ตอนที่ 10
มุนินทร์สะเทือนใจมากที่สามีไม่เชื่อใจ ปมลึกๆที่อยู่ในใจมานานแผลงฤทธิ์อีกครั้ง ศรุตเป็นกังวลมากอยากให้มุนินทร์ปรับความเข้าใจกับสามีโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะเรื่องคลิปที่เป็นประเด็นสำคัญเวลานี้
“ไม่ค่ะ...อย่างที่บอก...ถ้าเขาไม่คิดจะพูดความจริงเราก็อยู่กันบนความหลอกลวงแบบนี้แหละ!”
ooooooo
อมรตัดสินใจกลับบ้านที่กรุงเทพฯคืนนั้นเองโดยปราศจากพงศกรคู่ขาหนุ่มอย่างเคย เนตรนภิศ
รอดูผลงานของตัวเองกับพวกรัชนกอยู่แล้วที่บ้าน ส่งเสียงทักเย้ยหยันทันทีที่เจอหน้า
“ทำไมกลับบ้านมาคนเดียวล่ะคะ ไม่พาคนรัก
กลับมาด้วย...หรือเพราะคนรักแอบไปเล่นชู้กับคนรักอีกคน”
“อ้อ...รู้นี่...ไอ้รูปที่ส่งมาให้ผมฝีมือไอ้ศักดิ์ชายใช่ไหม นายกรบอกผมหมดแล้ว”
“เราทำงานกันเป็นทีมค่ะ อีนังต่อมันก็ได้รับรูปไอ้ก้องผัวมันเหมือนกัน ดีนะคะ...ชาวเก้งอย่างคุณเล่นชู้แลกคู่กันเอง คราวนี้คู่เกย์ทั้งสองก็เลยหึงหวงกลางที่สาธารณะ ทั้งชกทั้งแลกหมัดซัดกันนัว...สนุกจะตาย”
เนตรนภิศสาแก่ใจมากที่เอาคืนสามีที่จงใจฉีกหน้าเธอด้วยการขอหย่าได้ อมรเจ็บใจมากแต่ต้องสะกดอารมณ์
“คุณมาก็ดีแล้ว...คงได้อ่านเอกสารที่ทนายส่งให้คุณแล้วนะ ถ้าคุณไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ก็ไปเซ็นใบหย่ากันให้เรียบร้อย เราก็เป็นอิสระต่อกันเสียที”
“เสียใจค่ะ...ฉันไม่หย่า ถ้าจะหย่าสมบัติทุกชิ้นต้องเป็นของฉัน...ทั้งบ้านทั้งรถ เพื่อเป็นค่าชดเชยที่ฉันต้องทนทุกข์ที่โดนผัวหน้าตัวเมียหลอกมาตลอดชีวิตแต่งงาน”
“หยุดพูดแบบนี้นะ คุณก็หลอกให้ผมแต่งงานด้วย ไอ้ท้องหลอกๆของคุณน่ะ แล้วยังขู่จะฟ้องครอบครัวผมอีก”
“ตอนนั้นฉันไม่รู้นี่คะว่าแค่มอมเหล้าเกย์สักกรึ๊บสองกรึ๊บมันจะทำหน้าที่สามีให้ฉันได้ด้วย...บอกตามตรงคุณให้ความสุขฉันเสียจนฉันคิดไม่ถึงว่าคุณจะเป็น...
ชายชาตินักรบผู้ชำนาญ...กระบี่กระบอง”
อมรหัวเสียมากผลุนผลันขึ้นห้องเพราะไม่อยากทะเลาะกับภรรยา เนตรนภิศไม่ยอมตามราวีถึงห้อง แกล้งลูบไล้กล้ามเป็นมัดๆของสามีก่อนเอ่ยเสียงหวานปนยั่วยวน
“คุณอมรคะ...ที่จริงฉันให้อภัยคุณนะ เพราะถึงคุณจะมีเพศสภาพแบบนี้แต่คุณก็ให้ความสุขฉันได้...เราจะกลับมาอยู่กันแบบเดิมก็ยังได้นะ ขออย่างเดียว อย่าเอาไอ้กล้ามยักษ์นั่นเข้าบ้าน อยากกินกันเอง...โน่นไปกินข้างนอก อย่าให้ฉันรู้เห็นอย่างนี้ฉันรับได้ ขอแต่ยังเป็นสามีเชิดหน้าชูตาฉันอยู่”
คำขอของภรรยาทำให้อมรพะอืดพะอม ตอก
ไม่ไว้หน้า “ผมทำหน้าที่สามีไม่บกพร่องอยู่แล้วแต่กับคนที่ผมรักเท่านั้น สำหรับคุณ...บอกตามตรงแค่อยู่ใกล้ผมก็ขยะแขยงแล้ว”