เห็นรายละเอียดการแถลงข่าวจับกุมรถสปอร์ตหรู ปอร์เช่ 911 จีที 3 สีเหลือง ทะเบียน สฉ 5969 กรุงเทพมหานคร พร้อมผู้ต้องหา 2 คน ของ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. แล้วตกใจ!

เพราะรถสปอร์ตซุปเปอร์คาร์เถื่อนมูลค่า 20 ล้านบาทคันนี้ ไม่ใช่เพิ่งถูกจับเป็นครั้งแรก?!?

แต่เป็น 1 ในรถที่ ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ ศปจร.น. จับกุมมาให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. แถลงข่าวใหญ่โต ร่วมกับรถหรูและไม่หรูที่ถูกคนร้ายโจรกรรมและรถเถื่อนรวม 18 คัน มูลค่า 70 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมานี่เอง

แต่ไฉนรถที่ถูก ศปจร.น.จับกุมดำเนินคดีไปแล้ว กลับมีคนเอาขับร่อนไปร่อนมา แถมบอกขายต่อให้คนอีก มันจะต้องมีการเล่นแร่แปรธาตุ เอารถของกลางออกมาขายแน่นอน?

จึงสอบถามไปที่ ศปรจ.น. ได้รับคำตอบว่า หลังจับกุมมาแถลง ข่าวเสร็จ ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปจร.ตร.) มาขอคันดังกล่าวไปขยายผลเพิ่มเติม

มันเป็นเรื่องที่ ศปจร.ตร. มีอำนาจทำได้ เพราะเป็นหน่วยเฉพาะกิจระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใหญ่กว่าระดับกองบัญชาการอย่าง ศปจร.น.

หลังจาก ศปจร.ตร.เอารถปอร์เช่ไปแล้วทำอะไร ไม่ทราบได้?

แต่ที่แน่ๆ มันดันกลับไปหาเจ้าของเดิมที่ซื้อต่อมา แถมขณะถูกจับกำลังเอารถราคา 20 ล้านบาท ไปผ่องถ่ายขายให้คนอื่นในราคาถูกเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น

เลยเจอตำรวจ 191 ซ้อนแผนล่อซื้อจับกุมกลับมาดำเนินคดีอีก!

...

ในส่วนการดำเนินคดีกับแก๊งรถเถื่อน รถขโมย รถสวมทะเบียน หรือจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ มันไม่น่าสนใจเท่าไหร่ สนใจแต่คนที่เอารถของกลางไปคืนให้ขบวนการรถเถื่อนเหล่านี้

คดีนี้แว่วมาว่า ในส่วนของสำนวนคดี ผบก.น.4 สั่งการให้ พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ดำเนินการไปได้เยอะแล้ว มีตัวละครจะถูกออกหมายจับมาดำเนินคดีอีกหลายคน

ส่วนการสืบสวนขยายผล “เดอะโจ๊ก”ผบก.สปพ. เป็นผู้ดำเนินการ มีข้อมูลว่า มีรถของกลางอีกหลายคันที่ถูกอมไปขาย!

แถมแว่วมาด้วยว่า งานนี้มีตำรวจต้องติดคุกอีกหลายคน!?!

สหบาท