ตอนที่ 10
ความอู้ฟู่ผิดหูผิดตาของมารตี แม้แต่เทวพันธ์เองก็แปลกใจ ขณะกำลังสอบถามอย่างอยากได้ส่วนแบ่งอยู่นั่นเอง หม่อมเอียดกับย่าอ่อนก็มาที่วังเทวพรหม ทันทีที่มาถึง สองย่ามองมารตีแต่หัวจดเท้าอย่างสังเกต
หม่อมเอียดถามขึ้นก่อนว่า เอาเงินที่ไหนไปซื้อข้าวของแพงๆมากมายขนาดนี้ มารตีอ้างว่าตนมีเงินนิดหน่อยจะซื้อบ้างแปลกด้วยหรือ ถูกย่าอ่อนดักคอว่า
“สร้อยเพชรที่หล่อนสวมล่ะ เข้าชุดกันดีทั้งสร้อยทั้งต่างหูกำไลเลยนะ อันนี้ก็ซื้อเองงั้นรึ”
“ใช่ค่ะ...ก็พอดีว่ามารตีพอมีเงินบ้างจากการเฝ้าคนไข้พิเศษพวกเศรษฐีมหาเศรษฐีหลายท่าน แล้วก็ถูกหวยบ้างน่ะค่ะ สวยสมกับมารตีมากๆเลยใช่ไหมคะหม่อมย่า” มารตีฉอเลาะทำท่าน่าเอ็นดู พลันก็หน้าซีดเผือดเมื่อเห็นคุณหญิงดาราเดินหน้าตาเอาเรื่องเข้ามา
คุณหญิงจับได้ว่ามารตีขโมยเครื่องเพชรเหล่านั้นของตนมา มีหลักฐานทั้งรูปถ่ายที่คุณหญิงใส่ไปงานต่างๆและแม้แต่ใบเสร็จซื้อเครื่องเพชรเหล่านั้น ระหว่างนั้นเทวพันธ์พยายามปกป้องลูกสาว แต่ต้องจำนนด้วยหลักฐาน คุณหญิงให้เทวพันธ์ถามมารตีว่า
“ถามเขาสิคะ ว่าเขาต้องเอาอะไรไปแลกของพวกนี้มาจากสามีของดิฉัน”
เทวพันธ์ยังไม่ยอมรับ แต่มารตีเสียงอ่อนลง ยิ่งเมื่อคุณหญิงพูดว่า “เธอคงไม่อยากให้ฉันแจ้งความตำรวจนะมารตี” มารตีร้องไห้โฮอย่างจำนนโดยปริยาย ย่าอ่อนพูดอย่างผิดหวังว่า
“ทำไมถึงทำเรื่องสกปรกพรรค์นั้นได้อย่างหน้าชื่นตาบาน ทำตัวไร้ยางอาย ทำลายเกียรติยศศักดิ์ศรีของตัวเองและของวงศ์ตระกูล คิดดูนะเทวพันธ์ ว่าป้าจะรับลูกสาวของเธอมาเป็นหลานสะใภ้ไหวไหม”
“เทวพันธ์...คำมั่นสัญญาระหว่างเราสองสกุลฉันยังจำได้ สัจจะยังคงเป็นสัจจะ แต่สำหรับชายภัทรกับหนูมารตีมันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว หวังว่าคุณคงจะเข้าใจการตัดสินใจนี้ของฉันนะ” พูดจบหม่อมเอียดชวนย่าอ่อนกลับ
เทวพันธ์จำนนต่อหลักฐานใบ้กินสนิท ส่วนมารตีก็เอาแต่ร้องไห้เป็นวักเป็นเวร แต่ใจเธอนั้น...ไม่ยอมแพ้!
ooooooo
ท่านพินิจยังเมามัวตัณหาขลุกอยู่ในวิมานสีชมพูท่ามกลางอนุรายล้อมราวกับฮาเร็ม
“มีความสุขจริงๆเลย...คนนี้ก็สวย คนนี้ก็น่ารัก ไม่มีชีวิตผู้ชายคนไหนในโลกจะน่าอิจฉาเท่ากับฉันอีกแล้ว จริงไหมจ๊ะเด็กๆจ๋า...”
“จริงค่ะ...” พวกอนุแย่งกันตอบรับ แต่เสียงกนกลักษณ์แทรกขึ้นว่า “ใครที่ไม่เลือกท่าน มันโง่สุดๆเลยค่ะ”
จู่ๆ ท่านพินิจก็สะอึกเหมือนความสุขจุกอก หน้าเปลี่ยนเป็นเฉาเศร้าลงทันทีขณะพึมพำ
“ใช่...ใครไม่เลือกฉันมันโง่มาก...โดยเฉพาะหนูแก้ว ทำไมไม่เลือกฉัน โง่ที่สุดเลย”
สุนันท์แทบอยากจะกระโจนเข้าตบกนกลักษณ์ที่สะกิดแผลใจท่านเข้าอย่างจัง ทำให้ท่านอารมณ์เปลี่ยนฉับพลันหันไล่พวกสาวๆออกไปให้หมด สุนันท์หมายใช้ความสาวความสดของตนทำให้ท่านอารมณ์ดี แต่กลับทำให้ท่านไม่พอใจตวาดไล่ตะเพิดทุกคนเหมือนสติแตก กระทั่งสั่งลูกน้องให้มาลากตัวสุนันท์ออกไป
“ทำตัวอย่างนี้ไม่สมกับเป็นท่านพินิจเลยนะคะ” คุณหญิงดาราเดินเข้ามายืนตรงหน้า พูดโน้มน้าวอย่างใจเย็นว่า “เห็นแล้วใช่ไหมคะว่า อำนาจบารมีและทรัพย์สินไม่สามารถให้คุณได้ทุกอย่าง...คุณมีผู้หญิงห้อมล้อม
ก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนคนที่เขาอยู่เหนือสิ่งล่อลวงฉาบฉวยของคุณยังมีอยู่ ผู้หญิงที่เห็นคุณค่าในตัวเองอย่างกรองแก้ว จะไม่มีทางยอมเป็นของสนุกชั่วคราวให้คุณหรือใครแน่นอน”
ท่านพินิจประคองมือคุณหญิงไว้พูดอย่างสำนึกว่ามีแต่คุณหญิงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ทอดทิ้งตน คุณหญิงบอกว่าสักวันตนอาจจะหมดความอดทน เห็นท่านพินิจหน้าเสีย คุณหญิงพูดอย่างให้กำลังใจว่า
“ฉันอดทนได้ เพราะฉันยังหวังว่าสักวันคุณจะกลับมาเป็นคนเดิม เป็นคนที่เคยน่ารักแสนดีที่ทำให้ฉันยอมแต่งงานด้วย ก่อนหน้าที่การงานและอะไรต่อมิอะไรจะเปลี่ยนคุณของฉันกลายเป็น ‘ท่าน’ ของใครต่อใคร
อย่างทุกวันนี้ คุณพินิจ...ถ้าเมื่อไหร่ฉันหมดความหวังในตัวคุณ ฉันก็คงไป”
“ไม่นะ...คุณหญิง อย่าทิ้งผมไปอีกคนนะ”
“ถ้าคุณมัวแต่ไปเป็นสุภาพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ในใจคนอื่น แต่ไม่เคยเป็นให้กับคนในบ้านได้เลยมันจะมีประโยชน์อะไร”
พูดแล้วคุณหญิงจะไป ท่านพินิจคว้ามือไว้ ทรุด คุกเข่ากอดเอวอ้อนวอนเหมือนเด็กที่กำลังจะถูกทิ้ง...
“ไม่ๆๆ ผมผิดไปแล้วคุณหญิง ยกโทษให้ผมนะคุณหญิง...”
ท่านพินิจผู้เคยผยอง อหังการ ยิ่งใหญ่เย้ยฟ้าท้าดิน บัดนี้คุกเข่ากอดเอวคุณหญิงไว้แน่นอ้อนวอนอย่างหวาดผวาขออย่าทิ้งตนไป ในขณะที่คุณหญิงยืนสงบสง่าอย่างภูมิใจในคุณค่าของตัวเอง...
เมื่อสำนึกแล้ว ท่านพินิจก็มีใจนักเลงและเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะยอมรับผิดและขอโทษทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ท่านไปที่โรงพยาบาล ขอโทษหมอใหญ่และยินดีจะให้การสนับสนุนโรงพยาบาลเหมือนเดิม ยินดีกับความรักของแก้วกับคุณหมอพุฒิภัทรทั้งยังอวยพรให้ทั้งสองมีความสุขด้วย
มีแต่สุนันท์เท่านั้น ที่ยังหน้ามืดตามัวอยู่กับชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อ เมื่อเจอไกรฤกษ์ก็บอกให้ไปฆ่าแก้วให้ที เพราะแก้วเป็นต้นเหตุให้ท่านพินิจเปลี่ยนไป ไกรฤกษ์ไม่กล้าเพราะรู้ว่าท่านพินิจรักและหลงแก้วมากขืนทำมีหวังตัวเองตาย ขอเปลี่ยนเป็นกำจัดเสี้ยนหนามหัวใจของท่านแทน นั่นคือ วางแผนฆ่าคุณชายหมอพุฒิภัทร
ooooooo
ไกรฤกษ์ดักยิงชายภัทรจนบาดเจ็บสาหัส แก้วอยู่ที่อยุธยารู้ข่าวจากครูบุษบาเธอรีบเข้ากรุงเทพฯมาเฝ้าดูแลชายภัทรอย่างใกล้ชิด จนชายภัทรหายวันหายคืน แต่เมื่อชายภัทรหายดีแล้ว แก้วก็กลับไปอยู่กับพ่อที่อยุธยาตามเดิม ด้วยเหตุผลที่ว่า
“เพราะโลกนี้ไม่ได้มีเราแค่สองคน แต่มีครอบครัว สังคมคนอื่นๆ กรอบของขนบธรรมเนียมมากมาย ความเหมาะสม ความควร เราต้องคำนึงถึง ไม่ใช่แค่ทำตามใจตัวเองนะคะ” พลางแก้วถอดสร้อยกับจี้หยกวางคืนในมือชายภัทร...
เมื่อแก้วกลับไปอยู่อยุธยาแล้ว ชายภัทรก็ตกอยู่ในความทุกข์ใจแสนสาหัส จนไม่อาจทนได้ ไปหาแก้วที่อยุธยา เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าตนสามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างชาวบ้านได้ ไม่ได้ยึดติดกับลาภยศศักการใดๆทั้งสิ้น
จนในที่สุด ชายภัทรก็สามารถพิสูจน์ตัวเองได้เพราะนอกจากจะปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของตนได้แล้ว ยังช่วยดูแลรักษาสุขภาพของกิตติให้ดีขึ้นเป็นลำดับ จนเมื่อโอกาสดี ชายภัทรพูดถึงความรักของตนกับแก้วอีกครั้ง...
“ฉันรักแก้ว แก้วก็รักฉัน เราอยู่ด้วยกัน ฉันมีความสุข แก้วมีความสุข ถูกไหม แต่ถ้าเราแยกจากกัน แก้วก็เสียใจ ฉันก็เสียใจ แล้วทำไมเราจะเลือกแบบนั้น” แก้วติงว่าแล้วคนอื่นล่ะ “ถ้าคนอื่นของแก้วหมายถึงครอบครัว หม่อมย่า พี่น้องฉัน ฉันก็ขอบอกว่า ทุกคนเขารักฉัน ถ้าฉันมีความสุข ทุกคนก็ต้องดีใจ ถ้าฉันรักใคร ทุกคนก็จะรักด้วย”
ชายภัทรเล่าว่า ก่อนที่จะมาอยุธยา ตนบอกทุกคนว่าจะแต่งงานกับแก้ว ทุกคนยอมและหม่อมย่ายังอวยพรด้วยซ้ำ
“แล้วเรื่องที่...แก้วเคยถูกจับตัวไป” แก้วถามกลัวๆ กล้าๆ กับเรื่องที่เป็นตราบาปในชีวิต
“แก้วรักศักดิ์ศรีแค่ไหน แก้วเป็นผู้หญิงที่เป็นตัวของตัวเองแค่ไหน ไม่ใช่ฉันหรือที่เป็นคนรู้ดีที่สุด ฉันคือคนที่ได้เห็นกับตามาตั้งแต่วันแรกที่เราได้พบกันว่า คนอย่างแก้ว ถ้าถูกใครบังคับขืนใจ แก้วต้องยอมตายเท่านั้น...จริงไหมล่ะ”
แก้วอึ้ง พูดไม่ออก ตื้นตันใจจนน้ำตาไหลอาบแก้มที่ชายภัทรเข้าใจตน
ชายภัทรถอดสร้อยจากคอตัวเองคล้องให้แก้ว เอ่ยอย่างอ่อนโยน
“แก้ว...เธอคือภรรยาของฉันตามกฎหมาย แล้วก็เป็นอยู่ในใจฉันเสมอ เธอต้องรับตราประจำตัวของฉันที่หม่อมแม่ของฉันทำให้ตอนที่ฉันเกิด เพื่อให้ลูกชายของท่านมอบให้สะใภ้ของท่าน แก้ว...แต่งงานกับฉันนะ อย่าปฏิเสธเลย เกิดมาฉันไม่เคยรักใครมาก่อน รักเธอเป็นคนแรก และจะเป็นคนเดียวตลอดไป...นะแก้ว...”
แก้วมองหน้าชายภัทรน้ำตาไหลพราก ต่างมองกันอย่างลึกซึ้ง อ่อนหวาน สวมกอดกันด้วยความรัก...
ooooooo
ที่วังเทวพรหม...เทวพันธ์ถึงกับผงะหน้าเครียด เมื่อเห็นหนังสือพิมพ์ฉบับเช้านี้ลงข่าวใหญ่ว่า
“คุณชายพุฒิภัทร จุฑาเทพ เตรียมเข้าพิธีวิวาห์กับนางสาวกรองแก้ว บุญมี นางสาวศรีสยามคนล่าสุด”
เหมือนฟ้าผ่าลงกลางวังเทวพรหม เทวพันธ์กับ วิไลรัมภาเดือดร้อน เพราะนั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายในวังต้องเหือดหายไปเกือบหมด ทั้งค่าน้ำค่าไฟค่าเล่าเรียนของวิไลรัมภา และค่าซ่อมแซมวังที่ชำรุดทรุดโทรม
“มารตีไม่ยอม ชีวิตมารตีต้องพังพินาศเพราะอีนังกรองแก้วคนเดียว!” มารตีแทบจะคลั่ง สวมแว่นใส่วิกอำพรางใบหน้า พกขวดน้ำกรดตรงไปที่บ้านเกษราทันที
เกษรากำลังช่วยแก้วลองชุดแต่งงาน เสร็จแล้ว แก้วออกไปเพื่อหาอะไรมาให้เกษรารองท้อง แต่พอออกไปก็เจอมารตีจ้องอย่างอาฆาตมาดร้าย เธอถอดแว่นถอดวิก คว้าขวดน้ำกรดออกมาขู่ไม่ให้แก้วร้อง ประกาศจะเอาทุกอย่างที่แก้วแย่งจากตนไปคืน แก้วตกใจ พยายามหว่านล้อมให้ใจเย็นๆ แต่มารตีเย็นไม่ได้แล้ว เธอตรงเข้ากระชากชุดแต่งงานของแก้วที่ติดลูกไม้เป็นระบายตรงชายกระโปรงขาดแควกๆ!
เมื่อมารตีคุกคามอย่างดุร้าย แก้วป้องกันตัวผลักมารตีออกพลางร้องขอความช่วยเหลือ มารตีไล่ตามแต่สะดุดลูกไม้ที่ตัวเองกระชากจากกระโปรงของแก้วพันเท้าสะดุดล้มลง ขวดน้ำกรดหกรดหน้าตัวเองอย่างจัง เธอเอามือกุมหน้ากรีดร้องอย่างเจ็บปวด แก้วพยายามจะเข้าไปช่วยก็ถูกผลักไส เมื่อเกษราวิ่งเข้ามาจะช่วยก็ถูกมารตีไล่ตะเพิดอีกคน
เมื่อพามารตีไปโรงพยาบาลแล้ว เธอเอาแต่คร่ำครวญที่ต้องเสียโฉม ไล่พยาบาลที่เข้ามาดูแลจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
“มารตี...พอแล้ว...นี่พี่เอง พี่ชายภัทรของเธอ...” ชายภัทรเข้ามาปลอบโยน มารตีจึงผ่อนคลายลงแต่เบือนหน้าหนีด้วยความอับอายใบหน้าเหวอะหวะของตน
“มารตี...เธอเป็นน้องพี่ พี่ไม่มีวันรังเกียจน้องสาวตัวเองหรอก ให้พี่ทำแผลให้เธอนะ พี่สัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด ให้มีริ้วรอยน้อยที่สุด ไว้ใจพี่นะ”
ระหว่างพักอยู่ที่โรงพยาบาล หมอยศวินที่เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับมารตี ในยามนี้ก็มาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ จนเมื่อเกษราเข้ามา ยศวินบอกมารตีที่เบือนหน้าไปทางอื่นว่า “คุณมารตี...ดูสิครับว่าใครมาเยี่ยม”
“พี่เองมารตี...เป็นยังไงบ้าง เธอไม่ต้องกังวลนะ คุณหมอบอกว่าดวงตาเธอไม่มีปัญหา จะกลับมามองเห็นได้ตามปกติ”
วิไลรัมภามาเห็นใบหน้าที่พันผ้าอยู่ถามอย่างกังวล ว่า ต่อไปจะทำอย่างไร เป็นพยาบาลหน้าผี คนไข้ไม่ตกใจแย่หรือ เลยถูกเกษราตำหนิว่าจะพูดให้ได้อะไรขึ้นมา วิไลรัมภาก็ยังเถียงว่าตนพูดความจริง เกษราจึงอบรมน้องว่า...
“เธอเลิกให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตาภายนอกเสียทีมันก็เป็นแค่เปลือกนอกที่ฉาบฉวย ไม่จีรังยั่งยืน คุณค่าที่แท้จริงอยู่ที่ข้างใน มองไม่เห็นด้วยตาแต่สัมผัสได้ด้วยใจ ก็คือความดี...ที่จะอยู่คงทน ไม่เสื่อมไปตามกาลเวลาเธอเข้าใจไหม”
ส่วนยศวินก็แสดงความเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของเธอ กุมมือเธอไว้ให้กำลังใจว่า ให้ปล่อยวางยอมรับความจริงและ “คุณต้องให้โอกาสตัวเองเริ่มต้นใหม่นะ มารตี”
แต่มือมารตีที่ยศวินกุมอยู่นั้น เกร็งแน่น สัมผัสนั้น ทำให้ยศวินรู้ว่า...เธอยังไม่สำนึก
ooooooo
พิธีแต่งงานของคุณชายหมอพุฒิภัทร จุฑาเทพ กับนางสาวกรองแก้ว บุญมี จัดอย่างยิ่งใหญ่สมกับฐานะของเจ้าสัวแห่งห้างหยกฟ้าและยศถาบรรดาศักดิ์ของวังจุฑาเทพ มีทั้งพิธีแบบจีนและไทย
แก้วแหวนเงินทองของหมั้นทั้งจากเจ้าสัวของ ตกทอดจากหม่อมหยก และจากวังจุฑาเทพ วางอยู่ในพานมากมายส่องประกายวูบวาบ เหลืองอร่าม แต่ก็ไม่ อาจเรียกความสนใจไปจากภาพแห่งความรักของคู่บ่าวสาวได้เลย
แต่ที่ขาดไม่ได้คือย่าอ่อน ที่มุ่งมั่นจะทำตามสัญญาของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายให้เป็นจริง เมื่อชายภัทรแต่งงานกับคนที่ไม่ใช่ “เทวพรหม” ไปแล้วจึงหันมอง คุณชายรัชชานนท์ หรือชายเล็ก น้องชายของคุณชายพุฒิภัทรเป็นคนต่อไป เมื่อเห็นชายเล็กร่าเริงกับความสุขของพี่ชายก็เอ่ยปราม
“เราน่ะ ไม่ต้องโม้ให้มากความเลย ในเมื่อชายภัทรกับแม่หม่อมหลวงมารตีมีอันต้องแคล้วคลาดไป เราก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบต่อไป”
ชายเล็กโยนกลองให้ชายพีร์ว่า เห็นชอบพออยู่กับวิไลรัมภา ชายพีร์พูดอย่างสยองว่า “เอามีดมาแทงเราให้ตายไปเลยดีกว่า” เลยถูกย่าอ่อนปรามว่าพูดอะไรให้เกรงใจเกษราบ้าง เกษราพูดอย่างน่าเห็นใจว่า
“โธ่...คุณย่าอ่อนขา เกษก็ไม่ทราบจะทำยังไง เวลานี้พวกที่วังเทวพรหม ก็พากันต่อต้านไม่ยอมพูดกับเกษหมดแล้ว”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ถ้าพวกหลานๆเราไม่ชอบลูกสาวคุณชายเทวพันธ์ก็ยังมีลูกสาวของชายอนุพันธ์อีกคน” ย่าอ่อนหมายถึงศินีนุช ลูกสาวของหม่อมหลวงอนุพันธ์กับดารณีนุชภรรยาคนที่สอง น้องสาวของชัชวีร์ลูกชายที่เกิดกับภรรยาคนแรก
งานนี้ นอกจากชายเล็กกับชายพีร์จะยินดีกับชายภัทรแล้ว ยังหนาวๆ ร้อนๆ กับการถูกหมายตาให้เป็นผู้รับช่วงสัญญาของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต่อไปด้วย โดยเฉพาะชายเล็กถูกระบุเป็นลำดับต่อไป
ชายใหญ่หรือคุณชายธราธร มองหน้าน้องชายขำๆแบบว่า... “กรรมแล้ว...ชายเล็ก”
ooooooo
เมื่อส่งตัวเข้าห้องหอแล้ว แก้วปรารภกับชายภัทรว่าแขกกลับไปหมดแล้วและพ่อก็กลับไปแล้วด้วย
“เราจะไปเยี่ยมท่าน...ทุกเวลาที่แก้วต้องการนะจ๊ะ” ชายภัทรพูดอย่างรู้ใจและใส่ใจ
แก้วเริ่มดูแลชายภัทรเยี่ยงภรรยาที่ดี ชายภัทรบอกให้พักเธอพูดอย่างมีความสุขว่า “ให้แก้วทำหน้าที่ได้แล้ว” ชายภัทรรั้งร่างเธอไปกอดอ้อนว่า
“หน้าที่ภรรยาหรือ...” ชายภัทรกระซิบข้างหูว่า “แค่นั้นยังไม่พอ คุณต้องเลี้ยงลูกให้ผมด้วย...สามคน” แก้วอุทานตกใจจะลุกหนี ชายภัทรรั้งไว้ กอดแน่น กระซิบอีกว่า “ขอบคุณนะ ที่เป็นภรรยาผม ทำให้ผมเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก”
“แก้วสิคะ ต้องขอบคุณคุณชาย ที่ทำให้แก้วเหมือนอยู่ในความฝัน ได้พบรักและแต่งงานกับเจ้าชายที่สูงศักดิ์...แก้วไม่เคยคิดว่าวันนี้จะเกิดขึ้นจริงๆด้วยซ้ำ”
“ขนาดนั้นเลยหรือ ถ้างั้นก็ได้เวลาแล้วสิ...เวลาที่เจ้าชายจะจุมพิตเจ้าหญิงแสนสวย...”
ชายภัทรโน้มหน้าเข้าหาแววตาระริกตื่นเต้น... แก้วในวงแขนชายภัทรหลับตาพริ้มรอรับจุมพิตอย่างมีความสุข...
ooooooo
จบสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายพุฒิภัทร