกสาวไปจากกูอีก"

"เขาเรียกว่า...ความรัก"

"ความรักที่พวกอดิศวรเป็นฝ่ายชนะ ในขณะที่พศวัตพ่ายยับน่ะสิ"

"ถ้านายคิดว่าความรักมันเป็นเรื่องของการแพ้ชนะกันล่ะก็ นายบอกมาสิ จะให้ฉันทำยังไง นายถึงจะรู้สึกว่าพศวัต อยู่เหนืออดิศวร นายเคยประกาศใช่มั้ยว่าถ้าฉันยอมกราบตีนนาย นายจะลืมเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ถ้านั่นหมายถึงการทำให้พศวัตรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชนะด้วยล่ะก็ ฉันจะกราบตีนนายเดี๋ยวนี้"

มนตรีคุกเข่าลงจะทำอย่างที่พูดจริงๆ แต่พิศาลเมินหน้าหนี พร้อมเปล่งเสียงว่า

"ไม่ต้อง!"

"หมายความว่านายจะไม่ยอมให้อภัยฉัน ไม่ยอมให้ เด็กสองคนมันรักกันอย่างนั้นเหรอ นายเป็นพ่อประสาอะไร ทำไมถึงได้เห็นแก่ตัวอย่างนี้ ยัดเยียดความเกลียดแค้นชิงชังให้ลูก โดยที่เด็กมันไม่รู้เรื่องอะไรด้วย นายเองก็เคยมีความรักเคยรู้ว่าพิษสงของรักที่ไม่สมหวังมันเป็นยังไง อยากจะให้ ความรู้สึกแบบนั้นมันเกิดซ้ำกับลูกตัวเองอย่างนั้นเหรอ หรืออยากเห็นเด็กมันตายจากกันไปข้างก่อนรึไง ถึงจะรู้สึก ถึงจะคิดได้" มนตรีร่ายยาวจนเหนื่อย

"ที่กูบอกว่าไม่ต้อง หมายถึงไม่ต้องมากราบตีนกู กูคิดเองได้ กูเป็นพ่อ มึงรักลูกมึง กูก็รักลูกกู"

จากที่หน้านิ่วคิ้วขมวดกลายเป็นยิ้มร่า มนตรีจับมือพิศาลเขย่าด้วยความดีใจ

"นี่หมายความว่านาย...นายอภัยให้ฉัน นายยอมให้ลูกนายกับลูกฉันคบกันได้แล้วใช่มั้ย"

"ไม่ใช่เพราะมึงหรอกนะ แต่เพราะลูกชายมึงที่ทำให้กูใจอ่อน ทำให้กูเห็นว่าความรักที่มันมีต่อลูกกูยิ่งใหญ่แค่ไหน กูคิดว่ากูนอนตายตาหลับได้ถ้ามีมันอยู่เคียงข้างลูกกู"

สุพรรษาแอบฟังอยู่แต่แรก เดินเข้ามาหาทั้งคู่ด้วยรอยยิ้มที่เต็มตื้น

"ฉันไม่รู้จะพูดอะไรมากไปกว่าขอบคุณ...ขอบคุณที่ทำให้เรามีกันและกันในวันนี้"

ทั้งสามคนน้ำตารื้น ความรู้สึกที่เคยเป็นเพื่อนรักกันหวนกลับมาอีกครั้ง

"รีบกลับเข้าไปข้างในกันเถอะ เดี๋ยวนายไฟจะอาวะวาดบ้าคลั่งขึ้นมาอีก มันของขึ้นทีไร ฉันล่ะอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกที่ไหน" พิศาลพูดยิ้มๆ สุพรรษาอาสาเข็นรถให้เขา โดยมีมนตรีเดินเคียงกันมาด้วยความรู้สึกเต็มตื้นแช่มชื่นทั้งสามคน

แล้วทุกคนก็ได้เฮเมื่อทิพย์ธาราออกมาบอกข่าวดีว่าอัจจิมาพ้นขีดอันตรายแล้ว อัจจิมาเองพอรู้ว่าพ่อของเธอกับพ่อของอัคนีเกี่ยวก้อยคืนดีกันแล้ว เธอดีใจสุดๆ และนับจากนี้ไปความรักระหว่างเธอกับอัคนีก็หมดอุปสรรคขวากหนามกันเสียที...

ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ตำรวจก็ได้เบาะแสแหล่งกบดานของไกรภพผู้จ้างวานฆ่าพิศาลและอัจจิมา แล้วตามไปจับตัวไกรภพได้ขณะกำลังจ่ายเงินค่าจ้างให้มือปืนที่ตำรวจซ้อนแผน ให้พวกมันกลับไปหาไกรภพแล้วโกหกว่าทำงานสำเร็จ

ไกรภพจ้างวานจริง เพราะต้องการปิดปากพิศาลกับอัจจิมาเพื่อไม่ให้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเรื่อง ที่ดินที่เขาฉ้อโกงไป เมื่อหลักฐานชัดเจนอย่างนี้ ไกรภพเลยปฏิเสธไม่ออก ถูกตำรวจรวบตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนที่โรงพยาบาล วันนี้หมออนุญาตให้อัจจิมากลับบ้านได้ ทุกคนแห่กันมารับด้วยความชื่นมื่น ที่สำคัญวันนี้ถือเป็นวันดีของสองตระกูลที่จะรวมกันเป็นปึกแผ่นแน่นแฟ้นยิ่ง ขึ้น เพราะอัคนีกับอัจจิมาตกลงจะแต่งงานกันในเร็ววันนี้

แต่อีกสัปดาห์ต่อมาก็มีเรื่องให้อัจจิมากับพิศาลขุ่นข้องในใจ เมื่อทั้งคู่ไปกินกาแฟที่ร้านเฮียป๋อง แล้วรู้จากเฮียป๋องว่าอัคนีมาซื้อขนมไปฝากผู้หญิงที่โรงพยาบาล อัจจิมานึกถึงพยาบาลสาวคนนั้นทันที พิศาลเองพอรู้ก็ยอมไม่ได้ ยุให้ลูกสาวตามไปเล่นงานอัคนี้เดี๋ยวนี้เลย

แต่เมื่อตามไปดูจนเห็นกับตา ปรากฏว่าผู้หญิงที่อัคนีซื้อขนมมาให้ไม่ใช่พยาบาลสาว แต่เป็นเสาวรสหญิงสูงวัยซึ่งเป็นแม่ของพิมพ์นภา คนรักเก่าของอัคนีที่ตายไปแล้วด้วยน้ำมือของศิลา พิศาลกับอัจจิมารับฟังเหตุการณ์ในอดีตที่พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนอย่างแตกตื่น ตกใจ

เหตุการณ์วันนั้นที่ศิลาข่มขืนพิมพ์นภาเป็นเหตุให้เสาวรส แม่ของเธอช็อก และตกอยู่ในสภาพตายทั้งเป็นมาจนทุกวันนี้ เธอไม่พูดไม่จากับใคร และไม่รับรู้อะไรอีกเลย

"เรื่องนี้เงียบไปกับสายลม เพราะคนที่อยู่ในเหตุการณ์ สองคนเสียชีวิตไปหนึ่ง ส่วนอีกคนก็ถูกส่งมาบำบัดอาการทางจิต เลยไม่เหลือโจทก์จะไปร้องทุกข์กับใคร คุณน้าไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน พ่อกับแม่ผมก็เลยพาคุณน้ามารักษาตัวที่นี่ จะได้ใกล้หูใกล้ตา แล้วผมเองก็จะได้มีเวลาแวะมาเยี่ยมคุณน้าได้บ่อยๆ"

"ไอ้ศิลามันระยำขนาดนี้เชียวเหรอ" พิศาลเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า สีหน้าเศร้าสลด

"ก่อนที่จะถูกตำรวจจับ จี๊ดได้ยินพี่ศิลามาขอโทษไฟเรื่องพิมพ์นภา จี๊ดคิดว่าพี่ศิลาคงทำผิดไปแล้วจริงๆ"

พิศาลหันไปมองเสาวรสซึ่งยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม ในท่าเดิม พิศาลหดหู่และละอายใจอย่างบอกไม่ถูก ในที่สุดก็เดินผละไปหาเสาวรส ขอโทษเธอทั้งน้ำตา

"ผมขอโทษ...มันไม่ใช่ความผิดของลูกคนเดียวแต่เป็นความผิดของคนเป็นพ่อด้วย ผมไม่ดีเอง ผมเป็นพ่อที่เฮงซวย สอนลูกไม่เป็น ลูกถึงได้ชั่วช้ากล้าย่ำยีคนเพศเดียวกับแม่มันได้ขนาดนี้ ผมผิดเอง ผมขอชดใช้ความผิดทุกอย่างแทนลูก ผมจะช่วยดูแลคุณ จะทำให้คุณหายป่วยให้ได้ ผมสัญญา กรุณายกโทษให้ผมกับลูกชายด้วยนะครับ"

เสาวรสได้แต่มองพิศาลด้วยสายตาเลื่อนลอยไม่รับรู้ อะไร อัจจิมาสะเทือนใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่...

หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน อัคนีกับอัจจิมาทำพิธีหมั้นกันอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางบุคคลของสองตระกูลและเพื่อนพ้องน้องพี่มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่าง ชื่นมื่นเฮฮา แล้วทุกคนยังช่วยกันทุบทำลายรั้วที่กั้นระหว่างสองฟาร์มออกจากกันด้วย ยังความปลาบปลื้มซึ้งใจจนผู้ใหญ่ทุกคนน้ำตาซึม

เมื่ออัคนีกับอัจจิมาได้อยู่กันตามลำพัง อัจจิมายังแคลงใจว่าอัคนีจะลืมรักครั้งเก่าซึ่งเป็นรักแรกได้หรือ แต่พอเธอถามออกไป กลับได้คำตอบที่น่าประทับใจว่า เธอต่างหากที่เป็นรักครั้งแรกของเขา เขาแอบรักเธอตั้งแต่อายุสิบขวบ โดยยืนยันด้วยการเล่าเหตุการณ์วันแรกที่เจอกัน แล้วยังเคยให้ตุ๊กตาเธอไปตัวหนึ่ง แต่หลังจากนั้นพิศาลที่หวงลูกสาวและมีเรื่องแค้นเคืองกับมนตรีก็ส่งอัจจิมา ไปเรียนโรงเรียนประจำที่กรุงเทพฯ เขาเลยไม่ได้เจอเธออีก จนกระทั่งอีกสิบสามปีต่อมาถึงมีโอกาสพบกัน

อัจจิมาจำเหตุการณ์เหล่านั้นได้ เธอยิ้มกว้าง ไม่เหลือความคลางแคลงใจใดๆทั้งสิ้น

"อย่ากลัว อย่ากังวลหรือสงสัย จื๊ดเป็นรักแรกและรักสุดท้ายของไฟ เป็นทั้งแก้วตาและดวงใจของนายอัคนี"

อัจจิมาโผเข้ากอดอัคนีแน่นด้วยความรู้สึกรัก ตื้นตัน ดีใจ ปลื้มใจ และอบอุ่นใจอย่างที่สุด


ooooooo

-อวสาน-

ดวงใจอัคนี

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด