icon member

กามเทพจำแลง

ตอนที่ 6

แม่ของกุ้งกอดรูปกุ้งร้องไห้ที่ศาลาวัด พริมกับกวินเดินเข้าไปนั่งข้างๆ พริมวางซองเงินขอร่วมทำบุญให้กุ้งไปสู่สุคติด้วย กวินก็วางซองเงินให้ บอกว่า

“ต่อไปนี้ป้าไม่ต้องกลัวพวกนักเลงทวงหนี้แล้ว ตำรวจรับปากจะช่วยจัดการให้ ส่วนเงินก้อนนี้...ป้าเก็บไว้ตั้งตัวนะ”

“พวกคุณเป็นคนดีจริงๆ ฉันขอโทษแทนกุ้งมันด้วย ฉันผิดเองที่ไม่ดูแลสั่งสอนลูก มันถึงได้ทำแต่เรื่องชั่ว กรรมถึงได้ตามสนองแบบนี้” แม่ของกุ้งเช็ดน้ำตาป้อยๆ เล่าว่า กุ้งกำพร้าพ่อกลายเป็นเด็กมีปัญหา คบเพื่อนไม่ดีพาไปติดยา ขออโหสิกรรมให้กุ้งด้วย พริมกับกวิน สบตากันยิ้มอย่างยินดีอโหสิกรรม

“ค่ะ...ถึงการสูญเสียคนในครอบครัวมันจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ต้องทำใจปล่อยวางกลับมาเข้มแข็งให้ได้ ป้าต้องใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขนะคะ กุ้งพ้นทุกข์ไปแล้วเขาจะได้หมดห่วง”

พริมปลอบแม่ของกุ้งแต่ตัวเองก็น้ำตาไหลเมื่อคิดถึงเรื่องของตัวเอง กวินเห็นมุมอ่อนโยนของพริมแล้วยิ่งรู้สึกรัก

เมื่อกลับมาที่พูลวิลล่า เขาบอกเธอขณะช่วยกัน เก็บชุดกรวดน้ำว่า

“ผมชอบที่คุณแชร์ชีวิตตัวเองเตือนสติคนอื่น ทำไมคุณถึงสนใจเรื่องธรรมะล่ะ”

พริมตัดสินใจเล่าเรื่องแม่ให้ฟังว่า แม่เป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย เหลือเวลาอีกแค่ 3 เดือน เพื่อนๆแม่มักเอาหนังสือธรรมะมาให้แม่ พวกตนจึงผลัดกันอ่านให้แม่ฟังเป็นประจำ จนอินกันทั้งบ้าน วันสุดท้าย พวกเราอยู่กันพร้อมหน้าเหมือนเป็นลาง ตนอ่านหนังสือธรรมะให้แม่ฟัง แม่หลับตายิ้ม พ่อป้อนขนมให้แม่ แต่มือแม่ตก... พริมเล่าเสียงเครือว่า

“เพราะเป็นวันที่เราได้ร่วมกันสวดมนต์ให้ แม่จากไปอย่างสงบ” ทุกคนกุมมือแม่ไว้...ร่วมกันสวดมนต์ให้ทั้งน้ำตา...

“ไม่นานพ่อก็จากไปหาแม่บนสวรรค์ ถึงจะเรียนรู้การมีมรณสติ เข้าใจว่าทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้น...ตั้งอยู่...และดับไป...แต่หัวใจฉันก็แทบสลาย...”

การคุยกับกวินวันนี้ เหมือนสนทนาธรรม...พริมบอกว่าธรรมะทำให้ตนมีสติ...สงบ...บอกว่าทุกคนต้องมองทุกอย่างเป็นธรรมชาติ สังขารา สัสสะตา นัตถิ สังขารที่จิรังยั่งยืนไม่มี เข้าใจดังนี้แล้วเราก็จะตั้งรับสิ่งที่ไม่คาดฝันได้เสมอ

“สังขารไม่จีรัง...แต่ความรักของผมนั่นยั่งยืนนะ รู้ยัง?” กวินวกสู่เรื่องหัวใจจนได้ เลยโดนหมอนฟาดหงายหลังไป

ooooooo

พรุ่งนี้ต้องไปทำงานกับธรณ์แล้ว วันนี้วราลีเขาครัวสับผักอย่างเมามันพลางเฟซไทม์กับแม่อย่างใส่อารมณ์ ตำหนิภีมแรงยิ่งกว่าอารมณ์ที่สับผักว่า เป็นใครก็เลือกนายใหม่ที่น้ำใจงาม เงินก็ดี เห็นแม่วันเงียบก็ถามว่าฟังอยู่หรือเปล่า

แม่ถามดักคอว่าแน่ใจหรือว่าที่เล่านี่เป็นเรื่องของหนูษา วราลีทำเสียงสูงอย่างมีพิรุธว่า

“ก็เรื่องหนูษาสิแม่ ลีออกแล้ว...จะไปรู้สึกอะไรกะเขา”

แต่พอแม่ผสมโรงตำหนิภีม วราลีก็กลับเสียงอ่อนแก้ต่างให้ว่า ที่บอสเข้มเพราะหวังดี อยากให้แกร่ง จะว่าไปความวีนก็มีความดีเยอะ

“อ้าว...กลับลำซะงั้น...ได้นายดีคือรางวัล ได้เพื่อนดีถือเป็นของขวัญ งานอะไรก็เหนื่อย ปัญหาเยอะทั้งนั้น ที่ไหนอยู่แล้วสุขใจก็อยู่ตรงนั้นแหละ อ้อ! วันหลังมีคำตอบในใจแล้วไม่ต้องโทร.ถามแม่นะมันเปลือง แค่นี้นะ จะรีบไปกินโต๊ะแชร์”

วราลีมองตั๋วเครื่องบินไปเวียดนามที่วางอยู่ใกล้ๆ ยิ้มอย่างตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกอะไร

ooooooo

ค่ำนี้...ริมทะเลที่พิชยมันตรา พริมเดินคุยกับกวินมาในบรรยากาศโรแมนติก พริมบอกว่าต้องขอบคุณบอสที่ส่งตนมาช่วยเขา ไม่อย่างนั้นตนคงไม่มีโอกาสได้พักที่สวยๆ เดินเล่นชิลๆแบบนี้

กวินบอกว่า ตนมีบ้านที่อเมริกาอยู่ติดทะเล ถ้าเธอชอบตนให้อยู่ฟรีตลอดชีวิตเลย พริมเผลอพูดว่ากลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ทำให้กวินชะงัก พริมรีบขอโทษบอกว่าไม่ได้ตั้งใจพาดพิงถึงแม่เขา

กวินนึกถึงอดีตแล้วสงสารแม่ เพราะมาธาร์กับญาติจ้างนักสืบสืบจนรู้ว่าแม่ทำงานเสิร์ฟมาก่อน ฟันธงว่าแม่แต่งงานกับพ่อเพื่อเอากรีนการ์ด ครอบครัวทางพ่อจึงตั้งป้อมไม่ต้อนรับแม่ กวินพึมพำว่า เจอแบบนี้ใครจะทนได้

“ผู้หญิงยอมอดทนและทำทุกอย่างเพื่อคนที่รักได้เสมอ ฉันมั่นใจว่าแม่คุณก็คิดแบบนั้น” พริมติง

“ผู้ชายก็ไม่ต่างกัน ถ้าเจอคนที่ใช่ผมจะไม่มีวันปล่อยมือจากคนที่ผมรักเด็ดขาด” กวินวกมาสู่เรื่องเดิมทำเนียนจับมือพริม พริมรู้สึกอบอุ่นจนเผลอใจปล่อยให้เขาจับมือเดินไปด้วยกันที่ชายหาดแสนโรแมนติก

พากันเดินมาถึงโต๊ะดินเนอร์ที่จัดไว้อย่างหรู กุ๊กชินเป็นเชฟมาเสิร์ฟออร์เดิร์ฟ “ข้าวใหม่ปลามัน” ทำเอาพริมฟังแล้วเขิน พริมถามว่ามาทำอาหารที่นี่แล้วร้านของตัวเองล่ะ กุ๊กชินบอกว่าตนโดนซื้อตัวมาทำดินเนอร์ให้ค่ำนี้ พริมถามกวินว่าจัดดินเนอร์ให้ตน เนื่องในโอกาสอะไร

“ไม่เห็นต้องมีวาระ ก็แค่เจอเรื่องระทึกมาเยอะ เลยอยากมีเวลาของเราบ้าง” แล้วยกแก้วไวน์ชนกันกริ๊ง... สบตากันนิ่ง

กุ๊กชินมาเสิร์ฟเครื่องเคียงทำเป็นบ่นสงสารแม่ของกุ้งที่ต้องอยู่คนเดียว เลียบเคียงถามว่า ถ้าอย่างนี้เรื่องล็อกเกตกับแม่ของกวินก็เป็นปริศนา ถามว่าเขาจะกลับกรุงเทพฯเลยไหม กวินขอบคุณแต่เอะใจว่ากุ๊กชินจะสนใจเรื่องของตนมากไปหน่อย พริมถามกุ๊กชินว่าแล้วพ่อเป็นยังไงบ้าง

กุ๊กชินบอกว่าทรงกับทรุดแต่เชื่อว่าอีกไม่นานคงดีขึ้น แล้วเอ่ยปากขอไวน์สักขวดได้ไหมตนจะทำจานเด็ดให้ชิม กวินบอกให้ไปเลือกเอาในห้องไวน์ตามสบาย พอกุ๊กชินเดินไป กวินก็พูดอย่างแอบรำคาญว่า

“แล้วไม่ต้องรีบออกมาล่ะ ก้างขวางคอชะมัด”

กุ๊กชินไปนานผิดปกติ พริมจะไปดู กวินตามไปด้วยบอกว่าตนจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธออีก ไปไหนไปด้วยกัน

“ตาหื่นเนี่ย น่ากลัวกว่าโจรเยอะ” พริมรู้ทันหันบ่นกับกล้อง

เมื่อเข้าไปในห้องไวน์ พริมเห็นไวน์ขวดหนึ่งถูกเอาไปแต่ไม่เห็นกุ๊กชินแล้ว

แต่พอกวินกับพริมเดินออกมาก็เห็นเหมือนใครวิ่งผ่านไป พอจะตามกุ๊กชินก็โผล่ถือไวน์มาด้วย ถามว่ามีอะไรหรือ พริมกับกวินบอกว่าเข้าไปในห้องไวน์ไม่เห็นกุ๊กชินหายไปไหนมา กุ๊กชินกลบเกลื่อนว่าตนแอบไปเดินสำรวจวิลล่าแล้วหลง แล้วทำเนียนว่าจะไปทำอาหารแล้ว กวินมองไปทางพุ่มไม้แล้วมองกุ๊กชินอย่างสงสัย

ที่มุมทำอาหาร...ชายใส่หมวกก้าวเข้ามาเปิดขวดยาจะเทใส่จานที่วางเตรียมไว้ พอดีกวินร้องเรียกกุ๊กชินแว่วมา เขาสะดุ้งเฮือกเอาขวดยาทิ้งถังขยะ มือปัดโดนขวดเครื่องปรุงล้ม รีบวิ่งหนีไป

เมื่อกุ๊กชินเข้ามาที่มุมทำอาหารเห็นขวดเครื่องปรุงวางผิดที่จึงจับเข้าที่ เริ่มทำอาหาร ทิ้งเศษอาหารลงถังขยะกลบขวดยาจนมิด

ooooooo

คืนนี้กวินคุยกับพริมว่าถ้าเรื่องแม่ไม่คืบหน้าตนคงต้องยอมรับความจริง ได้เวลากลับบ้านเพื่อไปทำงานเสียที พริมติงว่าเรามากันถึงขนาดนี้แล้ว อย่ายอมแพ้ง่ายๆ

กุ๊กชินได้ยินบอกว่าจะกลับกันแล้วตนจะทำของ หวานจานพิเศษ “ลาก่อน” ตบท้ายดินเนอร์ เป็นมื้ออำลาสุดฝีมือ

คืนนี้ขณะกวินยังค้างคาใจที่เห็นคนออกจากห้องไวน์แต่กลับเจอกุ๊กชินมาถามว่ามีอะไรหรือ? พริมก็เข้ามาถามว่าเอากาแฟไหม ถามว่าเขาถอดใจเรื่องแม่แล้วจริงๆหรือ

“ยิ่งตามหาเท่าไหร่ก็เหมือนแม่ยิ่งห่างออกไปทุกที ขาดกุ้งไปก็เท่ากับเรื่องล็อกเกตเป็นศูนย์” พริมบอกว่าตนยังพร้อมยืนเคียงข้างเขาเสมอ กวินมองหน้าเธอ ขอบคุณภีมที่ส่งเธอมาเพื่อตน ขอบคุณเทพที่ช่วยอุ้มสม เพราะมีเธอเป็นกำลังใจตนถึงอยากสู้ต่อ แล้วทำทีโอบคอยื่นหน้าจะจูบ ถูกพริมโน้มคอตีจนร่วงลงไปกอง แล้วเอ่ยก่อนไปว่า

“ธรรมะสวัสดีค่ะ!”

ooooooo

คืนนี้พริมสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน กวินเข้ามาขอให้สอนตนบ้าง แม้จะเก้ๆ กังๆ แต่พริมก็สอนอย่างยินดีมีความสุข กวินถามว่าสวดมนต์แล้วจะทำให้หลับฝันดีไหม พักนี้ตนฝันแปลกๆยังไงไม่รู้ พริมชะงักเพราะตนก็เป็น

ข้างนอกฝนตกหนัก ฟ้าร้องน่ากลัว พริมนอนคิดถึงความฝันแปลกๆของตนเช่นกัน

แต่ที่บ้านกุ๊กชิน ท่ามกลางฝนตกฟ้าร้อง หาญกำลังคลุ้มคลั่งร้องอย่างหวาดกลัว คร่ำครวญขอกุ๊กชินอย่าทิ้งตนไป หวาดผวาตลอดเวลาว่าถูกผีหลอก มันมาหลอกอีกแล้ว กุ๊กชินกอดปลอบพ่อ คิดถึงอดีตที่ตนป่วยเกือบตายและพ่อยอมสละทุกอย่างเพื่อหาเงินมารักษาเขาจนหาย และต่อมากุ๊กชินก็อยู่ในอาการผวาว่าผีจะมาเอาชีวิต คลุ้มคลั่งร่ำร้องอย่างหวาดกลัว...

หลังจากภีมได้คุยกับธรณ์แล้ว คำถามของธรณ์ที่ว่า “คุณจะยอมแพ้ให้คุณลีไปง่ายๆแบบนี้หรือ” ก็กลับมาคิดหนัก ฝ่ายวราลีหลังจากได้คุยกับแม่แล้วเธอตัดสินใจได้ว่าจะจัดการกับชีวิตอย่างไร รุ่งขึ้นอันเป็นวันที่จะเริ่มทำงาน เธอไปหาธรณ์บอกว่าตนตัดสินใจได้แล้ว ธรณ์ถามอย่างมีความหวังว่า

“ผมหวังว่าคุณจะมาบอกว่าพร้อมเริ่มงานแล้ว”

วราลีนิ่ง มองหน้าธรณ์อย่างลำบากใจ แล้วขอโทษที่ไม่สามารถมาทำงานกับเขาได้ ขอบคุณที่ให้โอกาสและอวยพรให้เขาได้พบคนที่พร้อมและดีกว่าตน

ไม่นานภีมก็มาหาธรณ์ที่ห้องทำงาน เจรจาขอซื้อตัว วราลีคืน บอกว่าราคาเท่าไหร่ตนก็ไม่เกี่ยง ธรณ์ย้อนถามว่าแล้วเขาคิดว่าค่าตัวเธอจะเท่าไหร่ล่ะ

“วราลีมีคุณค่าเกินกว่าจะนับเป็นราคา” ภีมตอบเต็มปากเต็มคำมองหน้าธรณ์แน่นิ่ง

“ถ้างั้นคุณต้องไปต่อรองค่าตัวกับคุณลีเองแล้ว เพราะเงินค่าตัวที่ผมให้ คงสู้ค่าใจของคุณไม่ได้ คุณลีถึงมาปฏิเสธที่จะทำงานกับผม”

ภีมรู้สึกเหมือนฟ้าเปิดในฉับพลัน เขาดีใจมากเมื่อรู้ว่าได้วราลีกลับมา...เขากลับไปพร้อมกับพูดอย่างมันเขี้ยวว่า

“คอยดูเถอะ จะไม่ปล่อยให้ไปไหนอีกแล้ว”

ooooooo

ที่พิชยมันตรา...กวินกับพริมที่ผ่านการต่อสู้กับเหตุร้ายต่างๆ เพื่อตามหาแม่ของกวินแต่ก็ไร้วี่แวว จนกวินเกือบถอดใจแต่พริมให้กำลังใจจนกวินมีกำลังใจ ที่จะสู้ต่อไป และความรักก็เริ่มผลิบาน ก็มีมารมาขวางจนได้...

ซินดี้มาพักผ่อนที่กระบี่เข้าพักที่พิชยมันตรา เห็นกวินก็หมายมั่นจะจับให้ได้หลังจากวืดที่คิวปิดฮัทมาหลายครั้ง แต่พอเห็นพริมก็ของขึ้นพึมพำอย่างเกลียดชัง “ยายชี!!” ทำเป็นเข้าไปทักพริมแต่เหล่มองกวินถามว่ามาด้วยกันหรือ พริมบอกว่าตนมาทำงานตามหน้าที่ ซินดี้มีความหวังจะงาบกวินให้ได้

แต่กวินวันนี้ที่ได้พริมเป็นกำลังใจและได้ซึมซับธรรมะกล่อมเกลาจากพริมแล้ว เขาไม่สนใจซินดี้และตัดพ้อพริมที่บอกว่ามาทำงานทั้งที่ตนเริ่มเปิดใจให้แล้วว่า รังเกียจที่จะบอกคนอื่นว่าตนชอบเธอหรือ พริมติงว่าสถานะของเรามันยังไม่ชัดเจน

“หมายความว่าคุณอยากให้ผมทำอะไรให้มันชัดเจนเหรอ ถ้างั้นจากนี้เราเป็นแฟนกันแล้ว...ตกลงไหม” พริมตกใจที่เสียรู้เขา ตอบอึกอักว่ามันเร็วเกินไป กวินกุมมือทั้งสองข้างของพริมไว้ มองลึกเข้าไปในดวงตาขณะเอ่ย “ความรักไม่เกี่ยวกับเวลา แต่มันมาจากความจริงใจ ตั้งแต่ได้เจอคุณผมก็รู้ว่าชีวิตนี้ผมไม่อาจมองใครได้อีกนอกจากคุณ”

กวินโน้มหน้าไปจูบหน้าผากพริมอย่างสุภาพ อ่อนโยน พริมเขินแต่รู้สึกอบอุ่น ยังสับสนว่าจะดีไหมถ้ายอมรับ...

ฝ่ายซินดี้รุกทุกวิธีที่จะเอาชนะพริมให้ได้ ไม่ว่าพริมกับกวินจะไปที่ไหนทำอะไร ก็จะตามไปแทรก อ่อยกวินไปทุกที่จนวันนี้ชวนกวินไปงานปาร์ตี้คนโสดเอ็กซ์คลูซีฟกัน แล้วต้องผิดหวังหน้าแตก เมื่อกวินบอกว่า

“คงไม่ได้ ผมมีนัดจงกรมกับคุณพริม” ซินดี้ตื๊อว่าไปปาร์ตี้สนุกกว่า กวินตอบนิ่งๆ ว่า “การอยู่สงบๆ กับคุณพริม คือความสุขที่สุดของผมแล้ว”

“ตามใจ อย่าลืมนุ่งขาวห่มขาวด้วยล่ะ” ซินดี้ประชดสะบัดหน้าพรืด แต่สะบัดแรงไปหน่อยคอลั่นดังกร๊อบ...จนร้องเจ็บ กวินกับพริมหันมองอย่างตกใจ

พริมไลน์คุยกับเพื่อนๆที่คิวปิดฮัทเล่าเรื่องกวินว่าจะลองให้โอกาสเขาดู ทุกคนตื่นเต้นดีใจด้วย พริมบอกว่า

“ถ้าเราศีลเสมอกัน คงไม่ผิดถ้าจะเปิดใจ...”

“แต่ปัญหาคือ จะข้ามอุปสรรคเรื่องตัวจริงไปได้ยังไง” คิวปิดที่ตามลุ้นจนเหนื่อย รำพึงอย่างกลุ้มใจ และยิ่งเมื่อเห็นกวินโผกอดพริมเมื่อเธอบอกว่าจะให้โอกาสเขา และพริมยกมือห้ามไว้ คิวปิดรำพึง “ตราบใดที่คนใดคนหนึ่งยังโกหก ไม่มีวันที่ความรักจะลงเอยกันได้”

ooooooo

เมื่ออ่อยกวินแล้วจืดชืด ซินดี้ดีใจดี๊ด๊าเมื่อสายรายงานว่าเควิน เบลค มาที่โรงแรมพิชยมันตรา เธอถามหาเควิน เบลคไปทั่วแต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้

เมื่อพริมได้ข่าวว่าเควิน เบลคมาที่นี่ก็อยากเจอเหมือนกัน กวินรู้ว่าพริมก็อยากเจอเควิน เบลค เขาชั่งใจว่า

“ถ้าคุณรู้ว่าเควิน เบลค อยู่ใกล้คุณแค่นี้...”

กระแสอยากเจอตัวเควิน เบลค ในงานมาแรงจนกวินรีบชวนพริมไปเที่ยวหมู่บ้านประมงกันดีกว่า ปล่อยให้ในงานมองหาตามหาตัวเควิน เบลค กันอย่างคลั่งไคล้...

กวินพาพริมลงเรือยอชต์ เขานั่งเหนื่อยเพราะหนีคนตามล่าเควิน เบลค แต่จู่ๆ พริมที่นั่งอยู่กับเขาที่ดาดฟ้าเรือ ก็หายไปกลายเป็นคิวปิดมานั่งแทน กวินคุ้นหน้าคิวปิดเพราะเจอกันมาหลายครั้งแล้ว ถามว่าลุงมาได้ไง? คิวปิดพูดอย่างไม่อยากเหนื่อยอีกแล้วว่า

“ที่งานมันไม่เสร็จสักทีก็เพราะคุณที่ไม่กล้าบอกความจริงกับพริมา ในเมื่อปากหนักนัก ผมก็ต้องใช้ไม้แข็งแล้ว” ว่าแล้วลุกไป กวินลุกขึ้นร้องเรียก พลันพริมก็ร้องเรียก “เควิน เบลค” กวินหันไปทันที พริมมองเขาพูดอย่างผิดหวังเสียใจ

“คุณโกหก!! คุณหลอกใช้ฉัน!! ศีลไม่เสมอกันไม่มีทางไปกันได้หรอก!!” พูดจบก็วิ่งไปจะกระโดดทะเล

“คุณพริม...อย่า!!! อย่าโดด!!!” กวินร้องห้ามเสียงหลง

พริมเดินเข้ามาถามว่าเป็นอะไร เขาแก้เกี้ยวว่าฝันร้ายนิดหน่อย พริมบอกว่าถึงท่าเรือแล้ว พลางส่งมือช่วยดึงเขาลุกขึ้น จูงกันเดินออกไป

ooooooo

กวินกับพริมมาถึงตลาดที่หมู่บ้านชาวประมง กวินเห็นผ้าบาติกลายเดียวกับของแม่แขวนขายอยู่เขามองชะงักจำได้ว่าตอนอายุ 7 ขวบเห็นแม่ใช้ผ้าลายนี้โพกผม เคยถามแม่ว่าทำไมชอบผ้าผืนนี้นัก แม่กระซิบบอกว่าลายนี้แม่ออกแบบเอง...

กวินกับพริมไปที่บ้านเล็กๆริมทะเลหลังหนึ่งเพราะคนที่โรงงานบอกว่าคนชื่อจรรยาเจ้าของบ้านนี้เป็นคนเขียนลาย พอจรรยาออกมากวินผิดหวังที่ไม่ใช่แม่ พริมถามจรรยาว่าเป็นคนออกแบบลายผ้านี้ใช่ไหม จรรยาพยักหน้าอย่างระแวง

กวินโมโหหาว่าจรรยาก็อปลายคนอื่นมา จรรยาระแวงว่าเป็นพวกสิบแปดมงกุฎจะมาขู่เรียกเงิน เอาไม้กวาดไล่ไปให้พ้น กวินไม่อยากมีเรื่องจะพาพริมกลับไป ทันใดล็อกเกตก็หลุดตกจากคอพริมเปิดออกดังคลิก!

จรรยาเห็นรูปในล็อกเกตถึงกับตะลึงอุทาน “วดี!!”

เมื่อเข้าไปคุยในบ้านจึงรู้ว่าจรรยาเป็นเพื่อนของแม่ จรรยาเล่าความจริงให้ฟังว่า วดีเป็นคนที่นี่ เมื่อยี่สิบปีก่อน วดีออกแบบลายผ้าให้ตนเอาไปทำผ้าบาติกขายก่อนที่ตัววดีจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ

กวินจำได้ว่าเมื่อยี่สิบปีก่อนแม่เอาเงินของพ่อไปก้อนหนึ่ง จนมาธาร์พี่สาวของพ่อด่าวดีว่าขนเงินของเกรกหนีกลับไทยไปเสวยสุขและไม่กลับมาอีก จรรยาเล่าความจริงเวลานั้นว่า ยี่สิบปีก่อนพ่อตนป่วยหนักไม่มีเงินรักษา ตนจึงรบกวนวดี โดยไม่คาดคิดวดีกลับเมืองไทยพร้อมเงิน ก้อนหนึ่งให้ตนเอาไปรักษาพ่อ ส่วนเงินที่เหลือวดีก็เอาไปพิมพ์หนังสือนิทานธรรมะแจกในวัดเพราะถือว่าไม่ใช่เงินของตน

ขณะยืนคุยกัน หาญขี้เมาในหมู่บ้านเดินผ่านมา จรรยาบอกวดีอย่าเข้าใกล้ คนในตลาดบอกว่าเขาเที่ยวขอยืมเงินชาวบ้านอ้างว่าเอาไปรักษาลูกที่ป่วยหนัก ที่แท้เอาไปซื้อเหล้ากิน

แต่วดีกลับมองหาญด้วยความเห็นใจ จรรยาขอบคุณวดีที่ให้เงินมารักษาพ่อ หาญที่เดินผ่านไปแล้วได้ยินหันมองอย่างสนใจ วดีมองหาญแล้วคิดถึงลูกตัวเอง บอกจรรยาว่า

“ที่ฉันทำความดี เพราะอยากให้กุศลนี้เป็นของสามีและลูกชาย ฉันอยากให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองพวกเขา”

จากเรื่องราวของแม่ที่จรรยาเล่าให้ฟัง กวินถึงกับยืนเซไปด้วยความสะเทือนใจที่แม่ทำเพื่อตน ถามว่าแล้วทำไมแม่ไม่กลับไปหาตนกับพ่อ

จรรยาเล่าถึงวันสุดท้ายที่วดีมาลากลับอเมริกาว่า วดีคิดถึงลูกและเข้มแข็งพร้อมที่จะกลับไปเผชิญปัญหาแล้ว จรรยาอวยพรให้วดีฝ่าฟันอุปสรรคไปได้และอย่าลืมกลับมาเยี่ยมกันบ้าง

เรือที่มารับวดีนั้น มีหาญเป็นคนขับ แต่หาญพยายามหันมองทางอื่นไม่ให้จรรยาเห็นหน้าเต็มๆ

จรรยายืนยันว่า วดีตั้งใจกลับอเมริกาจริงๆ แต่วดีหายเงียบไปก็คิดว่าคงมีความสุขกับครอบครัวที่อเมริกาแล้ว

กวินสะเทือนใจมากรู้สึกผิดที่ตนเข้าใจตลอดมาว่าแม่ไม่รักตน พริมเอื้อมมือจากข้างหลังกอดคอเขาปลอบว่า

“ฉันไม่รู้จะทำยังไง แต่อยากให้คุณรู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว”

กวินร้องไห้ซาบซึ้งที่ในยามนี้มีพริมคอยให้กำลังใจและยืนเคียงข้าง แต่ถึงยังไงตนก็จะตามหาแม่ต่อไป...

เมื่อนั่งเรือยอชต์กลับมาที่พิชยมันตรา ขณะขึ้นจากเรือพริมบอกว่าเราลืมถามจรรยาว่าคนขับเรือที่พาแม่มาส่งขึ้นฝั่งเป็นใคร กวินบอกว่าพรุ่งนี้เราจะกลับไปถามใหม่ ขณะนั้นมีคนใส่หมวกอำพรางใบหน้าแอบดูกวินกับพริมอยู่ได้ยิน กำมือแน่นอย่างโกรธแค้น

พริมเล่าเรื่องวดีให้กรุ๊ปไลน์ที่คิวปิดฮัทฟังว่า ทางบ้านของกวินเข้าใจผิดวดีไปไกลมาก คิดถึงเรื่องของตัวเองแล้วบอกเพื่อนในกรุ๊ปไลน์ว่า ความรักทำให้บางคนถูกทำร้าย ถ้าโดนแบบนั้นตนก็คงทนไม่ได้เหมือนกัน

“คุณกวินไม่ยอมให้เกิดกับพี่พริมหรอก” หรรษาท้วงติง พริมได้แต่จับล็อกเกตไว้แน่นเหมือนขอกำลังใจ

ooooooo

ปัญหาวดีกับล็อกเกตยังเป็นปมปริศนา กวินสงสัยว่าล็อกเกตอยู่บนเกาะนี้แต่ไม่มีใครรู้จักแม่เลย คิดว่าต้องมีใครบางคนโกหก พริมถามว่าหมายความว่ายังไง

“กุ้งคงไม่ได้ขโมยมาจากนักท่องเที่ยวแต่น่าจะเอามาจากใครสักคนในเกาะนี้ที่เก็บมันไว้มาตลอดยี่สิบปี และคนคนนั้นอาจรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่”

พริมหยิบล็อกเกตขึ้นมาดูพึมพำ...“ไปอยู่ไหนมาตั้งยี่สิบปี??”

จู่ๆคืนนี้ก็มีเหตุร้ายเกิดกับพริม เธอถูกคนร้ายจับกดน้ำในสระหมายฆ่าให้ตาย ดีที่ล็อกเกตปิดคลิกทำให้กวินสะดุ้งตื่น เอะใจออกไปดูจึงช่วยพริมไว้ทัน แต่คนร้ายหนีไปได้ กวินตัดสินใจจะกลับเพราะกลัวจะต้องสูญเสียพริมไปอีก แต่พริมไม่กลับเพราะเรื่องแม่ของเขากำลังจะได้ความจริงอยู่แล้ว กวินจึงตัดสินใจอยู่ต่อ

กวินเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลพริมมากขึ้น และขอเธอแต่งงานเพื่อดูแลเธอทั้งชีวิต พริมขอเวลาเพราะยังไม่รู้จักครอบครัวเขา ครอบครัวเขาอาจจะไม่ยอมรับตนเหมือนแม่เขาหรือเปล่า

“ไม่ต้องกลัว ผมมันเป็นกบฏของพวกคนในตระกูลมานานแล้ว ไม่มีใครทำให้ผมเลิกรักคุณได้หรอก”

พริมถามว่าครอบครัวเขาคงใหญ่มาก เขาบอกว่าก็ไม่ใหญ่อะไรหรอก แล้วจะพาเธอไปเจอกับพวกเขา

แต่ข่าว เควิน เบลค มาพักที่พิชยมันตรา สร้างความปั่นป่วนไปทั้งโรงแรม บรรดาบริษัทจับคู่ต่างควานหาตัวเควิน เบลค กันให้ควั่ก ซินดี้ก็ตามหาพล่าน คิวปิดเลยแกล้งถ่ายเอกสารทำรูปเควิน เบลคหล่นให้ซินดี้เห็น ซินดี้ดูรูปแล้วฟันธง

“ชัดเลย!!”

ซินดี้ไม่พอใจพริม หาว่ารู้แล้วว่ากวินคือเควิน เบลค แต่ปกปิด กะฮุบไว้เอง ประกาศตนไม่ยอมเด็ดขาด!

ooooooo

กวินกับพริมยิ่งใกล้ชิดและได้ฟังเรื่องราวของวดีจากจรรยาก็ยิ่งรู้สึกว่าตนได้ใกล้ชิดกับวดีมานานจากหนังสือธรรมะ จากนิทานเรื่องครอบครัวมด ที่จำมาเล่าให้หลานฟัง ทำให้ความรู้สึกที่มีต่อกันระหว่างกวินกับพริมยิ่งสนิทลึกซึ้ง

กวินหัดสวดมนต์เอาจริงเอาจัง ทั้งยังปฏิบัติตนเป็นสุภาพบุรุษอยู่ในศีลในธรรม จนรู้สึกว่าพูดภาษาเดียวกัน ทำให้พริมไว้ใจ วันนี้กวินไปที่ตลาดเจอกุ๊กชิน ซุบซิบกันจะทำเซอร์ไพรส์พริม พริมเห็นสองคนซุบซิบกันถามว่ามีอะไรหรือ กวินบอกว่าไม่มี พอถูกพริมคาดคั้นก็เฉไฉว่า “บอกก็ไม่ใช่ความลับสิ”

ที่แท้กวินให้กุ๊กชินสอนทำอาหารเซอร์ไพรส์พริม อวดว่านี่เป็นครั้งแรกที่ตนทำอาหาร พริมชมว่าคนที่โตมาแบบคุณหนูอย่างเขาทำอาหารได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งที่สุดแล้ว กวินถามว่ารู้ได้ไงว่าตนโตมายังไง

แต่ความจริงที่เขาใช้ชีวิตอย่างคุณหนูทำอะไรก็ทิ้งๆขว้างๆ เพราะมีคนรับใช้คอยเก็บให้ พอถูกพริมมองก็อายบอกว่าต่อไปจะเก็บข้าวของให้เรียบร้อยและปรนนิบัติเธอให้ดีที่สุด

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ สำหรับฉันความซื่อสัตย์ ความไว้ใจ ไม่โกหกกันสำคัญกับชีวิตคู่มากกว่า” พริมบอกว่าถ้าเขาทำผิดตนยังให้อภัยได้ง่ายกว่าจับได้ว่าโกหก เพราะ “ฉันเกลียดคนโกหกที่สุด”

แต่แล้วกวินก็ถูกจับได้ว่าโกหก เมื่อซินดี้ตามล่าเควิน เบลค เมื่อเห็นเขาก็ร้องเรียก กวินตกใจวิ่งหนีไปหลบหลังพุ่มไม้ถูกซินดี้ตามไปเอาตัวมาพูดอย่างผู้ชนะว่า “คุณหนีฉันไม่พ้นหรอกค่ะ...เควิน เบลค!” จากนั้นก็ตามกวินแจ จนในที่สุดพริมก็รู้ว่า ที่แท้กวินก็คือเควิน เบลค นั่นเอง!

แทนที่จะดีใจที่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับมหาเศรษฐี ผู้ชายในฝันของผู้หญิงจำนวนมาก พริมกลับโกรธ รับไม่ได้ที่ตนถูกหลอก และเขาโกหก! พริมตัดสินใจทิ้งเขากลับกรุงเทพฯ บอกเขาว่าทุกอย่างมันเข้าสู่ทางตันแล้วเราควรหยุดแค่นี้ดีกว่า ถ้าเขาจะตามหาแม่ต่อตนก็จะส่งคนใหม่มาแทน กวินถามหน้าเศร้าว่า “คุณไม่อยากอยู่กับผมแล้วหรือ”

“ฉันก็มีชีวิตของฉัน คุณก็มีชีวิตของคุณ...เราไม่เหมือนกันเลย ยอมรับเถอะค่ะ” กวินขอโอกาสอีกสักครั้ง

“โอกาสไม่มีมาง่ายๆ บ่อยๆ...บางครั้งลอยมาแล้ว แต่เราไม่คว้าไว้เอง ได้ค่ะ ฉันจะให้โอกาส ‘เรา’ อีกสักครั้ง”

กวินยิ้มดีใจกอดพริมไว้ แต่พริมยิ้มไม่ออก แววตาเต็มไปด้วยความเศร้าและเจ็บปวด...

ooooooo

คืนนี้พริมนอนร้องไห้อย่างหนัก กวินเป็นห่วง พริมบอกว่าตนแค่ผิดหวังอะไรบางอย่างให้เขาไปนอนเสีย...

รุ่งเช้ากวินตื่นมาไม่เห็นพริมแล้ว เขาเดินพล่านตามหาพบแต่จดหมายลาที่พริมเขียนทิ้งไว้ แม้จะประทับใจในความพยายามเปลี่ยนแปลงของเขาแต่พริมก็เขียนไว้ชัดว่าตนไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนที่ศีลไม่เสมอกันได้ บอกเขาว่า

“คุณไม่ต้องตามหาฉันนะคะ วันนึงฉันอาจจะอโหสิกรรมให้คุณ แต่ยังไม่ใช่วันนี้ ถ้าคุณตามฉันไป...ฉันจะเกลียดคุณไปตลอดชาติ...”

“พริมา!!!”

กวินตะโกนสุดเสียง เมื่อกลับไปถามที่ฟรอนต์ว่ามีใครเอารถไปส่งพริมที่สนามบินไหม พนักงานบอกว่าไม่มี

พริมไปหากุ๊กชินที่ร้านขอให้เขาหารถไปส่งตนหน่อย กุ๊กชินรู้ทันทีว่าพริมหนีกวินมา ขณะพริมนั่งรอที่เก้าอี้หน้าร้าน คิดถึงวันเวลาที่ได้อยู่กับกวิน บอกตัวเองว่า “ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าคุณไม่จริงใจ”

ฝ่ายกวินตามหาพริม ในที่สุดก็รู้ว่าเธอทิ้งตนไปแล้ว คิวปิดในร่างคนทำความสะอาดเข้ามาพูดคุย เมื่อกวินเล่าให้ฟัง บอกว่าตนจะเปิดตัวแต่ไม่กล้าเพราะกลัวจะเสียเธอไป คิวปิดชี้ว่า “คุณไม่ไว้ใจคนรักเพราะคุณไม่มีศรัทธา” กวินจึงคิดได้แต่คิวปิดก็หายไปแล้ว เมื่อหมดที่พึ่ง กวินกุมล็อกเกตขอให้แม่ช่วย

พริมหนีจากกวินมาแต่ไม่ได้คืนล็อกเกตให้เขา เพราะยังผูกพันว่ามันเป็นสัญลักษณ์ความรักของตนกับเขา ขอเวลาในการทำใจอีกสักนิดแล้วจะเอาไปคืนให้ แต่ระหว่างพริมนั่งอยู่หน้าร้าน หาญก็เกิดอาการหลอนว่า ผีจะมาเอาชีวิตตนจนหายใจไม่ออก พอดีกุ๊กชินที่ใส่หมวกปิดหน้ากลับมา พริมกับกุ๊กชินจึงช่วยกันประคองหาญเข้าไปข้างใน หมวกกุ๊กชินหล่นไม่รู้ตัว

ระหว่างนั้นพริมเห็นที่แขนกุ๊กชินมีรอยข่วนเป็นทางยาว เธอชะงักตกใจเพราะจำได้ว่าขณะถูกคนร้ายกดจมน้ำที่สระนั้น เธอต่อสู้ข่วนที่แขนคนร้ายเป็นทางยาว จึงจะออกไปรอข้างนอก กุ๊กชินเห็นพริมมองรอยข่วนก็รู้ว่าเธอรู้ว่าตนคือคนร้ายคืนนั้น พริมถามว่าเขารู้จักเจ้าของล็อกเกตใช่ไหม กุ๊กชินเปิดเผยตัวเอง บอกว่า

“มันตายไปแล้ว กูฝังมันกับมือ!!” เมื่อความลับถูกเปิดเผยกุ๊กชินจึงจะฆ่าพริมปิดปาก พริมอ้อนวอนอย่าฆ่าตนเลยตนจะไม่บอกใครเด็ดขาด

กวินตามหาพริมจนมาถึงหน้าร้านกุ๊กชิน เห็นหมวกหล่นอยู่จำได้ว่าเป็นหมวกคนร้ายที่เห็นบ่อยๆ เขาตกใจมากพังประตูร้านเข้าไป แต่กุ๊กชินพาพริมออกทางหลังร้านลงเรือหนีไปแล้ว ระหว่างนั้นกุ๊กชินรับว่าพ่อตนเป็นคนฆ่าวดีเพื่อชิงทรัพย์ วดีถูกฆ่าตายทั้งที่มือยังกุมล็อกเกตอยู่

หาญเอาล็อกเกตไปแต่ก็ถูกวิญญาณวดีตามหลอกตลอดเวลา จะเอาไปขายก็ขายไม่ออก เอาไปทิ้งก็กลับมาได้เอง ย้ายไปอยู่ไหนก็ตามหลอกหลอนตลอดเวลา จนกระทั่งเอากุ้งที่ติดยามาเลี้ยงหมายช่วยให้เลิกยา แต่กุ้งก็เลิกยาไม่ได้ขโมยของในบ้านไปขายเอาเงินไปเสพยา แม้กระทั่งล็อกเกตอันนั้น!

กุ๊กชินพาพริมไปที่กระท่อมร้างท้ายเกาะ ระหว่างที่กุ๊กชินเล่าเรื่องวดีให้พริมฟังนั้น หาญโวยวายเร่งให้กุ๊กชินฆ่ามัน!

“ขอกระดาษกับปากกาให้ฉันได้ไหมคะ ฉันมีอะไรจะสั่งเสียก่อนตาย” พริมพูดอย่างรู้ชะตากรรมตนเอง

พริมเขียนเสร็จส่งให้กุ๊กชิน ขอบคุณและบอกว่าเขาเป็นคนดี ถึงตอนนี้เขายังไม่ได้ทำผิดอะไร เขายังเลือกได้ว่าจะทำบาปหรือบุญ กุ๊กชินตอบอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ผมเลือกพ่อ!”

พริมเขียนลาทุกคนที่คิวปิดฮัท เขียนลาพี่สาวพี่เขยและหลาน ชาติหน้าถ้ามีจริงขอให้เกิดมาเป็นพี่น้องกันอีก เขียนถึงกวินที่หลอกให้ตนรัก และเราคงไม่ได้พบกันอีก แต่...ฉันจะคิดถึงคุณจนลมหายใจสุดท้ายของฉัน...

ขณะกุ๊กชินกำลังจะฆ่าพริมนั้น ล็อกเกตเปิดออกมีแสงวาบออกมา พริบตานั้นร่างของกวินก็วาร์ปมาตรงหน้าเกิดแสงจนกุ๊กชินต้องปิดตา กวินต่อสู้ปกป้องพริม พริมก็ใช้ธรรมะเข้าหว่านล้อมกล่อมเกลาจิตใจกุ๊กชินจนใจอ่อนลง ส่วนหาญที่ยังคลุ้มคลั่ง พริมบอกกวินว่าปล่อยให้กฎแห่งกรรมลงโทษเขาเถอะ เพราะสภาพของเขาทำอะไรใครไม่ได้อีกแล้ว

เมื่อตำรวจมา กุ๊กชินและหาญต่างจะยอมรับโทษแทนกัน หาญขออโหสิกรรม แต่กวินไม่อโหสิกรรมเดินหนีไปอย่างทำใจไม่ได้ พริมตามไปใช้ทั้งเหตุผลและธรรมะเข้าหว่านล้อม บอกว่าถ้าเขาฆ่าเขาก็ต้องติดคุก แล้วเขาจะปล่อยให้ความโกรธเกลียดมาเกาะกินใจไปตลอดชีวิตหรือ ในที่สุดกวินอโหสิกรรมหาญกับกุ๊กชินและอโหสิกรรมแทนแม่ด้วย

เกรกมาเมืองไทย ไปในที่ต่างๆ ที่เคยไปกับวดี เห็นนิทานธรรมะที่วดีพิมพ์แล้ว บอกกวินว่า

“ผมสัญญาว่าจะมีชีวิตที่เหลือสานต่อสิ่งที่คุณทำไว้นะวดี พ่ออยากพิมพ์หนังสือนิทานธรรมะของแม่แจกให้กับโรงเรียน ห้องสมุดและวัดอื่นๆ”

ป้ามาธาร์ยังมีอคติกับหญิงไทย เควินบอกป้าว่าคนไทยมีน้ำใจ ป้าไม่ควรเหมาว่าหญิงไทยทุกคนไม่ดี และพริมก็เป็นคนดี เขาไม่อยากได้สมบัติของเราเลยสักนิดเดียว แล้วตามพริมที่เดินหนีเขาไปอย่างทำใจไม่ได้

“พ่อพลาดที่ปล่อยให้ความรักหลุดลอยไป พ่อเรียนรู้แล้วว่าความรักชนะทุกสิ่ง และไม่มีใครหนีความรักของผู้ชายตระกูลเบลคพ้น” ทำให้กวินมีกำลังใจฮึดสู้

พริมหนีไปปฏิบัติธรรมในวัด เจอคมกริชมาปฏิบัติธรรมเช่นกัน เขาเล่าให้พริมฟังอย่างสำนึกผิดว่า ตนหมดเนื้อหมดตัวเพราะพนันบอล สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง วันหนึ่งตนไปหาพริมที่บ้านเห็นพริมในชุดขาวดูเยือกเย็นมีความสุขเลยลองหันเข้าหาธรรมะดูบ้างและก็ได้พบความสุขที่แท้จริง บอกว่าเดือนหน้าจะไปจาริกแสวงบุญที่อินเดียชวนพริมไปด้วยกันไหม

พริมว่าบอกสนใจ พลันกวินก็พูดแทรกขึ้นว่าตนจะไปด้วย พริมยังหมางเมินเดินหนี กวินจึงไปรอพบพริมที่บ้านทุกวัน เมื่อได้คุยกันเขาสารภาพผิดที่โกหกเธอเพราะกลัวเธอรู้สถานะที่แท้จริงของตนแล้วจะทิ้งไป ในที่สุดพริมก็เข้าใจและอภัยให้เขาแต่ก็ยังกังวลว่าครอบครัวเขาจะรับตนได้หรือไม่ เพราะเงิน งาน ตำแหน่งเราต่างกันมาก

กวินบอกว่าจิตใจที่ดีงามของเธอมีค่าเหนือกว่าของพวกนั้นไม่รู้กี่ร้อยเท่า ตนต่างหากที่ไม่คู่ควรกับเธอ หยิบล็อกเกตมาเปิดให้พริมดู “ล็อกเกตคือปาฏิหาริย์ที่จะยืนยันว่ารักของเราไม่ธรรมดาเลย ต้องขอบคุณเทวดาที่อุ้มสมคนที่อยู่ไกลคนละซีกโลกได้มารักกันและเพื่อไม่ให้เทวดาผิดหวัง เราต้องรักกันมากๆ”

ทุกคนที่คิวปิดฮัทยินดีกับพริมและกวิน ต่างมองไปที่คู่ของวราลีกับภีม คิวปิดบ่นว่ากว่าจะจับคู่ให้ได้แต่ละคู่หืดขึ้นคอ ถามภีมว่าเขายังโสดอยู่ไม่ใช่หรือ ภีมบอกว่าตนยังไม่อยากมีความรัก

“ฮ้า...ทำบริษัทความรักแต่ไม่เชื่อความรักได้ด้วยเหรอ ผมขอร้องล่ะอย่าให้ต้องเหนื่อยอีกเลย แต่ยังดีนะที่คุณรู้ใจตัวเองว่ารักใคร ไม่เหมือนเจ้ามหาเศรษฐีเบื๊อกนั่น ไม่ต้องมีตัวช่วยก็ได้มั้ง...สู้ๆ...อย่าให้คิวปิดต้องเหนื่อยอีกเลย พอเหอะ”

กวินพาพริมไประลึกความรักกันที่พิชยมันตราและขอเธอแต่งงาน พริมตอบรับ ต่างกอดและบอกรักกันและกัน

กวินหยิบล็อกเกตขึ้นมาคู่หนึ่ง เป็นล็อกเกตสีทองใหม่เอี่ยมยื่นให้พริม

“คุณพ่อฝากมาให้เป็นของขวัญ ท่านสั่งทำพิเศษ ล็อกเกตนี้ จะเป็นตัวแทนความรักของเราตลอดไป”

กวินสวมล็อกเกตให้พริม ล็อกเกตเปิดออก สีชมพู อ่อนๆ ลอยออกมาล้อมรอบทั้งคู่ที่กำลังหอมกันอย่างมีความสุข

ooooooo

จบตอน “กามเทพจำแลง”

กามเทพจำแลง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด