ตอนที่ 10
มุนินทร์รู้ทุกอย่างว่าวีกิจแวะมาหาที่คอนโด แอบฟังจากในห้องด้วยความสะเทือนใจ ศรุตที่แวะมาให้คำปรึกษากับเธอถึงห้องมองมาด้วยความอ่อนใจ อยากแนะให้เคลียร์กันให้รู้เรื่องแต่ดูท่าจะยากเพราะมุนินทร์ยังโกรธและมีแนวโน้มจะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลตัดสินเรื่องชีวิตคู่...
นพนภากลับกรุงเทพฯพร้อมกับศรุตแต่ไม่ได้นัดเจอเขาอีก มัวหมกมุ่นเรื่องมุนินทร์ที่ตนเห็นตำตาว่านัดเจอกับศรุตที่โรงแรมริมชายหาด นภางค์นิ่วหน้ารับฟังข้อสันนิษฐานแบบจับแพะชนแกะของลูกสาว
“แม่คะ...มุนินทร์ไปงานบริษัทที่ลอนดอนแล้วอยู่ดีๆก็กลับมาหาคุณศรุตอย่างลับๆ ใส่แว่นดำปิดหน้าปิดตา สวมฮู้ดไม่ให้ใครเห็นทั้งกลางวันกลางคืน แถมคุณศรุตยังช่วยปิดบังไม่ให้หนูรู้ด้วยว่านั่นคือมุนินทร์”
“งั้นต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลแล้วล่ะ”
“แล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หนูเห็นมุนินทร์อยู่กับคุณศรุตนะคะ”
เรื่องราวเมื่อหลายวันก่อนผุดในหัว วันที่นพนภาเห็นรถมุนินทร์แถวบ้านศรุต ไหนจะท่าทางพิรุธของวิทยากรหนุ่มตอนเธอไปหาหลังจากนั้น กระนั้นนภางค์ก็ยังไม่เชื่อว่ามุนินทร์จะมีแผนร้าย
“คิดในแง่ดีเขาก็คงเหมือนแกมั้ง คือไปปรึกษาปัญหาชีวิตแต่งงานกับพ่อศรุต เพราะก่อนไปลอนดอนก็ทะเลาะกับนายกิจเรื่องนังเด็กคนนั้นอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ค่ะแม่...แต่ถ้ามาปรึกษาปัญหาทำไมต้องโกหกหนูด้วยแถมยังตัดบทหนูทุกอย่างโดยเฉพาะตอนที่ ...เอ่อ...หนูสารภาพรักกับเขา”
นภางค์มองลูกสาวอย่างเอือมระอา “เฮ้อ...ฉันละอ่อนใจกับความอ่อนปัญญาของแกจริงๆ ไปสารภาพรักกับผู้ชายก่อนได้ยังไง...แก่จนป่านนี้”
นพนภาทำหน้ามุ่ยก่อนตัดพ้อแม่ “แหม...แม่คะ ...หนูยังไม่แก่ แล้วหนูก็ไม่ประสีประสาเรื่องความรักสักเท่าไหร่ รักแรกคือคุณภพ แล้วหนูก็ไม่มีใครอีกจนมาถึงคุณศรุตนี่ล่ะค่ะ”
“ย่ะ...แม่อ่อนต่อโลก ในเมื่อผู้ชายปฏิเสธไม่ได้รักแกจะทู่ซี้อยู่ทำไม”
“เขารักหนูค่ะแม่ แค่รอหนูหย่าเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้เขาเกิดลังเลเพราะ...เฮ้อ...หนูไม่อยากคิดในแง่ร้ายเลย”
“ถึงไม่คิดแกก็ร้ายอยู่แล้ว...พูดมาเถอะ”
“เพราะเขามีมุนินทร์นี่ไงคะ เขาถึงลังเลกับหนู”
ooooooo
นพนภามโนเรื่องราวระหว่างศรุตกับมุนินทร์ไปไกลมาก ทั้งเรื่องเขารักเธอแต่ต้องซ่อนความรู้สึกไว้เพราะเธอยังไม่ได้หย่าขาดจากเจนภพและเรื่องเขาลังเลเพราะมีมุนินทร์แทรกกลาง ศรุตกับมุนินทร์ไม่รู้เรื่องด้วย มัวคุยกันจริงจังเรื่องปัญหาชีวิตคู่ของฝ่ายหลังที่ทำท่าจะสั่นคลอนเพราะวีกิจอาจปันใจให้ทัยเด็กสาวในอุปการะ