เรื่องย่อละคร
ในปี พุทธศักราช 2481 ในทัณฑสถานเกาะตะรุเตา นายทองนอก นักโทษทางการเมือง ถูกส่งมาจากเรือนจำกลางบางขวาง ด้วยภาวะสงคราม คุกแห่งนี้จึงถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ทั้งข่าวสาร อาหาร ยารักษาโรค ผู้คุมเริ่มใจคด ฉ้อราษฎร์ นักโทษเริ่มเข่นฆ่ากัน เพราะความหิวโหย ยาเสพติดระบาด ด้วยสถานการณ์อันกดดัน หัวโจกใหญ่ของนักโทษ เริ่มอาลาะวาดและทารุณกรรมนักโทษรายอื่นๆ ความทรมานบนเกาะนรกนี้ ฉีกทึ้งร่างกายและวิญญาณของทองนอกออกเป็นเสี่ยงๆ และต่อมาไม่นานโรคร้ายมาลาเรีย ก็มาปลิดชีวิตของเค้าจากโลกใบนี้ไป ก่อนวาระสุดท้ายในชีวิต เค้าพร่ำเพ้อถึงเมียและลูกและชีวิตอันแสนสุขสบายที่ถูกพรากไปอย่างไม่มีวันกลับ พร้อมกับลมหายใจสุดท้ายได้ดับสิ้นลง และนี่คือจุดเริ่มต้นของการฆาตกรรมต่อเนื่อง ที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ซึ่งเกิดขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในพุทธศักราช 2486 ท่ามกลางไฟมหาสงครามเอเชียบูรพา ที่กำลังปะทุ พ.ต.ท.เวทางค์ ภิรมย์รุจ สารวัตรหนุ่มแห่งกองตำรวจสอบสวนกลาง ได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรมอันสุดแสนสะเทือนขวัญ บนร่างกายคน 5 คน ปราฏรอยสักปริศนา 5 คำที่บริเวณเหนือหน้าผาก ข้อมือ และข้อเท้าของผู้ตายอันเป็นจุดเริ่มต้น ของคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่พิลึกพิลั่นไปทั่วพระนคร ...
เริ่มด้วย
คดีที่ ๑ “เด็กหญิงวาด”
เรื่องย่อ : ที่เกิดเหตุ แถววังหลัง ศิริราช โดยพบศพเด็กหญิงในบ้านพักย่าน ซึ่งอยู่ในตรอกศาลาต้นจันทร์ ย่านวัดระฆังโฆษิตาราม ถูกวางยาและทุบหัว สภาพศพถูกทุบกะโหลกจนแตก แม่เลี้ยงของผู้ตายคือนางเรือน (แอริน ยุกตะทัต) ให้การว่าน่าจะเป็นฝีมือโจร แต่การสืบสวนเบื้องต้นกลับพบว่า สภาพการตายของเด็กไม่แปลกเท่ากับรอยสักที่อยู่บนตัวเด็ก 5 จุด คือหน้าผาก ข้อมือและข้อเท้าทั้งสองข้างของผู้ตาย ปรากฏเป็นคำปริศนา 5 คำ คือคำว่า เหย้า,เจ้า,แพะ,ทิ้ง,พงส์ เมื่อทำการสืบสวนต่อไป จึงพบว่า เป็นฝีมือของนักการภารโรงที่ชื่อนายกล้า (โอ อนุชิต) ซึ่งให้นายสำรวยไปหลอกนายฉมว่า ซึ่งติดพนันก็ให้พาลูกไปสัก ต่อมาก็ให้ใช้หินทุบหัวลูกจนตาย
นักแสดง: พ.ต.ท. เวทางค์ ภิรมย์รุจ เวท แสดงโดย ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์, วาด แสดงโดย ด.ญ.กุลฑีรา ยอดช่าง , นายฉม แสดงโดย ภูธเนศ หงษ์มานพ, นางเรือน แสดงโดย แอริน ยุกตะทัต , นางชะลอ แสดงโดย อริศรา วงษ์ชาลี , นางนภา แสดงโดย ราศี วัชราพลเมฆ , หมอสมิต แสดงโดย วาโย อัศวรุ่งเรือง
คดีที่ ๒ พระมหาสุชีพ
เรื่องย่อ : หลังจากจับตัวคนร้ายคือนายฉม พ่อของเด็กหญิงจันทร์วาดที่ฆ่าลูกเพราะสงสาร ไม่อยากให้ลูก 8 ขวบต้องไปขายตัวในซ่อง ดูเหมือนคดีน่าจะจบลงได้ แต่จริงๆแล้วคือไม่ เพราะมีอีกคดีโผล่ขึ้นมา “คดีพระมหาสุชีพ” คราวนี้เกิดขึ้นที่ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร หรือที่เรียกกันว่าวัดประยูร คราวนี้เป็นคดีลักทรัพย์ถึงไม่ร้ายแรงจนมีคนตาย แต่เป็นเรื่องประหลาดๆ เกิดขึ้นที่วัดประยูร ที่น่าสงสัยคือรอยสักปริศนา ซึ่งน่าจะมีความเกี่ยวพันกับคดีแรก
เหตุเกิดที่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร หลังจากเกิดเหตุการณ์ในคดีแรกได้ไม่นาน มีพระรูปหนึ่ง ซึ่งจำวัดอยู่ที่วัดวัดประยุรวงศาวาส มีรอยสัก 5 คำ คล้ายๆ คดีแรกที่เกิดขึ้น แต่พระรูปนั้นยังมีชีวิตอยู่ พ.ต.ท.เวทางค์ ภิรมย์รุจ จึงรุดเข้าไปสอบสวน ซึ่งได้ความว่า สายแล้วแต่พระยังไม่ยอมออกบิณฑบาตร ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า มีคนร้ายแอบเข้ามาในวัด แล้วรมยาสลบหอนอนของพระทีละห้อง ห้องสุดท้ายคือหอนอนของพระมหาสุชีพ เป้าหมายที่คนร้ายทิ้งปริศนา รอยสัก 5 คำ เจ่า กิ่ง แล้ง แตก เกาะ ไว้ที่หน้าผาก หลังมือ ทั้งสองข้าง คนร้ายคือใคร และต้องการอะไรกันแน่ ทำไมถึงต้องสักคำต่างๆ ไว้บนตัวเหยื่อคนร้ายรายนี้ต้องอันตรายมากๆ สารวัตรเวทางค์ต้องเเร่งจับนายฉมให้เร็วที่สุด เพราะรอยสักนั้นเกี่ยวข้องกัน ทำไมนายฉมถึงพาเด็กหญิงวาดไปสัก...
นักแสดง : พระมหาสุชีพ แสดงโดย ยุทธนา เปื้องกลาง , ตาเลี่ยม แสดงโดย ภคชนก์ โวอ่อนศรี , หลวงพ่อเปิ่น แสดงโดย ไมเคิล เชาวนาศัย , หลวงพ่อมี แสดงโดย จาริวัฒน์ อุปการไชยพัฒน์ , หลวงลุงแก้ว แสดงโดย คมสัน ขจรไพศาลสุข , พระดาว แสดงโดย ณัชพงศ์พล สุดดี และ เปี๊ยก แสดงโดย ธีธัช จรรยาศิริกุล
คดีที่ ๓ นายลุ
เรื่องย่อ : ที่เกิดเหตุ แถวสะพานภาณุพันธุ์ ความวัวยังไม่ทันจะหาย ความควายก็แทรกเข้ามา เมื่อมีคนตกน้ำตายแถวย่านเยาวราชอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็มีรอยสักเป็นคำ 5 คำโผล่ขึ้นมา สารวัตรเวทางค์ ผู้เป็นเจ้าของคดี ถึงกับต้องกุมคะมับ เพราะไม่รู้ว่าจะสืบสาวเรื่องราวได้จากทางไหน เค้าจึงสั่งให้ 2 ลูกน้องฝีมือดี คือร.ต.ท.กระบี่ และร.ต.อ.แชน ไปสืบ โดยให้ร.ต.อ.แชน ปลอมตัวเป็นคนจรจัด ไปสืบหาเบาะแสในย่านราชเยาวราช หลังการสอบสวนตามรอยอย่างหนัก ทางตำรวจจึงได้ข้อมูลว่า ศพซึ่งจมน้ำตาย คือ “นายลุ” กุลีรับจ้างในย่านทรงวาด ทั้งครอบครัวตายด้วยอุบัติเหตุทำให้ลุเสียใจ จนต้องใช้ฝิ่นเป็นเครื่องมือดับทุกข์ จากสภาพศพสันนิษฐานว่า ช่วงเวลาการตายน่าจะเกิดก่อน 2 คดีแรกเพราะรอยสักบนตัวนายลุเป็นรอยสักเก่า เห็นเป็นเพียงรอยจางๆ ไม่ชัดเจน ซึ่งคนร้ายน่าจะใช้คดีนี้ กับรอยสักของนายลุ เป็นไปเดียเริ่มต้น ในการก่อการฆาตกรรมต่อเนื่องปริศนา ....
นักแสดง : นายลุ แสดงโดย วราวุธ โพธิ์ยิ้ม , นายเต็ง แสดงโดย เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ , นายฮวด แสดงโดย นพพล โกมารชุน , เฮียเกา แสดงโดย นพัตฏ์ธร มัททวีวงศ์ , กิมท้อ แสดงโดย ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์ ,อาไช้ แสดงโดย กรวิชญ์ สูงกิจบูลย์ , นายลิ่ว แสดงโดย พลภัคค์ วัชรพงศ์หิรัญ , นายเพ้ง แสดงโดย นรินทร์ พรพิทักษ์วงศ์ , อาเต๊า แสดงโดย วรรธนะ กัมทรทิพย์ , อาจือ แสดงโดย อริสรา ทองบริสุทธิ์
คดีที่ ๔ นายผดุงศักดิ์
เรื่องย่อ : ที่เกิดเหตุ ร้านขนมเนื่องนวล ย่านสามแพร่ง ไม่นานนักในย่านสามแพร่งก็เกิดคดีขึ้นมาอีก เมื่อพบชิ้นส่วนศพไหม้อยู่ในเตาอบขนม ฝั่งกุฎีจีน ในขณะที่เจ้าของร้านขายขนมเพิ่งกลับมาจากหนีสงครามไปอยู่ที่อื่น ชิ้นส่วนศพพบคำอีก 5 คำเช่นเคย พ.ต.ท.เวทางค์ กำลังจะมืดแปดด้าน แต่ก็ได้ พะนอนิจ ภรรยาคู่ชีวิตมาช่วยไขปริศนา คำที่คนร้ายทิ้งเอาไว้ให้ เพราะภรรยาของสารวัตรนั้นเป็นนักหนังสือพิมพ์ และชื่นชอบการอ่าน โดยเฉพาะ โคลงกลอน พะนอนิจ แก้ความได้ว่า ทุกๆ คดีที่เกิดขึ้น จะมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่วัดโพธิ์ พ.ต.ท.เวทางค์ จึงรุดไปยังวัดโพธิ์เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม ปรากฏว่าเค้าได้พบ ตัวอย่างฉันทลักษณ์โคลงกลอนสมัยโบราณที่มีลักษณะที่คล้ายกับที่คนร้ายทิ้งเอาไว้ให้ เมื่อตำรวจทำการสืบสวนจึงพบว่า เป็นคดีฆ่าหั่นศพ และเผาในห้องปิดตาย ผู้ตายคือนายผดุงศักดิ์ คุณชายใหญ่แห่งบ้านประพนธ์ธรรม หนุ่มเจ้าสำราญ รวยเสน่ห์ แต่มีมุมมืดที่ปกปิดไว้ โดยนายกล้าใช้หมาเป็นตัวคาบชิ้นส่วนศพไปไว้นห้องปิดตายอีกที...
นักแสดง : นายผดุงศักดิ์ ประพนธ์ธรรม แสดงโดย อัครัฐ นิมิตรชัย , นายพงษ์ศรี ประพนธ์ธรรม แสดงโดย อนุภาษ เหลืองสดใส , นางสาววิไล เนื่องนวล แสดงโดย เรวิญานันท์ ทาเกิด , นายวิลาศ เนื่องนวล แสดงโดย วิชยุตม์ ลิ่มรัตนะมงคล , นุกูล แสดงโดย จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม , คุณนายสังวาล ประพนธ์ธรรม แสดงโดย ณหทัย พิจิตรา , นางฟอง แสดงโดย ชุติมา เอเวอรี่ , รำพึง แสดงโดย รักชน พุทธรังษี , นายคล้าย แสดงโดย วัชรเกียรติ บุญภักดี และ บัว แสดงโดย อัจฉรียา โพธิพิพิธธนากร
คดีที่ ๕ นายอ่ำ
เรื่องย่อ : ที่เกิดเหตุแถววังเดิม คดีสุดท้ายนี้เกิดขึ้นที่ย่านวังเดิม เมื่อตำรวจพบหญิงชรา ซึ่งกำลังหนีตีลีตาเหลือกออกจากเพลิง อันเป็นบ้านพักของแก เมื่อตำรวจไปตรวจก็พบว่า หลานชายของแกถูกฆ่าแขวนคอ และจับโยงแขนขาขึงไว้ในบ้านมาหลายวันแล้ว และที่ศพก็พบคำปริศนา 5 คำอีกเช่นเคย เมื่อตำรวจทำการสืบสวนจึงพบว่า ผู้ตายชื่อนายอ่ำ หลานชายป้าอร เป็นกำพร้า แต่ร่าเริงแจ่งใส มองโลกในแง่ดี มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ โดยนายกล้าแกล้งตีสนิทกับอ่ำ ก่อนจะลงมือฆ่าในที่สุด แต่เรื่องราวไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้ ยังมีคนลึกลับที่อยู่เบื้องหลังบงการนายกล้า พ.ต.ท.เวทางค์ ได้พบกับพระเฟื่อง ภิกษุชราที่เคยเป็นสันติบาลเก่า และเชี่ยวชาญทางด้านอักษรศาสตร์ เป็นบุคคลที่ภรรยาของเค้านับถือ ภิกษุชราได้ให้โอวาท และบอกด้วยว่าจะลองช่วยไขปริศนาคำใบ้ ที่คนร้ายทิ้งไว้ให้ พ.ต.ท.เวทางค์ดีใจและจะรีบไปบอกภรรยา แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านเค้าพบว่า สาวรับใช้และลูกชายของเค้านอนสลบอยู่ที่บ้าน ส่วนภรรยาของเค้าหายตัวไป พ.ต.ท.เวทางค์ เห็นข้อความที่ภรรยาทิ้งเอาไว้ บอกว่าเธอไขปริศนาได้แล้ว เค้าจึงรีบคลำทางรีบไปช่วยภรรยาที่ถูกจับตัวไป
เมื่อ พ.ต.ท.เวทางค์ และลูกน้องยิ่งค้นหาฆาตกรรายนี้ เค้าก็ได้พบความจริงที่น่าตกใจ เพราะฆาตกรคดีฆาตกรรมพิลึกพิลั่นนี้ความจริงก็คือ พะนอนิจ เมียรักของเค้านั่นเอง เธอเป็นคนวางแผน คิดคำปริศนาทั้งหมด และมีนายกล้า ลูกน้องของเธอเป็นคนลงมือตามแผน เธอจึงตั้งใจให้มีคนไขปริศนาได้ โดยทำเป็นเข้าไปร่วมมือช่วยตำรวจเพื่อทำการสืบสวน เพื่อให้ความจริงเปิดเผย ว่าปริศนาที่ฆาตกรทิ้งไว้ก็คือ คำว่า สงส์,จับ,แพะ,ขัง,เกาะ ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่ทองนอก พ่อของเธอโดนใส่ร้าย โดนจับติดคุก และตายที่เกาะตะรุเตา และคนที่ใส่ร้าย เป็นพระที่เคยเป็นตำรวจมาก่อน พะนอนิจก่อคดีขึ้นทั้งหมดเพื่อแก้แค้น และเปิดโปงคดีความชั่วค้างเก่าของนายเฟื่อง อดีตตำรวจที่หนีไปบวชเป็นพระ ซึ่งเป็นคนทำคดีกบฏบวรเดช ที่ทำให้พ่อแท้ๆ ของเธอถูกจับเป็นแพะ แม่แท้ๆ ก็หนีหาย และเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอมีชีวิตที่โหดร้าย เธอโดนหมอเตช ที่เป็นพ่อเลี้ยงข่มขืน ขู่จะทำร้ายด้วยการเอามีดผ่าตัดกรีดเนื้อใต้ร่มผ้าหากไม่ยินยอม ก่อนที่เธอจะหาทางเอาตัวรอดออกจากขุมนรก ด้วยการแต่งงานกับพ.ต.ท.เวทางค์ ในเวลาต่อมา
ส่วนการฆ่าและเลือกเหยื่อของคนร้าย มันเกิดจากคำสัมผัสบังคับเอกโท คำเป็นคำตายในโคลง เพราะชื่อเหยื่อทั้งหมดเป็นคำตาย โดยตำรวจจะพบเหยื่อทั้งหมดห่างกัน 5 วัน ซึ่งสถานที่พบเหยื่อทั้งหมด เมื่อลงแผนที่แล้ว จะออกมาเป็นรูปห้าเหลี่ยมด้านเท่า มีลำดับการตายของเหยื่อเดินตามเข็มนาฬิกา โดยมีศูนย์กลางคือวัดโพธิ์ ซึ่งในวัดจะมีตัวอย่างวิธีการอ่านกลโคลง กลบทไทยต่างๆ และจะเป็นหลักในการอ่านกลโคลง จากปริศนาคำ จากรอยสักทั้งหมดบนตัวศพ เมื่อถอดคำรอยสักเป็นโคลงได้ โคลงแต่ละบาทจะสื่อถึงการตายของเหยื่อทุกคน ซึ่งสื่อไปถึงความชั่วของนายเฟื่องอีกที