ตอนที่ 11
“เห็นไหมครับ...เมื่อคุณได้ความรักของเขาคืนมามุตตาถึงจากไป ไม่มีผลอะไรกับคุณอีก แต่ตอนนี้คุณกำลังไม่เชื่อมั่นในความรักของเขาอีกแล้ว คุณเลยสร้างมุตตาขึ้นใหม่ คิดฟุ้งซ่านไปต่างๆนานาว่าวีกิจรักแต่มุตตาไม่ได้รักมุนินทร์ วงจรเดิมมันกลับมาอีกครั้งแล้วครับ”
“คุณคิดว่าฉันฟุ้งซ่านได้ขนาดนั้นเลยเหรอคะ ฉันเป็นคนมีเหตุผลกับทุกเรื่องนะ”
ศรุตส่ายหน้าก่อนเอ่ย “แต่บางครั้งคนเราก็ขาดสติได้ง่ายๆ ยิ่งเรื่องเกี่ยวกับความรัก...คนดีๆ มีตรรกะ มีเหตุผล กลายเป็นคนขาดสติได้อย่างไม่น่าเชื่อเชียวล่ะครับ”
ooooooo
พวกรัชนกได้ยินทุกอย่างจากกล้องในคอนโดมุนินทร์ แต่ไม่หวั่นส่งฤทัยไปบอกวีกิจเรื่องศรุตอยู่กับมุนินทร์ตามลำพังที่คอนโด วีกิจร้อนใจมากด้วยความหึงหวง ผลุนผลันออกจากกระทรวง ปราโมทย์กลัวเรื่องไปกันใหญ่ขอตามไปด้วย กระนั้นก็ไม่วาย คาดโทษกับทัยก่อนขึ้นรถเพื่อนรัก
“ฉันสงสัยแล้วล่ะที่เธอเข้ามาในชีวิตผัวเมียคู่นี้... มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”
“หนูโดนรถพี่นินชนนะคะ แล้วเขาก็รับเลี้ยงหนู มันไม่บังเอิญยังไงคะ”
“เจตนาเธอมันส่อว่าเธอสมคบคิดกับใครบางคนทำให้ผัวเมียเขาแตกกัน อย่าให้ฉันจับได้ก็แล้วกัน”
ไม่ใช่แค่วีกิจกับปราโมทย์ที่รีบร้อนไปคอนโดมุนินทร์ ลูกศรกับแทนไทก็เช่นกันเพราะอยากให้วีกิจกับมุนินทร์ได้เห็นคลิปในงานแต่งที่เพชรบูรณ์ว่าทัยไม่ได้เข้ามาในชีวิตพวกเขาโดยบังเอิญ...แต่เป็นความจงใจของใครบางคน!
วีกิจร้อนรนมาก เมื่อถึงคอนโดภรรยาก็ใช้กำลังบังคับผู้จัดการอาคารเปิดห้อง และภาพแรกที่เห็นคือศรุตโอบกอดมุนินทร์ เจตนาคืออยากให้กำลังใจกันและกันแต่วีกิจกลับเข้าใจผิดเพราะความหึงหวง
“นี่ใช่ไหมที่คุณตอบแทนความรักของผม!”
ขาดคำก็กระชากคอเสื้อศรุตมาชกหน้าเต็มแรง มุนินทร์กรีดร้องถลาไปห้ามสามี
“อย่านะคุณกิจ คุณเข้าใจผิดนะ”
วีกิจตาลุกที่ภรรยาเป็นเดือดเป็นร้อนแทนศรุต “อ้อ...ปกป้องชู้รักงั้นเหรอ”
“ถ้าคุณทำอะไรเกินกว่าเหตุฉันเรียกตำรวจจริงๆด้วย”
“เอาเลย...ถ้าไม่เห็นว่าผมเป็นผัวคุณ ไม่ต้องเรียกตำรวจหรอก...ไปที่เขตไปเซ็นใบหย่ากันเดี๋ยวนี้เลย แต่ก่อนไปขอกระทืบไอ้คิดบวกคนนี้ก่อน”
ศรุตค่อยๆพยุงตัวเอง ประกาศกร้าวจะไม่ยอมเป็นที่รองรับอารมณ์วีกิจฝ่ายเดียว ทันทีที่วีกิจพุ่งตัวหา วิทยากรหนุ่มก็สวนด้วยหมัดหนักๆจนหนุ่มหล่อประจำกระทรวงสลบเหมือด!
พวกรัชนกเห็นเหตุการณ์วุ่นวายทุกอย่าง สาแก่ใจมากที่ทำให้สามีภรรยาแตกคอกัน นภางค์ก็กำลังทำอย่างเดียวกันกับพวกรัชนกคือยุแยงให้นพนภามีอคติกับมุนินทร์เหมือนเมื่อสี่ปีก่อน