มนตราฟ้าฟื้น

ย้อนกลับไปเมื่อห้าร้อยปีก่อน ขุนแผน (รัฐธีร์ วรโรจน์โยธิน) จำต้องไปรบ จึงใช้ดาบฟ้าฟื้นร่ายมนต์บังตา เสกให้เรือนของ นางสร้อยสุคนธา (สุภาพร มะลิซ้อน) กลืนหายกลายเป็นป่าไปทั้งหมด นางสร้อยสุคนธามองผัวรักจากไป บอกพี่ต้องกลับมาตามสัญญา สร้อยจะรอพี่อยู่ที่นี่ ขุนแผนขี่ม้าสีหมอกผ่านพวกภูตผีซึ่งเขาสั่งให้คอยเฝ้าป่า ห้าร้อยปีผ่านไป เรือนหลังนั้นถูกหลงลืม เหลือเพียงป่ารกชัฏซึ่งชาวบ้านเล่าลือถึงอาถรรพ์ เรียกกันว่า ป่าหมอก

ขุนพล (รัฐธีร์ วรโรจน์โยธิน) ชายหนุ่มนักโบราณคดีที่ไม่เคยเชื่อเรื่องลี้ลับ พร้อมด้วย ก๋วยจั๊บ (สวิส เตชภูวนนท์ ) และ เอพริล (เฌอลีนน์ สตาฟฟี่) สาวน้อยผู้หลงรักขุนพล เดินทางไปสุพรรณบุรี เขากะว่าจะเซอร์ไพรส์ปู่กับย่า แต่ปรากฏกลับต้องเซอร์ไพรส์เสียเอง เมื่อเขารู้ว่า ปู่ขุนศึก (รอง เค้ามูลคดี) หายตัวไป ร่อยรอยเดียวที่ได้เจอคือข้อความปริศนาซึ่งปู่เขียนทิ้งไว้  และ “สมุดข่อยโบราณ” ในห้องปู่ ขุนพลนึกถึงความหลัง สมัยเป็นเด็ก ปู่เคยพาเขาไปที่ป่าหมอก เขาแน่ใจว่าปู่ไปที่นั่น 

ขุนพลจึงออกเดินทางไปป่าหมอก จนถึงปากทางเข้าป่าหมอก ซึ่งเป็นช่องเขาแคบๆ มีกะโหลกปักอยู่เต็มไปหมดทำให้รถไปต่อไม่ได้ ทั้งสามจึงต้องเดินเท้าเข้าไป ขุนพลพยายามถามชาวบ้าน แต่ไม่มีใครบอกอะไร   ซ้ำยังโดน อาโป ,ทิม , จุ๊กกรู หัวโจกประจำหมู่บ้าน พาพวกเข้ามาขับไล่  จนเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย โชคดีที่ โมลิน (ญาณิศา ธีราธร) กับ ณคุณ (ภูษณะ บัวงาม)  เข้ามาห้ามไว้ได้ทัน   และครั้งนี้เองที่ขุนพลกับโมลิน ได้พบกันครั้งแรก แต่กลับรู้สึกเหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน