ตอนที่ 6
ฝ่ายหรรษารับผิดชอบจัดงาน “คู่ต่าง” ที่โรงแรมแกรนด์พิชยะ มีแพรวพราวกับพริมาเป็นผู้ช่วยและแมนเป็นพิธีกร
เมื่อเริ่มงาน แมนขึ้นเวทีทำหน้าที่พิธีกร พูดถึงคอนเซปต์งานวันนี้ว่า
“ทุกๆท่าน วันนี้จะได้เจอกับคนโสดที่นิสัยตรงกันข้ามกับเรา คอนเซปต์วันนี้คือคู่ต่าง คู่แตกต่างกันบางครั้งก็กลายเป็นว่า มาเติมเต็มส่วนที่เราขาดไป ขอให้ทุกๆคนใช้โอกาสคุยกันให้เต็มที่ และบทเพลงเพราะๆจะขับกล่อมท่าน”
พอเริ่มงานก็มีชายหญิงคู่หนึ่งยืนทะเลาะกันแพรวพราวบอกหรรษาว่าเขาเป็นอดีตสามีภรรยาที่บังเอิญมาเจอกันในงาน หรรษาจับปากกาที่ทิมให้เป็นกำลังใจ พูดอย่างมั่นใจว่า
“เป้าหมายเราคือสร้างคู่รัก เพราะฉะนั้นเอาคนทะเลาะกันไว้ในงานไม่ได้ค่ะ เสียบรรยากาศ ต้องเชิญออกค่ะ ออกไปคุยข้างนอกงาน แล้วเราจะคืนเงินให้”
แพรวพราวรีบไปจัดการ ชมหรรษาว่า “เดี๋ยวนี้หนูษาเปลี่ยนไปมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนป่านนี้คงสติแตกวิ่งโวยวายพาลูกค้าตกใจไปแล้ว”
“เพราะหนูษามีเครื่องรางดี ขอบคุณนะคะคุณทิม” หรรษาบอกแพรวพราวก็ว่านั่นซินะ จู่ๆก็เป๊ะขึ้นมาซะงั้น
“นั่นน่ะสิ เคลียร์ได้ทุกปัญหา ทุกเลเวลเลย ไม่รู้ใส่ร้อยหินราชวงศ์โชซอนหรือพกลูกเทพ”
หรรษายิ้ม มองปากกาในมือที่พกติดตัวตลอดเวลา...นาทีนี้...เธอคิดถึงทิมมาก...
ooooooo
เมื่อได้เวลา... “คู่ต่าง” ตัวอย่างต่างเตรียมพร้อม แพรวพราวประกาศว่า
“เรามาสัมภาษณ์คู่นี้กันดีกว่าเป็นคู่ที่น่าสนใจมากค่ะ คนนึงชอบอยู่บ้าน คนนึงชอบเที่ยว”
“ฉันไม่ชอบออกจากบ้านเพราะขับรถหลงทางค่ะ” ฝ่ายหญิงเริ่มก่อน ฝ่ายชายพูดต่อทันทีว่า
“ขับรถหลงทางเป็นเรื่องสนุกมากชอบเดินทางครับ ส่วนใหญ่มันกลายเป็นเรื่องสนุกๆเอาไว้จดจำ ที่ผมสงสัยคือคนที่อยู่บ้านเนี่ย ไม่เหงาหรือครับ”
“อยู่บ้าน ช่วยให้เราได้มีเวลาทบทวนความคิดความรู้สึกของตัวเอง”
“อืม...จริงด้วย”
หรรษามองไปที่ป้าย รักต่างเติมเต็ม และคำว่า contrast ก็เศร้า ยิ่งคิดถึงทิมมาก
แพรวพราวแสดงความยินดีกับคู่ต่างที่เติมเต็มให้กันอย่างลงตัว แล้วเชิญพบกับโชว์พิเศษ
แต่ระหว่างนั้นเองมีมือลึกลับที่มุมเครื่องดื่ม จังหวะที่ทุกคนสนใจบนเวที มือลึกลับนั้นก็แอบใส่ยาถ่ายลงในโถเครื่องดื่มคนให้เข้ากันแล้วเดินจากไป
แพรวพราวเสนอคู่ต่างคู่ที่สอง คนหนึ่งเข้าวัดอีกคนเข้าผับ คนเข้าวัดบอกว่าเข้าผับหนวกหู คนเข้าผับบอกว่าจะได้ปลดปล่อยบ้าง คนเข้าวัดบอกว่าก็จริงจะได้รู้คุณค่าของความสงบ
“ผมก็อยากเข้าวัดนะ เมื่อก่อนไม่มีเพื่อนตอนนี้คงมีคุณเป็นเพื่อน”
คู่ต่างพยักหน้าให้กัน ต่างเติมเต็มให้กันอย่างลงตัว บรรยากาศสดชื่นอบอุ่นด้วยความเข้าใจกัน แต่หรรษากลับเศร้า คิดถึงอดีตของตนกับทิมบนเรือที่เมื่อพบความแตกต่างก็ทะเลาะกัน เธอเศร้าจนน้ำตาไหลเดินออกไป แมนกับแพรวพราวเห็นจึงเดินตามไปแพรวพราวถามว่าร้องไห้ทำไม? เป็นอะไร?
หรรษาสะอื้น อารมณ์มากมายที่มีอยู่พลุ่งพล่านจนพูดแทบไม่รู้เรื่อง
“คุณทิม...อยากบอกคุณทิมว่า คุณทิมทำให้หนูษาเปลี่ยนไป อยากบอกเขาตั้งแต่คราวที่แล้ว อยากให้เขารู้ว่า ปากเสียๆชอบด่าของเขา หนูษาชอบมากเลย เพราะมันทำให้หนูษาดีขึ้น เก่งขึ้น คนอื่นจะคิดยังไงก็ไม่รู้ แต่หนูษาว่าเขาจริงใจ”
แพรวพราวบอกให้โทร.บอกเขาก็ได้ หรรษาสะอื้นหนักขึ้นไปอีก บอกว่า...
“โทร.ไม่ได้ บอกไม่ได้แล้ว เขาบอกว่าไม่อยากเจอหนูษา เพราะมันอยากเจอ แล้วหนูษาก็อยากเจอ ไม่อยากให้เขาพูดว่าไม่อยากเจอ เพราะมันอยากเจอ แล้วที่หนูษาพูดว่าไม่อยากเจอ แต่มันก็คืออยากเจอ”
“โอเค พอแล้ว ไม่เข้าใจ...แต่เข้าใจนะ เหมือนไม่รู้เรื่องแต่คุณแม่รู้เรื่อง หนูษาเอ๊ย คุณแม่เห็นใจเลย เห็นใจ เฮ้ย...อย่าร้องสิเดี๋ยวคุณแม่ร้องไห้ตามนะ มาสคาร่าจะพังหมดนะ” แมนหน้าเบะแต่พยายามไม่ร้องกลัวไม่สวย
ทิมแอบดูอยู่ เห็นหรรษาร้องให้หนักก็ซาบซึ้ง รู้ชัดว่าหรรษาชอบตนและตนก็รักเธอมากด้วย
มือถือของแมนดังขึ้น พริมาโทร.ถามว่าของชำร่วยที่ต้องแจกสมาชิกในงานอยู่ไหน หรรษาบอกว่าอยู่ที่เคาน์เตอร์เดี๋ยวตนไปเอาให้ ทิมได้ยินแอบตามหรรษาไป
เหมือนโอกาสจะเป็นใจ ที่เคาน์เตอร์ไม่มีใครอยู่เพราะออกเวรกันหมดแล้ว ทิมเดินเข้าหาเธอยิ้มแย้มมีความสุขเพราะแอบรู้มาว่าเธอชอบตน บอกว่าใครๆ ก็เกลียดปากตนแต่เธอกลับชอบ มองเธอด้วยสายตาเปี่ยมด้วยความรัก กอดและบอกว่า
“ตั้งแต่เจอเธอใจฉันมีแต่ความปั่นป่วน เพราะฉะนั้น เธอโดนบ้างสมควรแล้ว” หรรษาบอกให้เขาเอามือออก ถามว่าเห็นตอนที่ตนคุยกับพี่มินนี่เมื่อกี๊หรือ เขาไม่ตอบแต่พร่ำบอกว่า “ความปั่นป่วน ความผิดพลาดคือสัญญาณบอกเวลาที่เรารักใครสักคน...เธอกำลังหลงฉัน!”
ทิมบอกว่าตนเห็นโปสเตอร์ในงานเห็นสคริปต์แล้ว เธอเขียนขึ้นมาจากอะไร บอกให้ท่องสคริปต์ให้ฟังซิ ทั้งสองมองหน้ากันต่างรู้ดีว่า ตนคือคู่ที่แตกต่าง และสคริปต์นั่นคือเรื่องของเรา หรรษาเคลิ้ม เริ่มท่องสคริปต์ ซึ่งก็พอดีกับที่แพรวพราวกำลังพูดสคริปต์บนเวทีเพื่อนำเข้าสู่บทเพลง...
แพรวพราวพูดบนเทวีขณะที่หรรษาพูดต่อกันอยู่ข้างล่างอย่างซาบซึ้ง ในอารมณ์เดียวกัน...
“อยู่ด้วยกันลำบากก็จริง,แต่เมื่อไหร่ที่ทั้งสองยอมเปิดใจ,เราจะพบโลกอีกใบหนึ่ง,โลกที่สมบูรณ์!”
พอสิ้นเสียงแพรวพราวในประโยคสุดท้าย ดนตรีก็กระหึ่มขึ้น ทิมจูบหรรษาอย่างรักใคร่ ในขณะที่แมนร้องเพลงหวานซึ้ง และบรรดาสมาชิกในงานต่างจับคู่เต้นรำมองกันด้วยความรัก
หรรษาเคลิ้มได้ครู่เดียวก็ผลักทิมออก บอกว่าตนคบเขาไม่ได้ ทิมด่าทันทีว่า
“ยายสัตว์เซลเดียว! ตั้งสติหน่อย ฉันเป็นใคร เธอเป็นใคร กล้าปฏิเสธฉันหรือ”
หรรษาถูกด่าก็จ๋อยไปตามเคย...
ooooooo
ขณะบรรยากาศในงานกำลังเบิกบานแจ่มใสเต้นรำกันหวานชื่นอยู่นั้น ก็มีบางคนปวดท้องร้องอย่างเจ็บปวดและทยอยกันปวดท้องร้องกันระงม หมอและ พยาบาลที่มาร่วมงานนี้ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลกันวุ่นวาย
หรรษายังอยู่กับทิมที่ห้องครัว เธอพนมมือภาวนาขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองทิมเพราะครั้งนี้เขาจูบเธอจะต้องมีเรื่องใหญ่แน่ๆ ทิมบอกว่าหัวใจกระดาษที่เธอพกในกระเป๋าเป็นของตน บางทีเราอาจจะหลีกกันไม่พ้นก็ได้
ขณะทั้งสองกำลังว้าวุ่นใจกันอยู่นั้น ก็ต้องตกใจเมื่อมีโทรศัพท์รายงานว่าคนที่มางานของคิวปิดฮัทปวดท้องเพราะอาหารเป็นพิษ ทิมตกใจมากที่เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจริงๆ
บรรยากาศในห้องจัดงานชุลมุนวุ่นวาย บ้างประคองคนป่วยบ้างเข็นรถคนป่วยช่วยกันลำเลียงขึ้นรถพยาบาลที่จอดอยู่หน้าโรงแรม ข่าวเร็วราวกับไฟลามทุ่ง ครู่เดียว เหตุการณ์ก็เป็นข่าวลงเต็มโซเชียลแล้ว
ทิมก้าวพรวดๆออกมาคุณหญิงแทบจะวิ่งตามบอกให้รอด้วย ทิมบอกว่าตนต้องเข้าประชุมเรื่องความเสียหาย ภีมได้ยินบอกว่าใช่ เราต้องคุยกันเรื่องความเสียหาย แพทรีบเข้าไปกระซิบบอกทิมว่าภีมเป็นเจ้าของคิวปิดฮัท ทั้งสองปะทะกันอย่างตึงเครียด เรื่องลงเอยได้เมื่อทิมยืนยันจะรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ที่ทำให้ทิมปวดหัวยิ่งขึ้นคือ มีคลิปที่ทิมกำลังจูบกับหรรษาในครัวเผยแพร่พ่วงกับข่าวอาหารเป็นพิษด้วย! วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนว่าทิมแอบพาผู้หญิงไปฟีเจอริ่งในห้องครัว สกปรกจนคนท้องเสีย ด่าว่าวิตถารเรียกร้องให้หน่วยงานทำความสะอาดตั้งแต่จิตใจผู้บริหารยันห้องครัว!
ไม่เพียงถูกโลกโซเชียลกระหน่ำ ทิมยังถูกคุณหญิงตำหนิรุนแรงว่าทำให้ตนผิดหวังมาก สองครั้งแล้วกับหรรษา
“เราคบกันอยู่” ทิมบอก คุณหญิงตกใจมาก ถามว่า คบกันแปลว่าอะไร!
นิพัทธ์แค้นที่ถูกทิมจับได้ว่ายักยอกของถือโอกาสนี้ถล่มว่า ทิมผู้สมบูรณ์แบบที่แท้ก็สร้างภาพเล่นบทรักในที่ไม่สมควรจนเกิดเรื่องเกิดราว ธรณ์แก้ต่างให้พี่ชายว่าเขาไม่ทำอย่างนี้หรอก พูดกันเว่อร์ไปเอง ทั้งยังย้อนว่าแต่เรื่องที่นิพัทธ์ยักยอกของนั้นเป็นเรื่องจริง
นิพัทธ์โทษว่าทิมเอาเรื่องคดีไปเล่าให้ลูกเมียตนฟัง พวกเขาโกรธมากไม่พูดกับตนและไล่ตนออกจากบ้าน ชีวิตตนพินาศเพราะทิมคนเดียว ธรณ์แย้งว่าคงไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียวเป็นเพราะเขามีเมียน้อยด้วย นิพัทธ์โต้ว่าผู้ชายก็มีพลั้งเผลอบ้าง
ธรณ์บอกว่าทิมคงกลัวเขาเลิกไม่ได้เลยบอกให้ลูกเมียช่วยจัดการด้วย ถามว่าแล้วเขาเลิกกับผู้หญิงคนนั้นหรือยัง
“เลิกก็เลิก แต่เรื่องคุณทิมที่ทำกับผมคราวนี้ผมโกรธจริงๆนะ ชาตินี้ผมไม่มีวันให้อภัยคุณทิมเด็ดขาด ผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” นิพัทธ์กำหมัดกัดฟันจ้องไปข้างหน้าแววตาร้าย ธรณ์เห็นแล้วอดหวั่นใจไม่ได้
วันนี้หรรษากับแมนนั่งกินกาแฟกันที่ข้างร้านโชห่วย สวยถือสมาร์ทโฟนเข้ามากับโส่ยถามหรรษาว่าไปจูบกับผู้ชายมาหรือบอกพ่อให้จัดการเลย โส่ยทำขึงขังว่าเรื่องนี้เสียหายมากต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแล้วเรียกค่าเสียหายเป็นกิฟต์วอชเชอร์สามใบเอาที่กระบี่ บัตรฟรีพักสักอาทิตย์พร้อมคูปองอาหาร
หรรษาโวยว่าตนเสียหายขนาดนี้พ่อเรียกแค่นี้เองหรือ โส่ยบอกว่าเกรงใจเขา คิดดูคุณทิมเป็นใครและเราเป็นใคร สวยด่าหรรษาว่าอยากตกถังข้าวสารเดี๋ยวก็โดนเขาฟันแล้วทิ้งหรอก หรรษาโมโหเลยเอาคืนว่ายังดีกว่าพี่ที่ไม่ทำงานหาเงินเข้าบ้าน คนดูแลตัวเองไม่ได้อย่างพี่ไม่มีสิทธิ์มาด่าตน สองพี่น้องเลยทะเลาะกันจนโส่ยตะโกนว่าด่ากันทำไมพี่น้องต้องรักกันสิ!
ขณะนั้นเอง มีเด็กเอาดอกกุหลาบขาวมาให้หรรษาบอกว่ามีผู้ชายฝากมาให้ หรรษากับแมนหยิบการ์ดที่ติดมาขึ้นดู
“เจมส์!”
หรรษางงๆว่าเรื่องอะไรกันเพราะเจมส์คือแฟนเก่าคนสุดท้ายที่เลิกกัน แมนบอกว่าได้ยินว่าหรรษาจะหาแฟนตนเลยหาแฟนเก่าของเธอจนเจอนายคนนี้ สวยมองกุหลาบในมือหรรษาพูดอย่างหมั่นไส้ว่า
“ชิ...เสน่ห์แรงไม่เบานะแก! ยังจำได้ไหม แฟนเก่าแกทุกคนหนีแกเพราะแกมันตัวซวย เพราะฉะนั้นบอกเลิกคุณทิมไปซะ” สวยโกรธจนหรรษางงว่าเป็นอะไรของเค้า?
ooooooo
ทิมหงุดหงิดหัวเสียมากที่หรรษาเงียบหายไปเป็นอาทิตย์ แล้วเขาก็ต้องหัวเสียหนักขึ้นไปอีกเมื่อคอมพ์ของโรงแรมถูกแฮ็กเขาทำท่าจะออกไป แพทมาบอกว่าอีกสิบนาทีฝ่ายจัดซื้อจะเริ่มประชุมแล้วจะไปไหน
ทิมบอกให้แพทเข้าประชุมแทน ตนมีเรื่องที่ต้องสะสาง แพทจะแย้งก็ถูกทิมขัดทันทีว่าไม่มีคำว่าแต่!
แพทจำต้องเงียบ แล้วจู่ๆหน้าจอโปรเจกเตอร์และคอมพิวเตอร์ทุกตัวของโรงแรมก็ดับวูบลง ปรากฏตัวอักษรไล่เรียงกันบนจอว่า
“คนอื่นทำผิด ไล่ออก ตัวเองทำผิด ทำไมไม่ ลาออก ลาออกไปซะ”
พนักงานทุกคนมองหน้ากันอย่างตื่นกลัวทิม
เขาเองก็ตกใจดูจอพึมพำ
“ระบบคอมพิวเตอร์ของแกรนด์พิชยะโดนแฮ็ก!”
คนที่รองรับอารมณ์ของทิมก็คือแพทตามเคย ด่าแล้วสั่งให้ไปจัดการอะไรสักอย่างมายืนบื้ออยู่ทำไม!
“ครับๆ ผมจะไปตามจนกว่ามันจะหายครับ” แพท ลนลานออกไปจัดการ
หมวดปรัชวินทร์เข้ามาหาทิมที่นั่งมองกระดานหมากรุกเครียด บอกว่าทีมงานของตนกำลังตรวจข้อมูลที่แผนกไอทีของบริษัท แต่บริษัทใหญ่มากคงต้องใช้เวลาหลายวัน
“มันเดินเกมบุกผมตลอด ผมได้แต่ตั้งรับ โธ่โว้ย!” ทิมสบถ ผลักกระดานหมากรุกกระเด็น
“ทุกครั้งที่มันเดินหมาก มันจะเปิดช่องโหว่เสมอ ถ้าคุณคิดให้ดีๆจะเจอเบาะแสจากช่องโหว่นั้น” หมวดเอ่ย
“การที่มันรู้รหัสของโรงแรมแสดงว่ามันต้องเป็นคนใกล้ตัว...ธรณ์ก็ยังสงสัย นายนิพัทธ์ยิ่งน่าสงสัย” ทิมเครียด
“มีคนเข้าถึงระบบน้อย แปลว่าเรามีผู้ต้องสงสัยไม่มาก เพราะฉะนั้นคนแฮ็กระบบคือคนที่คิดจะลอบฆ่าคุณแน่นอน” หมวดฟันธง ทิมฟังแล้วพยักหน้า
ooooooo
วันนี้ทิมกลับบ้านเห็นธรณ์อยู่กับแม่ ป้าแมวและคนใช้อื่นๆ ธรณ์กำลังสนุกกับการแนะนำการแต่งหน้าให้ป้าแมว อยู่ในห้อมล้อมของทุกคน ทิมเห็นแล้วสะท้อนใจคิดถึงอดีตที่ตนติวหนังสือให้ธรณ์ พี่น้องรักกันดี แต่วันนี้...ต่างไปแล้ว
“พี่น้องฆ่ากันตายเพื่อชิงอำนาจ ชิงสมบัติมีมากมาย แต่เป็นนายจริงหรือธรณ์นายจะฆ่าฉันจริงหรือ” ทิมคิดเครียดทั้งรักและกลัวน้อง ทิมสับสนจนตัดสินใจออกไปหาหรรษา
หรรษากำลังเตรียมตัวจะกลับมองไปเห็นรถของทิมมาจอดข้างหน้าเธอตกใจมากวิ่งหาที่ซ่อนตัวราวกับคุมสติไม่อยู่
สะคราญกำลังถูพื้นอยู่ ทิมเข้ามาถามหาหรรษา สะคราญบอกว่าหรรษากลับไปแล้วบอกทิมให้กลับไปเสียแล้วถูพื้นไล่เขาออกไป ทิมกระโดดหนีไม้ม็อบหยองแหยง โมโหด่าว่าทำบ้าอะไรของเธอ!
ทรงพลช่วยพาหรรษาหลบออกมาที่หน้าออฟฟิศชี้ให้เธอไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ของตนที่จอดอยู่แล้วพากันย่องออกไป ทรงพลวิ่งไปได้แต่หรรษาเตะถังขยะล้มทำให้ทิมหันมาเห็น ทรงพลบอกให้หรรษาวิ่งมาขึ้นรถตนแล้วตะบึงออกไปเลย ทิมแค้นมากขึ้นรถขับตามไปปาดหน้ามอเตอร์ไซค์ทำให้ทรงพลต้องจอดรถลงมา
ทิมถามหรรษาว่าหนีตนทำไม คราวที่แล้วเราพูดกันรู้เรื่องแล้ว จูบกันมาด้วยแล้ว เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก!”
ทรงพลตกใจถามว่าจูบกันแล้วหรือ งั้นตนไม่ยุ่งเรื่องผัวเมีย หรรษาโวยว่ายังไม่ได้เสียกัน ทิมแย้งว่า
“แต่เธอรู้สึกดีกับฉัน ฉันมั่นใจ! หรรษา เธอทำให้ฉันดีขึ้น และฉันก็ทำให้เธอดีขึ้น เรื่องของเราอย่าใช้สมองคิด ใช้หัวใจของเธอคิดบ้างได้ไหม หนูษา”
หรรษาลำบากใจมากว่าจะคบกับทิมหรือเลิกกันดี เธอถอยหนีเขาไปถึงกลางถนน บอกให้เขากลับไปเสีย ตนไม่ไปกับเขา ย้ำว่า
“เพราะเราจูบกันไง โรงแรมคุณถึงลำบาก เพราะเราจูบกันนั่นแหละชื่อเสียงของคุณถึงป่นปี้”
รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับมาบีบแตรขอทาง ทิมพุ่งไปดึงหรรษายื้อยุดกันอยู่จนมอเตอร์ไซค์ต้องเป็นฝ่ายหลบไปเอง หรรษาบอกให้ทิมกลับไปเสีย เขายิ่งตามตนก็จะยิ่งหนี เดินไปหาทรงพลชวนไปกันเถอะ
“คนอย่างทิม พิชยธร มีแต่ปฏิเสธคนอื่นไม่เคยให้ใครมาปฏิเสธง่ายๆหรอก เธอปฏิเสธฉันมากเกินไปแล้ว มานี่!” ทิมดึงหรรษาเข้ามายกพาดบ่าเอาไปใส่รถเลย หรรษาพยายามดิ้น ทรงพลจะเข้าช่วย ถูกทิมปราม “อย่านะ เรื่องผัวเมีย!”
ทรงพลจำต้องถอย มองทิมกับหรรษายื้อยุดกันพึมพำงงๆ
“โอ้โห เห็นคุณษาโง่มามาก งานนี้โคตรโง่ หล่อขนาดนี้ รวยขนาดนี้ ตื๊อขนาดนี้ มีสมองป่าววะ...โฮ้ย....”
ooooooo
ระหว่างหรรษาอยู่ในรถกับทิม เธอพยายามบอกเขาว่า ผู้หญิงของคิวปิดฮัททั้งแปดคนแต่ละคนมีเรื่องราวให้กลัวความรักไม่เหมือนกัน ตัวเธอเองเป็นตัวซวยที่คบกับใครก็มักเกิดเรื่องราว
ทิมถามว่าที่เธอพูดถึงบ่อยๆคือปมเรื่องนี้หรือ หรรษาพยักหน้าย้ำกับเขาว่า
“ชีวิตคุณดีอยู่แล้ว ทำงานเก่งมีคนต้องพึ่งคุณมากมาย คุณต้องปลอดภัย ต้องมีแต่ความสุข นี่คือสิ่งที่หนูษาต้องการ”
แม้หรรษาจะไม่ได้พูดคำว่ารักออกมาแต่ความห่วงใย น้ำเสียงและแววตาเธอสื่อออกมาอย่างท่วมท้น นาทีนี้ทิมเข้าใจแล้วว่าทำไม เธอจึงหนีตนมาตลอด
ทิมเองระบายความอัดอั้นน้อยใจของตัวเองว่า วันนี้ตนกลับถึงบ้านพบว่าตัวเองเป็นส่วนเกินในขณะที่น้องชายเป็นที่รักของทุกคน คนที่คิดจะลอบฆ่าตนยังไม่หยุด ตนเป็นที่หนึ่งแต่ไม่เป็นที่รักของใคร ยืนยันว่ามันไม่เกี่ยวกับเธอ
หรรษาถามว่าคนพวกนั้นก่อเรื่องอีกหรือ ทิมพยักหน้า ยอมรับว่า...
“เวลาอย่างนี้ ผมกลับคิดถึงคุณ คุณเป็นคนเดียวที่ยอมรับนิสัยแย่ที่สุดของผมได้ อยู่กับคุณผมไม่ต้องเป็นส่วนเกิน ไม่ได้เป็นที่รังเกียจ”
แม้จะไม่ได้บอกรักแต่หรรษาก็รู้สึกได้และคิดไม่ถึงว่าทิมจะชอบและเห็นคุณค่าของตนถึงขนาดนี้...
ทิมขับรถมาถึงทางเลี้ยว เขาชะลอความเร็วแต่รถยังคงแล่นฉิวไป ทิมเอะใจจึงหักเลี้ยวจนรถส่ายสะบัด หรรษาตกใจทิมเองก็พยายามเบรกแต่รถไม่หยุด ข้างหน้ามีรถสิบล้อสวนมาพอดี ทิมตัดสินใจดึงเบรกมือสุดแรงจนรถหมุนคว้างและพุ่งลงข้างทางอย่างแรง
ทั้งสองถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โชคดีที่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย การะเกด แพทและหมวดปรัชวินทร์รีบมาโรงพยาบาลพอเห็นทั้งสองไม่เป็นอะไรมากก็โล่งใจ แพทถามว่าเกิดอะไรขึ้น
ทิมบอกว่าตนก็อยากรู้ ถามหมวดว่าตรวจสอบที่เกิดเหตุมาแล้วใช่ไหม หมวดหน้าเครียดบอกว่า พบว่าเครื่องยนต์รถเขาถูกดัดแปลง ทิมบอกว่ารถคันนี้เป็นรถส่วนตัวมีแค่ตนกับพนาคนขับรถของตนเท่านั้นที่ใช้
ปัญหาโยงไปสู่การลอบฆ่าอีกครั้ง หมวดถามว่าเขาคิดถึงใครไหม ทิมหน้าเศร้าบอกว่ามีอยู่ไม่กี่คน
คงเป็นคนที่ตนรักมากด้วย เขาไม่เอยชื่อแต่ในใจเชื่อว่าเป็นธรณ์!
หมวดเตือนให้ใจเย็นๆ ทิมบอกว่ารถคันนี้เพิ่งออกจากอู่คงไม่มีใครกล้าแตะต้องรถคันนี้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต ตนจะไม่ทำอะไรรุนแรงแต่ต้องเตือนสติให้
ออกมาสู้กันแบบลูกผู้ชาย ไม่ใช่หมาลอบกัดแบบนี้
หมวดบอกว่าจะลองติดต่อไปที่อู่ดู เผื่อมีหลักฐานเพิ่ม
การะเกดผวาเข้าหาหรรษาถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น หรรษาบอกว่าเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง แล้วชวนกันกลับ ทิมบอกหรรษาว่า
“ดูแลตัวเองนะครับ แล้วก็รับสายผมด้วย”
ooooooo
ทิมถามพนาว่าก่อนหน้านี้มีใครเอารถคันนี้ไปไหม พนาอึกอัก แต่ในที่สุดก็บอกว่าเปลวเอารถไปใช้เมื่อสองวันก่อน
พอตกเย็นเปลวกับธรณ์ก็กลับมาพร้อมกับเอารถมาเก็บเรียบร้อย ทิมสงสัยว่าทำไมเปลวต้องยุ่งกับรถคันนี้ด้วย?
ทิมกลับถึงบ้าน ทุกคนรออยู่อย่างเป็นห่วง คุณหญิงโผเข้าหามองสำรวจทั่วตัวถามว่าเจ็บตรงไหนบ้าง ทิมบอกว่า แค่ถลอกนิดหน่อย ป้าแมวถามว่ามีคนตัดหน้ารถหรือ
“ทางตำรวจบอกว่า มีคนตัดสายเบรกรถผมครับ” พูดพลางจ้องหน้าธรณ์ ทุกคนช็อกป้าแมวถามว่า
ทำไปทำไม “ก็ไม่เห็นจะแปลกนี่ ในเมื่อใครๆก็อยากให้ฉันตายทั้งนั้น” ทิมประชดอย่างเจ็บปวด คุณหญิงติงว่าพูดอะไรอย่างนั้น ทิมยืนยันว่าจริง ไม่เชื่อก็ลองถามเปลวดูว่าเขาอยากให้ตนตายหรือเปล่า เปลวตกใจบอกว่าตนไม่เคยคิดแบบนั้นเลย
“อืม...ถ้าคุณไม่ใช่คนคิด งั้นก็แปลว่าคุณอาจจะทำตามคำสั่งเจ้านายที่รักของคุณก็ได้ จริงไหม” ทิมไล่บี้เปลวแต่ตามองธรณ์ ธรณ์ถูกมองอย่างจับผิดตลอดเวลา ถามอย่างหมดความอดทนว่า พี่พูดอะไร ต้องการอะไรกันแน่?
ทิมบอกว่าตนรู้แล้วว่าธรณ์มายุ่งกับรถของตนหลังออกจากอู่ พนาจึงขอโทษธรณ์เพราะได้ยินว่าธรณ์จะบอกทิมเองว่าเอารถไปใช้แต่ก็ไม่เห็นบอก แต่เรื่องรถถูกตัดสายเบรกเป็นเรื่องจริง ธรณ์ตกใจมาก เปลวจึงออกมายอมรับเล่าว่า...
ในวันที่ลูกสาวตนจะไปรับปริญญานั้น เกิดไม่สบายไข้สูง แม่เลยไม่ให้ไปเพราะลูกร่างกายอ่อนแอ ลูกสาวเสียใจร้องไห้หนักจนแม่ใจอ่อนยอมให้ไปแต่ต้องหารถไปให้ทันเที่ยงที่ชลบุรี ป้าแมวโทร.จะยืมรถญาติก็ไม่มีใครรับสาย ธรณ์รู้จึงบอกให้เอารถตนไปแต่นึกได้ว่ารถเพิ่งเข้าอู่ จึงตัดสินใจเอารถของทิมไปบอกพนาให้เอากุญแจรถมา พนาอึกอักเพราะรู้ว่าทิมไม่ชอบให้ใครมาใช้รถ ธรณ์บอกว่าตนจะบอกกับทิมเอง เปลวกับพนาไม่ต้องบอกเดี๋ยวโดนด่า
แต่เมื่อกลับมาแล้วก็ลืมบอก เปลวเอารูปรับปริญญาของลูกสาวให้ทิมดูเป็นหลักฐาน ทิมซักว่าลูกสาวเปลวป่วยไม่ได้เข้าโรงพยาบาลใช่ไหม เปลวบอกว่าแค่เป็นไข้นอนอยู่ที่บ้าน
“ก็เท่ากับไม่มีหลักฐาน นายกับเปลวอาจจะสร้างหลักฐานนี้ขึ้นมาเพื่อตบตาฉันก็ได้ ใช่ไหมธรณ์”
ทุกคนอึ้ง ไม่คิดว่าทิมจะระแวงขนาดนี้ ธรณ์เสียใจมากถามว่าตนจะทำทำไม ทิมถามว่าถ้าไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร คุณหญิงถามว่าทิมถูกลอบทำร้ายหรือ ตนเชื่อว่าไม่ใช่ธรณ์แน่ ธรณ์ทั้งโกรธและเสียใจจนน้ำตาคลอถามว่าทิมเชื่อเข้าไปได้ยังไงว่าตนเป็นคนทำ
ทิมบอกว่าถ้าตนเป็นอะไรไปธรณ์จะได้ประโยชน์มากที่สุด คุณหญิงเชื่อว่าธรณ์ไม่มีวันทำแบบนั้นแน่ ทำให้ทิมยิ่งเสียใจว่าแม่ไม่ได้สนใจตนที่ถูกหมายชีวิตเลย น้ำตาคลอตัดพ้อว่า “สำหรับแม่ แม่มีแค่ธรณ์เท่านั้น”
ทิมพรวดพราดออกไป คุณหญิงพยายามจะเรียกมาชี้แจง แต่ทิมออกไปแล้ว ทุกคนต่างช็อก!
ooooooo
ขณะที่การะเกดพาหรรษาเดินลงบันไดโรงพยาบาล ก็บ่นว่าชีวิตของเธอกับทิมนี่มันวุ่นวายจัง หรรษาบอกว่าเห็นไหมว่าเจอกันทีไรมีเรื่องตลอด อยู่กันเป็นเจ้ากรรมนายเวรยังไงก็ไม่รู้
พลันหรรษาก็แว่วเสียงทิมว่า “แต่มันกลับทำให้ผมคิดถึงคุณ” เธอหันขวับไปดูก็ไม่มีใคร การะเกดบอกว่ามีสติแล้วดูดีๆ หรรษาตั้งสติมองอีกครั้ง เธอถอนหายใจคอตก บ่น...
“เฮ้อ...คงเป็นอาการหลอนของหนูษาเอง ฮือ...ที่คุณทิมบ่นว่าหนูษาไปหลอกหลอนเขา หนูษาเข้าใจแล้ว เพราะตอนนี้คำพูดของคุณทิมกำลังมาหลอกหลอนหนูษาเหมือนกัน”
การะเกดมองหรรษาเหวอๆ แบบ...เป็นเอามาก
ฝ่ายทิมก็ไม่ต่างกับหรรษา เพราะใจยังคิดถึงหรรษาตลอดเวลา ทำให้แม้แต่นอนก็ผวา หลอนว่าเธอมานอนอยู่ข้างๆ สะดุ้งตื่นขึ้นมาคว้าเจอแต่ความว่างเปล่า...
นับแต่ธรณ์รู้ว่าทิมระแวงว่าตนจะฆ่าเขา ธรณ์คิดไม่ตก เมื่อแม่บอกว่าตกใจมาก ใครจะลอบฆ่าทิม เป็นไปได้ยังไง
“ผมไม่อยากเชื่อ แต่ที่เสียใจที่สุด พี่ทิมเชื่อว่าผมเป็นคนร้าย สายเลือดเดียวกัน โตมาด้วยกัน พี่เขาไม่เชื่อใจผม ไม่เห็นผมเป็นน้องเลย ผมไม่มีวันฆ่าเขา ไม่มีทางนะแม่...” ธรณ์ที่เคยแต่ร่าเริงแจ่มใส ถึงกับร้องไห้ออกมา
“ธรณ์...โธ่ลูก แม่เชื่อลูกนะ แม่เชื่อ”
ป้าแมวแอบดูอยู่สงสารธรณ์ รุ่งขณะกินข้าวเช้ากับเปลวก็บ่นว่า
“คุณทิมไม่น่ากล่าวหาคุณธรณ์ คุณทิมนั่นแหละคิดร้ายกับคุณธรณ์หรือเปล่า”
“นิสัยคุณทิมจับผิดคนไปทั่ว คราวนี้มาจับผิดน้องตัวเอง ข้อหาร้ายแรงขนาดนี้มันดูหมิ่นน้ำใจเกินไปแล้ว” เปลวบ่นป้าแมวถามว่าก่อนไปถ่ายรูปลูกรับปริญญา เปลวไม่ได้เอารถคุณทิมไปทำอะไรนะ เปลวร้องอ้าวที่ถูกป้าแมวสงสัย แม้ป้าแมวจะบอกว่าล้อเล่น แต่เปลวก็หน้าเครียด
ooooooo
เพราะถูกเสียงและภาพของทิมหลอนอยู่บ่อยๆ หรรษาทนไม่ได้ไปหาเขาที่โรงแรม ทิมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองถามว่านี่เธอจริงๆหรือ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า พอหรรษาบอกว่าคำพูดของเขาเอาแต่หลอกหลอนตน ทิมหัวเราะบอกว่า
“กรรมสนอง สะใจ เพราะคำพูดของเธอหลอกหลอนฉันมานานแล้ว”
“หนูษาอยากบอกคุณ ตอนนี้คุณแค่ท้อแท้
คุณระแวงคนไปหมด แต่จริงๆแล้วคุณเป็นที่รักของทุกคนอยู่แล้วนะคะ” เขาถามว่าจะมาบอกแค่นี้หรือหรรษาพยักหน้าบอกอีกว่า “คนที่ทำร้ายคุณต้องการให้คุณเจ็บ เจ็บที่ใจแบบนี้ เพราะฉะนั้นอย่าไปยอมเขานะคะ อย่าเสียความมั่นใจ อย่าเสียความเป็นตัวเองเด็ดขาด”
“เธอห่วงฉันจนต้องมาบอก ห่วงจนไม่ยอมคบฉัน ทั้งหมดนั่น เพราะรักฉัน!” ทิมรวบรัดจับมือเธอ หรรษาโวยวายว่าอย่ามาตีไข่แบบนั้น ทิมยิ้มขำบอกว่า เขาเรียกว่า ตีขลุมไม่ใช่ตีไข่ หรรษาเลยเขิน “นะ...เชื่อผม ทีหลังอย่าเชื่อสมองตัวเอง สมองตัวเองน่ะไว้ใจไม่ได้ เมื่อไหร่ที่ไม่แน่ใจ เชื่อผมอย่าเชื่อตัวเอง”
หรรษาบอกว่าที่ทำทั้งหมดเพราะตนอยากเป็นแค่เพื่อน ให้ความเป็นเพื่อนกับตนเถอะ ทิมโอบเธอไว้บอกว่า
“ฟังนะ การลอบทำร้ายมีมาตั้งแต่ก่อนที่เราจะเริ่มคบกัน มันเป็นเพราะนิสัยแข็งกร้าวของฉัน เพราะฉะนั้นเธอเลิกโทษตัวเองเสียที ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดวงซวยที่สุดในโลก แต่เธอจะให้ฉันสู้คนเดียวแบบนี้ต่อไปไม่ได้ สู้กับฉันเถอะนะ หนูษา เราจะผ่านเรื่องราวร้ายๆนี้ไปด้วยกัน”
คุณหญิงกับธรณ์แอบดูอยู่ คุณหญิงฮึดฮัดจะออกไปขวาง ธรณ์จับมือไว้ส่ายหน้า คุณหญิงจึงจำต้องหยุด แต่เมื่อเดินคุยกันมา คุณหญิงถามว่าทิมถูกแกล้งให้ไปติดเรือ แต่กับเด็กคนนี้เป็นเรื่องจริงหรือ?
“คนอย่างพี่ทิม ไม่ใช่นายธรณ์จอมเจ้าชู้ เขาไม่เอาปากไปประกบกับผู้หญิงที่เขาไม่ได้รักหรอกครับแม่”
“ถึงผู้หญิงคนนี้จะไม่ใช่หญิงบาร์เบียร์ แต่ก็เป็นแค่พนักงานกระท่อมกามเทพใช่ไหม”
“หรรษาเป็นคนน่ารักนะครับ ผมยังเคยจีบเขาเลย ก่อนจะรู้ว่าเขารักกับพี่ทิมน่ะ” คุณหญิงทำท่าอกจะแตกถามว่าทั้งพี่ ทั้งน้องชอบแม่คนนี้เหมือนกันหรือนี่ “ครับ...เฮ้อมันกรรมเวรอะไรนะ ผมต้องชอบผู้หญิงคนเดียวกับพี่ทิมทุกที”
ธรณ์บ่นเซ็งๆ คุณหญิงเอาแต่ส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้จริงๆ
ooooooo
วันนี้ทิมมาบอกให้พนาเอารถจอดไว้ที่ลานจอดรถโรงแรมตนจะขับกลับเอง ขณะเขาเดินไปที่รถรู้สึกมีคนมองตามหันไปก็ไม่เห็นใคร ทิมเอะใจ ระวังตัวมากขึ้น
นิพัทธ์นั่นเอง เขามองและเดินตามทิมไปจนเผชิญหน้ากัน ทิมต่อยนิพัทธ์ร่วงไปถามว่า
“แกคิดจะฆ่าฉันหรือ!”
ทิมกระโดดคร่อมตรวจอาวุธปรากฏว่าไม่มี แต่สภาพของนิพัทธ์เมาหนักและทรุดโทรมมาก นิพัทธ์ตะคอกว่าทิมทำลายชีวิตตนจนไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่มีครอบครัว ไม่มีบ้าน ไม่มีงานและไม่มีเงิน
“นายคือคนที่อยู่เบื้องหลังการแฮ็กคอม การดัดแปลงรถจนเกิดอุบัติเหตุ และทุกๆอย่างใช่ไหม”
“ใช่หรือไม่ใช่ กูก็นับวันรอมึงตายเป็นศพอยู่ข้างถนนนั่นแหละไอ้ทิม” นิพัทธ์ชี้หน้าทิมอย่างหมายฆ่าเขาให้ได้
รปภ.วิ่งเข้ามา ทิมดุว่าปล่อยคนอย่างนี้เข้ามาได้ยังไง ทำไมไม่ตรวจตราให้ดี รปภ.ขอโทษและลากนิพัทธ์ออกไป นิพัทธ์ยังคงตะโกนอาฆาตทิมว่าเงินทองช่วยเขาไม่ได้ เขาจะหมดสิ้นทุกอย่างเหมือนตน ทิมยืนมองตามเครียด
รุ่งขึ้นทิมไปเล่าให้หมวดปรัชวินทร์ฟังที่สถานีตำรวจ ทิมบอกว่าสภาพของนิพัทธ์เวลานี้เหมือนคนบ้า พร้อมจะทำอะไรที่สิ้นคิดได้ทุกอย่าง ถ้าเมื่อวานมีปืนเขาก็คงยิงตนตายไปแล้ว
หมวดฟังแล้วบอกทิมว่า “ที่ผ่านมาสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณวางแผนมาอย่างดี แต่สิ่งที่นิพัทธ์ทำกับคุณเมื่อคืน เหมือนไม่ได้เตรียมการอะไร”
ทิมบอกว่าคงจะเป็นอารมณ์ชั่ววูบและไม่มีที่ไปเพราะนิพัทธ์เองก็รักโรงแรมมาก คนที่โรงแรมบอกว่าเขามาดื่มจนเมาแบบนี้ประจำ หมวดบอกว่าจะส่งคนไปซุ่มดูนิพัทธ์เป็นพิเศษ
เมื่อทิมกลับบ้าน เขาถูกแม่เรียกไปคุย ทิมจะไม่คุย ถูกคุณหญิงสั่งป้าแมวกับเปลวล็อกตัวให้ไปนั่งคุยกันโดยมีธรณ์ร่วมอยู่ด้วย แต่พอเริ่มคุย ทุกคนก็พูดว่าธรณ์ไม่มีทางคิดร้ายกับเขา ฟังทุกคนพูดแล้ว ทิมถามว่า
“ตกลงนี่จะมารุมต่อว่าผมกันหมดเลยหรือครับ” พูดประชดธรณ์ว่า “นายนี่มันขวัญใจทุกคนจริงๆ ไม่ต้องพูดสักคำ มีคนพูดให้หมด” คุณหญิงบอกว่าตนรักลูกสองคนเท่าๆกัน ทิมถามธรณ์ว่ามีอะไรจะพูดไหม
“คนไม่ได้ทำก็คือไม่ได้ทำ วันหนึ่งความจริงมันก็เปิดออกเองแหละ”
“เป็นอันว่าทุกคนได้พูดในสิ่งที่ต้องการแล้วใช่ไหม แค่นี้ใช่ไหม” ทิมถามแล้วลุกไปเลย
“เอ้า...เดินหนีไปเฉยเลย เรากำลังปรับความเข้าใจกันอยู่นะ โฮ้ย...ลูกคนนี้” คุณหญิงหงุดหงิด
“ดื้อจริงๆ คนอะไรวะ” ธรณ์บ่น
ooooooo