ตอนที่ 1
แม้สร้อยคำกับนภางค์จะไม่ชอบใจความสัมพันธ์ของต่อกับก้องนักแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะแพ้ใจก้องที่เอาใจใส่นพนภาตลอดสามปีจนวันนี้อาการเริ่มดีขึ้น นภางค์เห็นลูกสาวสีหน้าสดชื่นจึงถือโอกาสชวนไปออกรายการโดยไม่ยอมบอกเหตุผลแท้จริงว่าจะใช้อีกฝ่ายเป็นตัวโปรโมตสินค้าสมุนไพรที่ลงทุนกับเพื่อน
นพนภาลังเลเพราะยังไม่อยากโชว์สภาพทรุดโทรมต่อหน้าสาธารณชนแต่นภางค์ก็กล่อมลูกสาวจนใจอ่อน ยอมออกจากบ้านไปทำสวยที่คลินิกเสริมความงามเพราะเชื่อว่าตัวเองจะสวยพริ้งอีกครั้ง...
มุนินทร์ปัดเรื่องฝันร้ายทิ้งและพยายามเริ่มต้นวันใหม่ด้วยรอยยิ้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวีกิจแฟนหนุ่มที่กำลังจะแต่งงานกันอีกไม่กี่เดือนโผล่มาทำมื้อเช้าให้ ความน่ารักของเขาทำให้เธอปลื้มมากแต่ยังอดเย้าไม่ได้
“ถือวิสาสะเข้ามาในห้องผู้หญิงได้ยังไงคะคุณวีกิจ”
วีกิจยิ้มรับทักตอบแฟนสาวคนสวย “อันนี้ไม่ทราบนะ...เพราะคุณนายเจ้าของห้องเขาก๊อบปี้กุญแจไว้ให้ผมทั้งชุดให้ผมไขเข้าห้องได้ทุกห้องเลย...โดยเฉพาะห้องนอน”
“กล้าพูดนะคะ คุณแม่สร้อยได้ยินอกแตกตายแน่”
“ก็อย่าให้ได้ยินสิครับ”
“แล้วจะอนุญาตให้มาค้างกับฉันได้รึยัง”
“แม่บอกว่าเพื่อเกียรติและศักดิ์ศรีของคุณ
ผมไม่ควรมาค้างที่นี่จนกว่า...”
มุนินทร์รู้ดีว่าเขาจะพูดอะไรแต่ก็อดกระเง้ากระงอดไม่ได้
“คุณต้องเชื่อคุณแม่ทุกเรื่องเลยเหรอคะ...โดยเฉพาะเรื่องที่มาค้างกับฉัน”
“ควรครับเพราะมันเป็นเรื่องเกียรติและศักดิ์ศรีของคุณ”
“ที่จริงฉันไม่มีเกียรติศักดิ์ศรีอะไรนักหรอกค่ะ”
น้ำเสียงเศร้าของเธอทำให้วีกิจใจอ่อนยวบ รู้ดีว่าอดีตที่ผ่านมาทำให้เธอบอบช้ำแค่ไหน เมื่อมุนินทร์ขอร้องให้เขาค้างเป็นเพื่อนจึงตอบรับแต่โดยดี มุนินทร์ดีใจมาก หลุดปากเรื่องฝันร้ายที่ทำให้เธอนอนไม่หลับ
วีกิจหน้าเครียดเมื่อแฟนสาวเล่าเรื่องฝันร้ายเกี่ยวกับปุ๊มือปืนที่นพนภาเคยจ้างไปทำร้ายเธอ มุนินทร์เห็น
เขาเป็นห่วงเลยตัดสินใจไม่เล่าเรื่องผีมุตตาที่หลอกหลอนเธอกลางดึก ได้แต่เบี่ยงเบนความสนใจอ้อนให้เขามาค้างด้วยทุกคืน วีกิจรับปากหนักแน่นพร้อมสัญญาจะปกป้องเธอทุกอย่างจากอุปสรรคและอันตรายรอบตัว
ooooooo
มุนินทร์กับวีกิจตัดสินใจอยู่กับปัจจุบันและทำวันนี้ให้ดีที่สุด สองหนุ่มสาวออกจากคอนโดไปทำงานตามเวลาเหมือนเคยโดยวีกิจหอบข้าวของแฟนสาวไปส่งที่ทำงานแถมด้วยอาหารกลางวันเพื่อสุขภาพจากสร้อยคำ
“ตายจริง...คุณแม่บำรุงฉันขนาดนี้เลยเหรอคะ”
“แม่บอกอยากอุ้มหลานเร็วๆน่ะ แต่งปั๊บแม่ขอมีลูกปุ๊บเลย”
“ตายจริง...ไม่ให้โอกาสฉันฉลองสามีภรรยาสักปีสองปีเหรอคะ...อยากสวีตกับคุณนานๆน่ะ”