กิจกรรมสร้างเครือข่ายเยาวชนจิตอาสา 5 จังหวัดชายแดนใต้.
เมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมได้มอบหมายให้คุณ ยอดมนู ภมรมนตรี และทีมงาน ไปถ่ายทำรายการครอบจักรวาล เรื่อง โครงการเครือข่ายพระธรรมทูตอาสา 5 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อออกอากาศทาง ททบ.5 ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้
ก่อนที่รายการจะออกอากาศ ก็อยากนำมาบอกเล่าให้ได้รับทราบถึงกิจกรรมดีๆ ที่พระสงฆ์ท่านได้ร่วมกันทำ เพื่อสืบทอดและเผยแผ่พระพุทธศาสนา
พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร และ พระครูสิริวิหารการ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ได้สนทนากับ คุณยอดมนู เล่าถึงที่มาของโครงการเครือข่ายพระธรรมทูตอาสา 5 จังหวัดชายแดนใต้ ว่า เป็นโครงการที่มีมายาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 โดยเริ่มมาจากโครงการส่งเสริมความมั่นคงของพระพุทธศาสนาใน 5 จังหวัดชายแดนใต้
ในช่วงแรกโครงการส่งเสริมความมั่นคงของพระพุทธศาสนาใน 5 จังหวัดชายแดนใต้อยู่ในความดูแลของ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) แล้วได้มีการส่งต่อให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้ประสานให้ “สำนักส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์” ซึ่งมีสำนักงานกลางตั้งอยู่ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นผู้จัดทำโครงการต่อมา
...
กลุ่มพระสงฆ์ที่ร่วมกันทำโครงการนี้ ใช้ชื่อกลุ่มว่า “เพื่อชีวิตดีงาม” ได้ดำเนินการจัดอบรมพระสงฆ์ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ อันประกอบด้วย จังหวัดสตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส การอบรมนี้เรียกว่า “การอบรมพระวิทยากรกระบวนธรรม” โดยเน้นกระบวนการให้คำปรึกษาเชิงพุทธ สร้างทักษะการฟัง ทักษะการสื่อสาร ทักษะการพูดคุย และทักษะการจัดกิจกรรม
พระมหาขวัญชัย เล่าว่า การเป็นพระวิทยากรที่จะออกไปพบปะชาวบ้านในพื้นที่ จะต้องนำทักษะในการสื่อสารมาใช้เพื่อให้เข้าถึงชาวบ้านได้อย่างเหมาะสม บางครั้งญาติโยมอาจจะมองว่าพระสงฆ์ที่ไปทำกิจกรรมต่างๆดูไม่สำรวมหรือเปล่า เป็นพระควรจะนั่งนิ่งๆ เรียบร้อยตลอดเวลาไหม ก็ต้องเปิดใจให้กว้าง มองถึงเหตุและผลรวมถึงเจตนาในการทำงานของท่านด้วย
หลังจากผ่านการอบรมพระวิทยากรกระบวนธรรม พระวิทยากรส่วนหนึ่งได้รวมกลุ่มกันเป็นเครือข่ายในแต่ละจังหวัด เครือข่ายทั้งห้าจังหวัดมารวมกันเป็น “เครือข่ายพระธรรมทูตอาสา 5 จังหวัดชายแดนใต้” ร่วมกันทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยมีพระจากกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ เป็นที่ปรึกษา คอยให้คำแนะนำ ให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ รวมถึงเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปร่วมกิจกรรมในภาคใต้ด้วย
เมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่ปี พ.ศ.2554 สำนักงานส่งเสริม คุณธรรม จริยธรรมฯ ก็ได้จัดตั้ง ศูนย์ช่วยเหลือวัดและผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยมีพระภิกษุ สามเณร เยาวชน และผู้มีจิตอาสา นำสิ่งของที่ได้รับบริจาคไปช่วยเหลือพระสงฆ์และชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน ได้ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดโครงการธรรมะเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน จัดกิจกรรมในพื้นที่ประสบภัย และศูนย์พักพิงต่างๆ เพื่อใช้ธรรมะฟื้นฟูจิตใจ ให้กำลังใจผู้ประสบภัยเพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข
เครือข่ายพระธรรมทูตอาสา 5 จังหวัดชายแดนใต้ได้จัดทำกิจกรรมต่อเนื่องมาโดยตลอด เช่น โครงการสานเสวนาเพื่อสันติสุขชายแดนใต้ กิจกรรมสร้างเครือข่ายเยาวชนจิตอาสา 5 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อให้เยาวชนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมกับพระสงฆ์ ร่วมกันทำความดีเพื่อชุมชนและสังคม
นอกจากงานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เครือข่ายพระธรรมทูตอาสา และเครือข่ายเยาวชนจิตอาสายังร่วมกันไปพบปะชาวบ้านในชุมชน เยี่ยมเยียนผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส เพื่อช่วยสร้างขวัญและกำลังใจ กิจกรรมเหล่านี้อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับบางคนที่ยังไม่เข้าใจ แต่อันที่จริงสิ่งที่เครือข่ายพระธรรมทูตอาสา และเครือข่ายเยาวชนจิตอาสาได้ลงมือทำนั้น มีคุณค่าและมีความหมายมากมายนักสำหรับผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งเยาวชนที่เข้าร่วมในเครือข่ายก็ได้รับประสบการณ์ซึ่งน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมให้เยาวชนเหล่านี้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นบุคคลที่มีคุณภาพในสังคม
...
ขอยกตัวอย่างข้อความของ น.ส.เกตุวดี ศรีสวัสดิ์ เยาวชนจิตอาสาจังหวัดสตูล ซึ่งได้บันทึกไว้หลังจากไปเยี่ยมชาวบ้านในชุมชนแห่งหนึ่ง ที่อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล ข้อความตอนหนึ่งว่า “.....หนูพูดกับคุณยายพร้อมกับกุมมือคุณยายไปด้วย เมื่อถึงประโยคที่ว่า “สู้ไปด้วยกันนะคะยาย เดี๋ยวก็ผ่านมันไปได้” ยายบีบมือหนูแน่น แล้วนำผ้าขึ้นมาเช็ดน้ำตา เหมือนกับเป็นสัญญาณว่า เอาสิสู้กันอีกสักตั้ง โดยที่วินาทีนั้นน้ำตาที่ไหลของคุณยาย ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ แต่เป็นน้ำตาที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ยายสอนให้หนูรู้ว่า การให้อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับการให้กำลังใจ วันนี้หนูไปเติมกำลังใจให้ยาย ยายก็เติมกำลังใจพร้อมทั้งกำลังกายให้ หนูอยากจะเติมกำลังใจให้คนอื่นอยากทำสิ่งดีๆแบบนี้ต่อไป ขอบคุณสำหรับรอยยิ้ม ขอบคุณสำหรับสายตาแห่งความหวังค่ะยาย”
ได้อ่านข้อความและรู้สึกอิ่มเอมใจไปกับเด็กๆ และผู้มีส่วนร่วมในโครงการทุกท่าน นี่ เป็นเพียงตัวอย่างเดียวที่นำมาถ่ายทอดให้ได้อ่านกัน ยังมีเยาวชนจิตอาสาอีกหลายคนที่ได้ไปทำกิจกรรมในชุมชนและบันทึกเรื่องราวความประทับใจไว้ใน เฟซบุ๊ก “สำนักงานกลาง เครือข่ายพระธรรมทูตอาสา 5 จังหวัดชายแดนใต้” หากสนใจเรื่องราวการทำงานของเครือข่ายสามารถเข้าไปติดตามดูได้
...
พระครูสิริวิหารการ เล่าว่า ในบาง หมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล ไม่มีวัด ไม่มีพระสงฆ์ ชาวบ้านที่เป็นพุทธศาสนิกชน ไม่มีโอกาสได้ไปวัด ไปทำบุญตักบาตร ไม่ได้พบเห็นพระสงฆ์มานานหลายปี เมื่อพระธรรมทูตจิตอาสาเดินทางเข้าไปถึงใน หมู่บ้าน เด็กๆที่วิ่งเล่นอยู่เห็นว่ามีพระสงฆ์มา ก็วิ่งไปบอกพ่อแม่ปู่ย่าตายายที่อยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่ได้ฟังเด็กบอกในตอนแรกยังไม่มีใครเชื่อ คิดว่าเด็กพูดเล่น จนกระทั่งได้ออกมาเห็นว่าพระท่านเดินไปถึงหน้าบ้านจริงๆ จึงทราบว่าเด็กพูดจริง ชาวบ้านบางคนถึงกับน้ำตาไหลด้วยความปลาบปลื้มใจ
ในส่วนของ สถาบันพัฒนาพระวิทยากร สำนักส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ กิจกรรมหลักที่ยังทำอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ โครงการพัฒนาเพิ่มศักยภาพพระวิทยากร โครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและปฏิบัติธรรม การสร้างขวัญกำลังใจแก่พุทธศาสนิกชน โครงการเยี่ยมพระ พบปะโยม โครงการสานเสวนาชาวพุทธ
การอบรมพระวิทยากรกระบวนธรรมเป็นโครงการที่ จะทำต่อเนื่องไปอีก ขณะนี้กำลังมีการอบรมพระวิทยากร กระบวนธรรม รุ่นที่ 2 ใช้เวลาอบรม 8 วัน เปิดรับสมัครพระสงฆ์ ที่สนใจเข้ารับการอบรมจากทั่วประเทศโดยกำหนดจำนวนไว้ไม่เกิน 80 รูป หากพระคุณเจ้าท่านใดสนใจเข้ารับ การอบรมรุ่นต่อไป ติดตามข่าวสารการรับสมัครได้จากสื่อต่างๆและทางเฟซบุ๊ก “สนง.ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ”
...
นับว่าเป็นเรื่องราวดีๆที่น่าสนับสนุน ท่ามกลางกระแสข่าวในปัจจุบันที่มักจะมีแต่เรื่องที่เกี่ยวกับการใช้ความรุนแรง ทำให้จิตใจหดหู่ จึงขอใช้พื้นที่นี้ในการส่งเสริมและสนับสนุนคนที่ทำความดี ทำคุณประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมและประเทศชาติ ให้เยาวชนได้เห็นเป็นตัวอย่าง เพื่อสร้างสรรค์จรรโลงสังคมให้ดีงามอย่างยั่งยืน
.....สวัสดี
ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์