เวียดนาม ยามนี้กำลังเนื้อหอม เศรษฐกิจกำลังโตวันโตคืน จีดีพีไตรมาสแรกปีนี้เติบโตถึง 7.4% เงินทุนไหลเข้าไปลงทุนในเวียดนามเป็นว่าเล่น “สาวเวียดนาม” ก็กำลังเนื้อหอมและสวยวันสวยคืน เมื่อต้นปี มิสเหงียน ฮวง เกียง ก็เพิ่งมาคว้ามงกุฎนางงาม Miss International Queens 2018 ไปครองที่โรงละครทิฟฟานี เมืองพัทยา วันเสาร์สบายๆวันนี้ ผมเลยชวนท่านผู้อ่านไปคุยเรื่อง “เวียดนาม” และ “สาวเวียดนาม” กันนะครับ

วารสาร “การเงินธนาคาร” ฉบับมิถุนายน มีรายงานพิเศษเรื่อง “หุ้นส่วนเศรษฐกิจและหุ้นส่วนชีวิต” ของ ชาวเวียดนาม ไว้อย่างน่าสนใจ ผมเลยขออนุญาตนำมาเล่าสู่กันฟัง

ใครคือหุ้นส่วนสำคัญของเวียดนาม? แค่ไปเดินเล่นในเมืองต่างๆของเวียดนามก็ได้คำตอบแล้ว หุ้นส่วนสำคัญที่สุดของ เวียดนาม วันนี้ก็คือ โสมขาว-เกาหลีใต้ ที่เพิ่งจะยิ้มออกเมื่อ คิมน้อย ผู้นำเกาหลีเหนือ เกิดถูกใจ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยอมเลิกอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี ทำให้ภาวะตึงเครียดทั้งหลายผ่อนคลายลง

ข้อมูลจาก องค์การการค้าโลก ระบุว่า นับตั้งแต่ เวียดนาม เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก ปี 2007 เป็นต้นมา มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้าไปลงทุนในเวียดนามสะสมเป็นมูลค่า 108,000 ล้านดอลลาร์ 3.456 ล้านล้านบาท โดย 1 ใน 3 หรือ 1.152 ล้านล้านบาท เป็นเงินลงทุนจาก เกาหลีใต้ เช่น ซัมซุง แอลจี ลอตเต้ เป็นต้น

เวียดนาม ยังเป็นแหล่งผลิตใหญ่ของ โทรศัพท์มือถือซัมซุง 1 ใน 3 ของโทรศัพท์มือถือซัมซุงที่ผลิตได้ทั่วโลก ปีนี้ 2018 ซัมซุงตั้งเป้าขายโทรศัพท์มือถือทุกรุ่น 320 ล้านเครื่อง เวียดนามมีส่วนแบ่งการผลิตกว่า 100 ล้านเครื่อง ปีที่แล้วเวียดนามส่งออก “สมาร์ทโฟน” มากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากจีน ทำให้ บริษัทลูกซัมซุงในเวียดนามทำรายได้ในเวียดนามสูงถึง 58,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ราว 1.856 ล้านล้านบาท มีรายได้มากกว่า เปโตรเวียดนาม บริษัทน้ำมันแห่งชาติเวียดนามเสียอีก ซัมซุงมีการจ้างงานกว่า 100,000 ตำแหน่งในเวียดนาม ยังไม่นับบริษัทจากแดนโสมอีกมากมายที่ไปทำธุรกิจในเวียดนาม สายสัมพันธ์ โสมขาว กับ เวียดนาม จึงแนบแน่นยิ่งกว่า จีน ญี่ปุ่น ที่เป็นเพื่อนบ้านเกาหลีใต้เสียอีก

...

นอกจากความผูกพันในเรื่องธุรกิจแล้ว เวียดนาม กับ เกาหลีใต้ ยังผูกพันลึกซึ้งในเรื่อง การแต่งงานของหนุ่มสาวสองเชื้อชาติ อีกด้วย

สังคมเกาหลีใต้นิยมการมีลูกชายมากกว่าลูกสาว เลยทำให้โครงสร้างประชากรของประเทศบิดเบี้ยว มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แถมหน้าตาหนุ่มเกาหลีส่วนใหญ่ (ยกเว้นดารา) ก็ไม่ค่อยหล่อเหลาเท่าไหร่ เลยหาสาวเกาหลีแต่งงานยาก ยิ่งในยุคปัจจุบัน สาวเกาหลีทันสมัยมากขึ้น แต่สังคมเกาหลีใต้ยังไม่เปลี่ยนแปลง ยังชอบให้สะใภ้ต้องคอยปรนนิบัติพ่อผัวแม่ผัว สาวกิมจิสมัยใหม่เลยไม่สนใจที่จะแต่งงาน ทำให้เจ้าสาวยิ่งขาดแคลนขึ้นไปอีก

ทางออกของ หนุ่มเกาหลี ก็คือ ใช้บริการแม่สื่อทุกชนิดในการหาคู่ และ สาวเวียดนาม กลายเป็นเป้าหมายหลักที่ หนุ่มกิมจิ หมายปองมากที่สุด เพราะชายเกาหลีมองว่า สาวเวียดนามเชื่อฟังง่าย ขยันขันแข็ง และดูแลพ่อแม่ฝ่ายชายได้ดี ส่วนสาวแดนอ๋าวได๋ โดยเฉพาะสาวที่อยู่ในเมืองชนบทยากจน ก็ไม่รีรอที่จะแพ็กกระเป๋าไปใช้ชีวิตคู่กับหนุ่มกิมจิ เพื่อมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม รายได้ต่อหัวของหนุ่มกิมจิอยู่ที่ 27,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือ 72,000 บาทต่อเดือน สูงกว่าหนุ่มเวียดนามถึง 12 เท่า

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ปี 2016 หนุ่มกิมจิแต่งงานกับสาวเวียดนามมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 36.3 รองลงมาเป็น สาวจีน ร้อยละ 28.3 ตามด้วย สาวฟิลิปปินส์ ร้อยละ 5.8 สาวญี่ปุ่น ร้อยละ 5.7 สาวไทย ร้อยละ 4.9 สาวอเมริกัน ร้อยละ 3.8 สาวเขมร ร้อยละ 3.1

สาวกิมจิ ก็ไม่น้อยหน้า เมินหนุ่มกิมจิไปแต่งงานกับต่างชาติเหมือนกัน โดยมี ฝรั่งอเมริกัน เป็นอันดับ 1 ตามด้วย หนุ่มจีน อันดับ 2 หนุ่มเวียดนาม อันดับ 3 ทำให้สายสัมพันธ์เกาหลีใต้กับเวียดนาม แน่นแฟ้นทั้งเศรษฐกิจและครอบครัว ก็เป็น โมเดลเศรษฐกิจอีกรูปแบบหนึ่ง ไม่รู้ ใครจะกลืนใคร ระหว่าง สาวอ๋าวได๋ กับ หนุ่มกิมจิ.


“ลม เปลี่ยนทิศ”