icon member

เพลิงพระนาง

ตอนที่ 22

ในที่สุดม่านฟ้าก็รู้ความจริงจากเสกขรกับริมบึงว่าเมื่อคืนเกิดอาเพศและยอดพุ่มหายไป รวมทั้งมีคนอีกนับร้อยที่ต้องสังเวยโทสะของพระมหาเทวีเจ้า ทำให้ม่านฟ้ายิ่งชิงชังปิ่นมณีมากขึ้น

ผ่านไปแค่สองวัน ศพนับร้อยที่ถูกฝังดินก็เริ่มขึ้นอืดและส่งกลิ่นเหม็น บัวไหลมาเล่าให้ปิ่นมณีฟังด้วยท่าทีขยะแขยงขนลุกขนพอง

“หลุมศพมันอืดขึ้นมาจนดินที่กลบไว้มันโป่ง ดินที่นั่นมันเปียกชื้น น้ำเหลืองมันดันดินขึ้นมาจนโป่ง แค่เดินผ่านยังเหม็นแทบขาดใจ”

“แล้วจะทำอย่างใดวะ ข้าบอกแล้วใช่หรือไม่ว่าให้เอาไปทิ้งน้ำ”

“ทิ้งศพลงน้ำไปบางส่วนแล้วเจ้าค่ะ”

“คืนนี้บอกขุนเวียงให้เอาช้างไปเหยียบ ดินมันจะได้ยุบไป แล้วก็เกณฑ์คนที่ไว้ใจได้เอาดินไปกลบมันเสีย น้ำเลือดน้ำหนองที่เจ้าว่ามันจะได้ฝังอยู่ในดิน”

บัวไหลรับคำตัวสั่นงันงก เวลาเดียวกันอนัญทิพย์เป็นห่วงเรณุมาศที่กำลังท้องไส้ เกรงจะถูกปิ่นมณีข่มเหงจึงบอกให้นางกลับมาอยู่ด้วยกันที่คุ้ม แต่เรณุมาศปฏิเสธ เพราะการอยู่คุ้มหลวงตนยังรู้เห็นว่าปิ่นมณีทำการใดบ้าง แม้นางจะไม่เชื่อตน แต่ตนก็ยังพอทัดทานนางได้บ้าง

เมื่อรู้แน่แก่ใจว่าแม่ของตนหายไป ม่านฟ้าสั่งทหารค้นหาและเกือบจะไปเจอหลุมฝังศพ ถ้าปิ่นมณีไม่ใช้ให้บัวไหลมาตามเขาเสียก่อน อ้างว่าตนล้มป่วยอาการน่าเป็นห่วง

ฝ่ายอนัญทิพย์เดินทางไปวัดหลวงเพื่อพบเมืองคุ้มที่ปฏิบัติธรรมอยู่กับทองพญาเพื่อสะเดาะเคราะห์ให้สำเภางาม อนัญทิพย์มีปากเสียงกับริมบึงที่คอยดูแลคนทั้งสอง ทำให้เมืองคุ้มรู้ว่ายอดพุ่มหายไปและคนที่น่าสงสัยก็คืออนัญทิพย์นั่นเอง

เมืองคุ้มสั่งแสงตาไปช่วยขุนแสงเมืองกับขุนห่มฟ้าค้นหายอดพุ่ม ถ้าไม่เจอตัวเจอซากศพก็ยังดี...ทางด้านกลุ่มของคะนองที่ออกไปรับศึกพวกดั้งขอ สองฝ่ายเกิดการปะทะกันมีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก แต่ที่ทำให้คะนองแปลกใจก็คือมีศพเจ้านายที่เป็นคนเมืองทิพย์ลอยน้ำมา

คะนองรู้สึกไม่ชอบมาพากล จึงให้ปะแดงกับครองภพคุมทหารไปรอที่ชายป่าทางเข้าเมืองมีด ส่วนตัวเองจะไปขอความช่วยเหลือจากเมืองท่าคอยของเจ้าน้อยอินทากับเจ้านางมณีหยาด

ooooooo

ปิ่นมณีเพิ่งรู้ว่าตนเองท้อง นางดีใจมาก แต่ม่านฟ้ากลับวางเฉยเพราะหมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องยอดพุ่มที่ป่านนี้ยังไม่เจอแม้แต่ศพ

เมื่อนางเรียกร้องความสนใจ ทำให้ม่านฟ้าหงุดหงิด พูดโดยไม่มองหน้า “เพลานี้ข้าหาใส่ใจเรื่องอื่นไม่ ข้าต้องการพบแม่ข้า”

“ข้าท้อง เจ้าพี่ไม่ใส่ใจข้าเลยรึ ผิดจากอีเรณุมาศ นั่งกุมมือเป็นห่วงมัน”

“คิดว่าข้าโง่หรือปิ่นมณี คิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าทำอันใดลงไป บอกข้ามาว่าศพแม่ข้าอยู่ที่ใด”

“มิต้องเฉไฉรับสั่งเรื่องอื่นดอกเจ้าพี่...ไม่รักข้าก็บอกมาตรงๆ เจ้านางยอดพุ่มอยู่ที่ใด ข้าจะรู้ได้อย่างใด ข้าไม่ได้มีหน้าที่นั่งเฝ้าเจ้าแม่ของเจ้าพี่นี่”

“พอเถิดปิ่นมณี เจ้ายิ่งพูด พี่ก็ยิ่งรังเกียจเจ้า”

“รังเกียจรึ...ถ้าเช่นนั้นก็ทรงฟังให้ดีนะเจ้าคะ ข้าจะไม่ยอมให้ลูกอีเรณุมาศมันได้ออกมาดูโลกดอก”

“กรรมเวรอันใดของข้าที่ต้องมาร่วมหอกับคนใจยักษ์ใจมารเยี่ยงเจ้า” ม่านฟ้าตะคอกอย่างสุดทน ปิ่นมณีโกรธจัดจนตัวเนื้อสั่น และไม่พ้นพาลไปอาฆาตแค้นเรณุมาศ

ooooooo

คะนองไปถึงเมืองท่าคอยและได้รับความช่วยเหลือจากน้อยอินทาเป็นอย่างดี ไม่ช้าไม่นานทหารของน้อยอินทาที่ถูกส่งไปสอดแนมยังเมืองทิพย์ก็กลับมาบอกว่าเห็นทหารนำศพมาทิ้งแม่น้ำจำนวนมาก คนที่ตายส่วนใหญ่เป็นเชื้อเครือของเจ้าหลวงพระองค์เก่า

“แล้วได้ข่าวเจ้านางยอดพุ่มหรือไม่”

“สิ้นพระชนม์แล้วพระเจ้าข้า แต่หาพระศพไม่พบพระเจ้าข้า”

มณีหยาดได้ฟังถึงกับน้ำตาร่วงพรู สงสารยอดพุ่มจับใจ ขณะที่น้อยอินทาเป็นห่วงม่านฟ้า รับปากคะนองว่าจะหาทางช่วยเมืองทิพย์อย่างแน่นอน

“แต่เพลานี้เจ้าครองภพกับปะแดงลูกข้ากำลังยกพลไปเมืองมีด พวกดั้งขอใช้เป็นที่มั่นบุกรุกต่อตีเมืองทิพย์ ข้าจำต้องกราบลาเจ้าหลวงไปยังเมืองมีด”

“ขอเพลาอีกไม่กี่วันดอก ข้าจะเกณฑ์พลและรวบรวมอาวุธมีปืนไฟที่ข้าซื้อจากเรือสินค้าอยู่หลายกระบอก บางทีข้าจะร่วมทัพกับท่านด้วย”

“เป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งพระเจ้าข้า”

“เจ้าหลวงเมืองคุ้มเคยเสี่ยงตายช่วยข้า ทำให้ข้าได้ดีมียศเป็นเจ้าหลวงเมืองท่าคอย มีหรือที่ข้าจะไม่ตอบแทนเมืองทิพย์”

คะนองรู้สึกเต็มตื้น ทรุดตัวลงพนมมือไหว้น้อยอินทาอย่างสุดซาบซึ้ง

ooooooo

ความวุ่นวายภายในเมืองทิพย์ทำให้เมืองคุ้มยุติการปฏิบัติธรรมเพื่อกลับเข้าเมือง แต่ทองพญายังคงขอเวลาอีกสักระยะ สบายใจแล้วจะกลับไปอยู่กับเสกขร เหมือนเดิม

ก่อนกลับออกมา ตนบุญตรวจกรรมให้เมืองคุ้มแล้วพบว่าเขาติดบนไว้ที่พระธาตุเจ้ากลางป่า

“เป็นความสัตย์จริง...ข้าอธิษฐานกับเทวดาที่รักษาพระธาตุเจ้ากลางป่าว่าหากได้เป็นเจ้าหลวงจะไปทำนุบำรุงสร้างสมเนื้อนาบุญพระพุทธศาสนา แต่ก็หามีโอกาสได้ไปไม่”

เสกขรฟังอยู่ด้วย สีหน้าซีดเจื่อนด้วยความไม่สบายใจ...

ด้านปิ่นมณี หลังจากม่านฟ้าพูดชัดว่าไม่ได้รักและไม่มีท่าทีสนใจแม้ว่านางกำลังมีลูก นางวางแผนทำให้เรณุมาศตกเลือดจนแท้งลูก ม่านฟ้าตกใจมากสั่งบัวไหลรีบไปตามหมอหลวง ส่วนตัวเองสวมกอดเรณุมาศด้วยความเป็นห่วง พลางตวัดสายตามาที่ปิ่นมณีอย่างชิงชังรังเกียจ และนึกถึงถ้อยคำของนางที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า

“ข้าจะไม่ยอมให้ลูกอีเรณุมาศมันได้ออกมาดูโลกดอก”

คิดแล้วม่านฟ้าทนไม่ไหว พูดโพล่งขึ้นอย่างคับแค้น “คนใจยักษ์”

ปิ่นมณีสะอึก แต่ก็ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน “ใช่...ข้าใจยักษ์ แล้วผู้ใดเล่าที่ทำให้ข้าเป็นเยี่ยงนี้ หากไม่ใช่เจ้าพี่ ข้าบอกเจ้าพี่แล้วใช่หรือไม่ เมื่อเจ้าพี่ไม่รักข้า เจ้าพี่ก็ไม่มีวันสมหวังในความรักกับหญิงอื่น”

เวลาเดียวกันนั้นบัวไหลวิ่งหน้าตื่นไปตามหมอหลวง เกือบชนกับเก็ตถวาและแก้วอากาศ แล้วหลุดปากบอกว่าเรณุมาศแท้งลูก สองเจ้านางจึงรีบคาบข่าวนี้ไปบอกอนัญทิพย์

อนัญทิพย์ตกใจรีบมาดูอาการเรณุมาศ ส่วน

ปิ่นมณีร้อนรนอยู่นอกห้อง ถามบัวไหลว่าใครคาบข่าวไปบอกเจ้าแม่

“คงเป็นเจ้านางแก้วอากาศกับเจ้านางเก็ตถวาน่ะเจ้าค่ะ ข้าเจ้าพบเจ้านางระหว่างทางไปตามหมอหลวง”

“แส่การของผู้อื่นตั้งแต่สาวยันแก่...เออ แล้วหมอหลวงว่าอย่างใดบ้าง”

“เจ้านางเรณุมาศจะมีลูกอีกไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ”

ปิ่นมณียิ้มพอใจ ถามบัวไหลว่าไปหายาจากไหนมาถึงได้วิเศษเยี่ยงนี้

“พ่อค้าเรือเร่เจ้าค่ะ มีสมุนไพรแปลกๆ ข้าเจ้าชอบไปดู”

อนัญทิพย์ก้าวออกมาจากห้องเรณุมาศ ได้ยินถนัดชัดเจน ปราดไปตบหน้าบัวไหลจนล้มกลิ้งแล้วหันมาตวาดปิ่นมณีเสียงกร้าว

“เจ้าไม่เคยเสียลูกเยี่ยงแม่ ไม่รู้ดอกว่าหัวอกคนเป็นแม่มันเป็นอย่างใด...นี่ถ้าพี่เจ้าไม่ตายก็คงได้เป็นเจ้าหลวงแล้ว เจ้าก็คงไม่ได้ยกขึ้นมาเป็นมหาเทวีเจ้าเยี่ยงนี้ดอก แม่ผิดหวังในตัวเจ้าจริงๆ ปิ่นมณี”

“เจ้าแม่เคยบอกข้า เคยสอนข้ามิใช่รึว่าหากเป็นศัตรู กับผู้ใดก็ต้องทำให้มันไม่มีโอกาสโงหัวมาต่อตีกับเราได้”

“แต่ไม่ใช่น้อง”

“สำหรับข้า อีเรณุมาศมันเป็นศัตรูเจ้าค่ะ เจ้าพี่ม่านฟ้ารักมันมากกว่าข้า ลูกมันก็ออกมาดูโลกก่อนข้า หากลูกมันเป็นชาย ลูกข้าจะได้นั่งตั่งทองรึ ข้าไม่ได้ใจดีเยี่ยงเจ้าแม่ ปล่อยให้อีเสกขรยังลอยหน้าได้ดีมียศบนเสลี่ยงหลวง เป็นเข็มทิ่มแทงใจเจ้าแม่มาจนทุกวันนี้ ข้าพูดผิดหรือไม่ เจ้าแม่ก็ตรองดูเองเถิด”

ปิ่นมณีไม่สะท้านต่อความผิด ยอกย้อนแม่แล้วเดินหนี ทิ้งให้อนัญทิพย์ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น ส่วนภายในห้อง ม่านฟ้ากอดปลอบเรณุมาศที่เอาแต่ร้องไห้ รำพันว่าตนมีลูกให้เขาไม่ได้อีกแล้ว แต่ม่านฟ้าไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้น ยืนยันว่าถึงเรณุมาศไม่มีลูก ก็ไม่ได้หมายว่าตนจะรักนางน้อยลง

ooooooo

ตอง​นวล​กับ​ตอง​แป​ง​หนี​ไป​เมือง​มีด แต่​เมื่อ​เห็น​ว่า​เมือง​ทิพย์​นั้น​ขุนนาง​และ​นักรบ​ตาย​ใน​ครั้งสมโภช​พระนคร​จำนวน​มาก ตอง​นวล​เชื่อ​ว่า​เมือง​ทิพย์หมด​พิษสง​แล้ว​จึง​ขอ​ให้​นาย​ฮา​ส​นำ​ตน​กับ​ลูก​กลับ​เมืองทิพย์

เมื่อ​มา​ถึง​นาย​ฮา​ส​วางอำนาจ​ข่มขู่​ม่าน​ฟ้า​ให้​ตั้ง​ตอง​แป​ง​เป็น​อุปราช​หอ​หน้า​และ​คืน​ยศ​ศักดิ์​ให้​ตอง​นวล ทำให้​สอง​แม่​ลูก​สะใจ​กัน​มาก โดย​ไม่​รู้​ว่า​ครอง​ภพ ปะแดง คะนอง และ​พวก​เมืองท่า​คอย​สมคบ​กัน​ตี​เมือง​มีด​จน​แตก​พ่าย​ใน​เวลา​รวดเร็ว เจ้าฟ้า​เมือง​มีด​ตาย แต่​คะนอง​กับ​ปะ​แดง​ก็​ตาย​ใน​ศึก​ครานั้น​ด้วย

เรือน​แก้ว​ลูก​สาว​ของ​ท้าว​วง​ษา​ได้​เข้า​มา​เป็น​ข้าไท​รับ​ใช้​ปิ่น​มณี​ใน​ยาม​ท้อง​ไส้ ส่วน​บัว​ไหล​ได้​กลับ​ไป​รับใช้​อนัญ​ทิพย์​ดัง​เดิม แต่​อยู่​ได้​ไม่​นาน​เรือน​แก้ว​ก็​ออกลายยั่วยวน​ม่าน​ฟ้า​จน​ได้เสียกัน​สม​ดัง​ใจ​ท้าว​วง​ษา​ที่​มักใหญ่​ใฝ่สูง

ปิ่น​มณี​ไม่​ระแคะระคาย ยัง​คง​วุ่นวาย​อยู่​กับการ​กำจัด​ศัตรู​เพื่อ​ให้​ตน​เอง​ได้​นั่ง​เมือง​แทน​ม่าน​ฟ้า​เสีย​เอง เพราะ​เขา​อ่อนแอ​เกิน​กว่า​จะ​กำจัด​ตอง​นวล​กับ​ลูก​ที่​ทำให้​พวก​ดั้ง​ขอ​เข้า​มา​วางอำนาจ​บาตร​ใหญ่​ใน​เมือง​ทิพย์

ปิ่น​มณี​กล่อม​อนัญ​ทิพย์​ได้​สำเร็จ​ว่า​ต้อง​แก้แค้น​เสก​ขร เพราะ​นาง​คือ​ตัวการ​ที่​ทำให้​แม่​หมด​สิ้น​ทุก​อย่าง อนัญ​ทิพย์​คล้อย​ตาม​ลูก แสร้ง​ทำ​เป็น​ทุกข์​ทน​จน​เสกขร​เห็นใจ เป็น​ช่วง​เดียว​กับ​ที่​เมือง​คุ้ม​ไม่สบาย​ใจ​เพราะ​ติด​บนบาน​ไว้​ที่​พระธาตุ​กลาง​ป่า

ความ​เสียใจ​ทำให้​เมือง​คุ้ม​ล้มเจ็บ เสก​ขร​จึง​อาสา​ไป​ใช้​บน​แทน ด้วย​หวัง​ว่า​ใช้​บน​แล้ว​เทพยดา​จะ​ปัดเป่า​โรค​ภัย​ไข้​เจ็บ​และ​อุปสรรค​ทั้งปวง​ให้​เมือง​คุ้ม​และ​ทุกคนใน​เมือง​ทิพย์

อนัญ​ทิพย์​สบ​โอกาส​ทันที ขอ​ไป​กับ​เสก​ขร​ด้วย แม้​ว่า​สำเภา​งาม​กับ​ริม​บึง​จะ​ทัดทาน​แต่​เสก​ขร​ก็​ยืนยัน​เดินทาง​ไป​กับ​อนัญ​ทิพย์

ด้าน​พวก​ครอง​ภพ​ที่​ยึดครอง​เมือง​มีด​ไว้​แล้ว ครองภพ​ตั้งตัว​เป็น​เจ้า​หลวง​และ​ทำ​กล​ศึก​แสร้ง​ส่ง​จดหมาย​จาก​เมือง​มีด​ไป​ยัง​เมือง​ทิพย์​ว่า​เจ้าฟ้า​ประชวร​หนัก​และ​ขอ​ให้​ตอง​แป​ง​มา​ครอง​เมือง ตอง​นวล​หลง​เชื่อ​จึง​ส่งตองแปง​ไป​กับ​นาย​ฮา​ส ส่วน​ตน​ขอ​อยู่​เมือง​ทิพย์​ขวาง​ทาง​พวก​ที่​ตั้งตัว​เป็น​ศัตรู

ooooooo

เสก​ข​รอ​อก​เดินทาง​ไป​กับ​อนัญ​ทิพย์​ด้วย​รถ​ม้า โดย​มี​ท้าว​วง​ษา​และ​ทหาร​ของ​เขา​ไม่​กี่​คน​ติดตาม​คอย​คุ้มกัน

ระหว่าง​ทาง​ขบวน​หยุด​พัก อนัญ​ทิพย์​ให้​เสกขร​ดื่ม​น้ำ​ผสม​ยา​พิษ พอ​รถ​ม้า​วิ่ง​ไป​อีก​สัก​พัก ​เสก​ขร​ก็​มี​อาการ​ง่วง​งุน สายตา​พร่า​พราย

“ยา​เริ่ม​สำแดง​แล้ว​สิ”

“ยา? เจ้า​หมายความ​ว่า​อย่าง​ใด”

“ที่​พัก​กลาง​ป่า​เมื่อ​ครู่ ข้า​ให้​เจ้า​กิน​น้ำ จำ​ได้​ไหม”

เสก​ขร​หน้าเสีย อนัญ​ทิพย์​ยิ้ม​สะใจ พูด​อย่าง​เลือดเย็น​ว่า

“อีก​ไม่​นาน​เจ้า​ก็​จะ​หลับ แล้ว​ข้า​ก็​จะ​ผลัก​เจ้า​ลง​ไป​ข้าง​ทาง ไม่​เจ็บ ไม่​ปวด ข้า​เมตตา​เจ้า​นัก...เมื่อเทียบ​กับ​ที่​เจ้า​กับ​พี่​ของ​เจ้า​แย่ง​ชิง​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​ไป​จาก​ข้า”

“ข้า​น่า​จะ​เชื่อ​คำ​เตือน​ของ​พระ​พันปี​กับ​ริม​บึง”

“ไม่​ต้อง​พูด​อะไร​แล้ว คน​โง่​ก็​ต้อง​เป็น​เหยื่อ​ของ​คน​ฉลาด เชิญ​ไป​เทศนา​อวด​คุณ​ความ​ดี​ของ​เจ้า​ใน​นรก​เถิด​เสก​ขร”

“เจ้า​ทิพย์...เจ้า​หนี​กรรม​ไม่​พ้น​ดอก”

“กรรม​เหรอ” พูด​ขาดคำ อนัญ​ทิพย์​เปิด​ประตู​รถ​ม้า​แล้ว​ผลัก​เสก​ข​รก​ลิ้ง​ไป​ตาม​ทาง...

ค่ำ​แล้วแต่​ยัง​ไร้​วี่แวว​ของ​เสก​ขร​กับ​อนัญ​ทิพย์ พวก​เมือง​คุ้ม​ออก​มา​รอ​หน้า​ประตู​เมือง​ต่าง​พา​กัน​กระสับ กระส่าย​ด้วย​ความ​เป็น​ห่วง​เสก​ขร

ทุก​คน​อด​คิด​ไป​ใน​ทาง​ร้าย​ไม่ได้ เพราะ​รู้​ซึ้ง​ถึง​ความ​ร้ายกาจ​ขอ​งอ​นัญ​ทิพย์ ริม​บึง​เคียดแค้น​ถึง​กับประกาศ​ว่า ถ้า​เสก​ขร​เป็น​อะไร​ไป​ตน​จะ​ฆ่า​คน​หนัก​แผ่นดิน​อย่า​งอ​นัญ​ทิพย์​ให้​จง​ได้ ส่วน​เมือง​คุ้ม​เศร้า​หมอง บ่น​ว่า​ตน​คง​ทำกรรม​ไว้​มาก ทั้ง​ลูก​ทั้ง​เมีย​จาก​ตน​ไป​หมด...

ooooooo

พวก​นาย​ฮา​ส​กับ​ตอง​แป​ง​ยัง​อยู่​ใน​ระหว่าง​การ​เดินทาง​กลับ​เมือง​มีด หลังจาก​ได้​รับ​ข่าวสาร​ว่า​เจ้าฟ้า​เมือง​มีด​ประชวร​หนัก

การ​เดินทาง​ครั้ง​นี้​ทำให้​นาย​ฮา​ส​รู้เห็น​ว่า​มี​ผู้​บุกรุก​ทำลาย​ค่าย​เก็บ​สมบัติ​ของ​ตน จึง​สั่ง​ทหาร​ออก​ตรวจตรา​และ​จับ​พวก​มัน​มา​ให้​ได้ ตอง​แป​ง​โวยวาย​เพราะ​ต้องการไป​ถึง​เมือง​มีด​ให้​เร็ว​ที่สุด แต่​ทำ​มา​ทำ​ไป​ตอง​แป​ง​ถูก​ขุนห่มฟ้า​กับ​ขุน​แสง​เมือง​รวบ​ตัว​แยก​จาก​พวก​นาย​ฮา​ส​มา​ได้ แล้ว​จะ​นำ​กลับ​เมือง​มีด แต่​คาด​ไม่​ถึง​ว่า​จะ​เจอ​เสก​ข​รน​อน​หายใจ​รวยริน​อยู่​ข้าง​ทาง

“พระนางเจ้า​เสก​ขร​เทวี...ไย​จึง​มา​อยู่​ที่​นี่”

“ยัง​มี​พระชนม์​ชีพ​อยู่”

ตอง​แป​ง​ได้ยิน​ชื่อ​เสก​ขร​ก็​หน้าซีด​ด้วย​ความ​ตกใจ

ขุน​ห่ม​ฟ้า​สั่ง​ทหาร​ให้​ตัด​ไม้​ไผ่​ต่อ​แพ​ให้​เร็ว​ที่สุด ก่อน​ตะวัน​ขึ้น​ตน​จะ​นำ​ร่าง​ของ​พระนางเจ้า​กลับ​ไป​ยัง​เมือง​มีด ส่วน​ขุน​แสง​เมือง​อาสา​เอา​ตัว​ตอง​แป​ง​ไป​เอง คาด​ว่า​น่า​จะ​ถึง​เวลา​ใกล้​เคียง​กัน...

ถึง​เมือง​มีด​ใน​เช้า​วัน​ถัด​มา ตอง​แป​ง​ดิ้นรน​ขัดขืน โวยวาย​จะ​ฟ้อง​เจ้า​ตา​ของ​ตน พอ​เข้า​มา​ใน​หอ​คำ​เห็นครองภพ​นั่ง​บน​ตั่ง​ทอง​ก็​ตะลึง​ด้วย​ความ​โมโห

“ไอ้​ครอง​ภพ มึง​ลง​มา​จาก​ตั่ง​ทอง​ของ​ตา​กู​บัดเดี๋ยวนี้ เจ้าฟ้า​เมือง​มีด​ตา​กู​อยู่​ที่​ใด พวก​มึง​บอก​มานะ”

“หา​ต้อง​รู้​ไม่ เอา​ตัว​ไอ้​ตอง​แป​ง​ไป​จำ​ตรุ ุสร้างตรุไม้

แข็ง​แรง​ตั้ง​ไว้​กลางเมือง หาก​ไอ้​ตอง​แป​ง​มัน​ไม่​ยอม​รับ​การ​เป็น​เจ้า​หลวง​ของ​ข้า ก็​จับ​มัน​ใส่​ตรุ​แล้วไป​ตั้ง​ไว้กลางเมือง”

“ไม่...กู​ไม่​อยาก​ถูก​แดด​เผา”

“แดด​ไม่​เผา​อย่าง​เดียว แต่​ข้า​จะ​ให้​ไพร่​ราบ คนเข็ญใจ ยาจก เรียง​แถว​มา​ถ่ม​น้ำลาย​ใส่​หน้า​เจ้า​ทั้ง​วัน​ทั้ง​คืน”

ตอง​แป​ง​หน้าเสีย ฮึดฮัด​อยู่​ไป​มา แต่​ไม่​หลุดพ้น​การ​ควบคุม​ของ​ขุน​แสง​เมือง

หลังจาก​จัดการ​กับ​ตอง​แป​ง​แล้ว ครอง​ภพ​ตาม​ขุน​ทหาร​ของ​ตน​ไป​ดู​อาการ​เสก​ขร​ที่​หมอ​หลวง​กำลังเยียวยา​รักษา หมอบ​อก​ว่า​พระนางเจ้า​ถูก​วางยา​พิษ ทำให้ไม่รู้สติ และ​ถูก​กระทบ​ด้วย​ของแข็ง​ทำให้​บอบช้ำ​ไป​ทั่ว​ร่างกาย

“แล้ว​เจ้า​จะ​ถวาย​การ​รักษา​พระนางเจ้า​อย่าง​ใด”

“ข้า​พระบาท​ให้​พระนางเจ้า​เสวยพระโอสถ​แก้พิษ​แล้ว​พระเจ้า​ข้า”

ครอง​ภพ​เบาใจ แต่​ยัง​ไม่​รู้​ที่มา​ที่​ไป​ว่า​เหตุ​ใดเสก​ขร​เกือบ​เอาชีวิต​มา​ทิ้ง​กลาง​ป่า

ooooooo

ทอง​พญา​ร้อน​ใจ​เป็น​ห่วง​แม่ จึง​หารือ​ตน​บุญให้​ตรวจ​ดวง​ชะตา​ก่อน​จะ​พบ​ว่า​ดวง​ของ​แม่​ต้องพลัดพราก​จาก​ที่​อยู่​เป็น​การ​ชั่วคราว

“เท่านั้น​หรือ​ตน​บุญ อย่า​ปิดบัง​อัน​ใด​ข้า”

“เท่า​นี้...หา​ต้อง​หวั่น​พระทัย​ดอก คน​ดี​เยี่ยง​เจ้า​นาง​หลวง ​ตก​น้ำ​ไม่​ไหล ตก​ไฟ​ไม่​ไหม้”

“แต่​ก็​หาย​ไป​จาก​แผ่นดิน” เสียง​ผู้​ไม่ได้​รับ​เชิญ​ดัง​ขึ้น

ปิ่น​มณี​นั่นเอง มา​พร้อม​เรือน​แก้ว​กับ​บัว​ไหล และ​มี​ข้าไท​ถือ​โตก​อาหาร​มา​ด้วย

ทอง​พญา​ประ​หลา​ด​ใจ มอง​หน้า​ปิ่น​มณี​แล้วดักคอว่า

“ร้อย​วัน​พันปี เจ้า​หา​เคย​มา​วัด​ไม่”

“ก็​วัน​นี้​ข้า​นึก​อยาก​ทำบุญ​ให้...ให้​แก่​ผู้​ใด​ดี​วะ​บัวไหล”

“ผี​ป่า​ผี​ไพร ผี​ไม่​มี​ญาติ ผี​ตายโหง ผี​พวก​นี้​ชอบ​คุ้มครอง​คน​ดีๆ มัน​ก็​เลย​เอา​คน​ดี​ไป​อยู่​ด้วย”

“อย่า​ลืม​อุทิศ​บุญ​ให้​แก่​ผี​เปรต​ที่​มัน​สิง​ใจ​พวก​เจ้า​ด้วย ที่​ข้า​ยอม​เจ้า​มา​ตลอด​ก็​เพราะ​เห็นแก่​ความ​สงบ​สุข​ของ​เมือง​ทิพย์ ไม่​ต้องการ​ทำลายขวัญ​ของ​ราษฎร แต่​เมื่อ​พวก​เจ้า​ทำร้าย​แม่​ข้า ต่อ​ไป​นี้​ข้า​จะ​ไม่​ยอม​พวกเจ้า​อีก​ต่อ​ไป”

ปิ่น​มณี​ไม่​สะทกสะท้าน วางท่า​เหนือ​กว่า ทองพญา​หัน​ไป​บอก​ตน​บุญ​ว่า

“ข้า​จะ​สึก...และ​จะ​ใช้​อำนาจ​ของ​พระนาง​หน่อ​เจ้า​หลวง​จัดการ​กับ​ปัญหา​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​คุ้ม​หลวง”

เวลา​เดียวกัน เมือง​คุ้ม​นอน​ซม​ซึม​เศร้า​อยู่​ใน​คุ้ม ริม​บึง​คะยั้นคะยอ​ให้​กิน​อาหาร​ก็​ปฏิเสธ

“ข้า​กิน​ไม่​ลง​ดอก ออก​ไป​ให้​หมด ข้า​อยาก​อยู่คนเดียว”

ริม​บึง​น้ำตา​ร่วง สงสาร​เมือง​คุ้ม​จับใจ ร่าง​สะเทือนไหว​ด้วย​แรง​สะอื้น

เมือง​คุ้ม​ยาก​ทำใจ หาก​เสก​ขร​สูญหาย​ไม่​กลับ​มา ค่อยๆเบือน​หน้า​ซ่อน​น้ำตา​ที่​ซึม​ออก​มา กล่าวโทษ​ตัวเอง​ด้วย​น้ำเสียง​ไม่​สู้​ดี

“ข้า​ปกป้อง​ไม่ได้​แม้​กระทั่ง​ลูก​เมีย ข้า​ไม่​ควร​มี​ชีวิต​อยู่”

“เจ้า​พี่...ไม่​นะ​เจ้า​คะ” ริม​บึง​สะเทือนใจ น้ำตา​ไหล​พราก...

ooooooo

เพลิงพระนาง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด