ด้วยกระแสรักสุขภาพของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการด้านผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารต่างหันมาให้ความสนใจ และกำหนดเป็นเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด และ “โยเกิร์ต” เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

จากสถิติพบว่า คนไทยบริโภคโยเกิร์ตเฉลี่ยประมาณ 4-5 กิโลกรัม/คน/ปี ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นมีอัตราการบริโภคมากกว่าถึง 1.5 เท่า สืบเนื่องมาจากคนไทยส่วนใหญ่ยังมองว่าโยเกิร์ตเป็นสินค้าสำหรับรับประทานเล่น จึงเป็นตลาดที่ยังมีโอกาสขยายการเติบโตได้อีกมาก ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นมูลค่าตลาดโยเกิร์ตแบบถ้วย 4,500 ล้านบาท และมูลค่าตลาดโยเกิร์ตพร้อมดื่ม 2,500 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดโยเกิร์ตทั่วไป 3,500 ล้านบาท และตลาดโยเกิร์ตระดับพรีเมียม 1,000 ล้านบาท

บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ผู้ผลิตและผู้นำตลาดด้านนมสดพาสเจอร์ไรซ์ “เมจิ” และโยเกิร์ต “เมจิ บัลแกเรีย” เล็งเห็นช่องทางการเติบโตในตลาดดังกล่าว โดยเฉพาะปัจจัยบวกเรื่องเทรนด์สุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายหรือการเลือกรับประทานอาหาร ที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจเกี่ยวกับข้อมูลทางโภชนาการมากขึ้นและมองหาทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ แม้ว่าจะมีราคาค่อนข้างสูงกว่าสินค้าที่มีอยู่ทั่วไปในท้องตลาดก็ตาม

...


“สลิลรัตน์ พงษ์พานิช”
รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด กล่าวว่า ตลาดโยเกิร์ตในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดระดับพรีเมียม เป็นผลมาจากเทรนด์ของคนรักสุขภาพกำลังมาแรง ซึ่งหากมองย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2556 ที่ผ่านมา ที่โยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย เข้ามาทำตลาดโยเกิร์ตระดับพรีเมียมในประเทศไทย ตลาดโยเกิร์ตเซกเมนต์นี้ก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มโยเกิร์ตแบบถ้วยและกลุ่มโยเกิร์ตพร้อมดื่ม ทำให้เกิดการแข่งขันมีผู้ประกอบการแบรนด์ใหม่ๆเข้ามาทำตลาดกลุ่มนี้มากขึ้นทุกปี ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากมูลค่าที่มีถึง 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 22% จากมูลค่าตลาดรวมของโยเกิร์ตแบบถ้วย

“เรามองว่า ในอนาคตพฤติกรรมการบริโภคโยเกิร์ตของคนไทยจะมีความต้องการที่เฉพาะและหลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะทำให้สัดส่วนของการบริโภคเพิ่มขึ้นมาเป็น 30% ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า”

โยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย ได้เลือกวางตัวเองในตำแหน่งเซกเมนต์ระดับพรีเมียม โดยเน้นเจาะกลุ่มผู้บริโภคตั้งแต่วัยทำงานขึ้นไป เนื่องจากคนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูง อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ ด้วยจุดยืนที่แตกต่างของโยเกิร์ตแท้จากธรรมชาติ ปราศจากสารปรุงแต่ง และมีเนื้อโยเกิร์ตคงตัว ในขณะที่โยเกิร์ตพร้อมดื่มแบบพาสเจอร์ไรซ์นั้นเพิ่งเข้ามาในตลาดนี้ได้เพียงปีครึ่ง แต่ก็มีการเติบโตไปในทิศทางที่ดี ทำให้ที่ผ่านมาโยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย สามารถชิงมาร์เก็ตแชร์ของกลุ่มตลาดระดับพรีเมียมได้ถึง 50% ซึ่งสวนกับภาพรวมการเติบโตของตลาดในปีที่ผ่านมาที่มีอัตราลดลง 4%

“ดังนั้น ก้าวต่อไปจึงเดินหน้าผลักดันสินค้าทั้งสองกลุ่มไปพร้อมๆกัน เพื่อทำให้แบรนด์เมจิ บัลแกเรีย แข็งแกร่งและอยู่ในใจผู้บริโภคมากขึ้น โดยเรามีการออกสินค้าใหม่เพื่อขยายตลาดสู่กลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหม่ ซึ่งต้นปีที่ผ่านมาได้ออกโยเกิร์ตพร้อมดื่มแบบพาสเจอร์ไรซ์ 2 รสชาติใหม่ คือรสรอยัลฟูจิแอปเปิ้ล, รสโกลเด้น ฮันนี่ และเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ออกแบบถ้วยสูตรใหม่ไขมัน 0% ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี”


สำหรับโยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย มีทั้งในรูปแบบของ “โย-เกิร์ตถ้วย” ขนาด 110 กรัม มีรสชาติให้เลือก ได้แก่ รสธรรมชาติ, รสกลมกล่อม, รสโกลเด้น ฮันนี่ และสูตรไขมัน 0% ส่วน “โยเกิร์ตพร้อมดื่มแบบพาสเจอร์ไรซ์” ขนาด 140 มิลลิลิตร พร้อมให้เลือกดื่ม ได้แก่ รสกลมกล่อม, รสไวลด์ เบอร์รี่, รสรอยัลฟูจิแอปเปิ้ล และรสโกลเด้น ฮันนี่

“สลิลรัตน์” กล่าวว่า “ครึ่งปีหลังนี้เรามีแผนสร้างเมจิ บัลแกเรีย ให้เป็นแบรนด์ที่มีจุดยืนเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพทางเดินอาหาร เพราะปัจจุบันยังไม่มีโยเกิร์ตแบรนด์ไหนมาพูดถึงเรื่องสุขภาพของระบบทางเดินอาหารอย่างจริงจัง ด้วยการทุ่มงบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ “ยิ่งรู้จัก...แล้วคุณจะรักจุลินทรีย์กับโยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย” เพื่อตอกย้ำถึงจุดเด่นและประโยชน์ของ “โยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย” ว่าเป็นโยเกิร์ตแท้ต้นตำรับ ปราศจากการปรุงแต่งและมีจุลินทรีย์สายพันธุ์แท้ LB81 จากประเทศบัลแกเรีย ที่จะมาช่วยดูแลและรักษาสมดุลระบบลำไส้”

...

การจัดแคมเปญดังกล่าวไม่ใช่จะมุ่งเน้นเรื่องทำการตลาดเพียงอย่างเดียว แต่ซีพี-เมจิ มองถึงการคืนสิ่งดีๆ สู่สังคม เพราะแคมเปญนี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภคได้รับความรู้และตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพลำไส้ ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ที่สำคัญทุกการซื้อโยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย 1 ถ้วย หรือ 1 ขวด ในช่วงระยะเวลานี้จนถึง 15 ก.ค.2560 จะกลายเป็นยอดบริจาค 1 บาทให้กับ “โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ” เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็งลำไส้

นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ รวมถึงผลักดันยอดขายของโยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย ที่เติบโตขึ้นท่ามกลางกระแสคนรักสุขภาพที่เติบโตมากขึ้นในกระแสโลกดิจิตอล!!

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th