มองปัญหาของประเทศในเวลานี้ ไม่ต่างอะไรจาก ไก่ในเข่ง ตามธรรมเนียมคนไทยที่ชอบแสดงความคิดเห็นมากกว่า การแสดงความรับผิดชอบ การพัฒนาประเทศสะดุดเพราะความเห็นที่แตกต่างระหว่างคนสองกลุ่ม และท้ายที่สุดความคิดเห็นที่แตกต่างก็กลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติไปฉิบ

ประเทศ เวเนซุเอลา มีวิวัฒนาการของวิกฤติประเทศที่ไม่แตกต่างจากประเทศไทยนัก ทั้งจากการเมือง ทหารและประชาชน จาก นโยบายประชานิยม ไปสู่การ ผูกขาดอำนาจ และการแสวงหาผลประโยชน์ความขัดแย้งปะทุขยายวงไปสู่สถาบันต่างๆจากประเทศที่เคยร่ำรวยจากการค้าน้ำมันกลายเป็นประเทศที่ยากจนทันที

ระหว่าง เสียงข้างน้อยกับเสียงข้างมาก ในระบอบประชาธิปไตยหากมีการใช้ไปในทางที่ไม่ชอบ ก็ไม่ต่างกันกับการใช้อำนาจผูกขาด จะให้ยึดเสียงข้างมากเคารพเสียงข้างน้อย มีแต่เรื่องที่มโนขึ้นเท่านั้น เพราะการตัดสินในโลกความเป็นจริง ไม่มีอะไรวินวิน ต้องเลือกทางใดทางหนึ่งอยู่แล้ว

วันนี้ประเด็นถกเถียงทั้งเรื่อง เรือดำน้ำ กฎหมายคุมสื่อ จะมองให้บวกก็ได้จะมองให้ลบก็ได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สมมติถ้าวันหนึ่งประเทศไทยต้องการใช้เรือดำน้ำขึ้นมาจริงๆไม่ว่าจะเกิดศึกสงครามขึ้นมาหรือไม่ก็ตาม การตัดสินใจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันนี้ก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

แต่ถ้าซื้อเรือดำน้ำมาแล้วใช้งานไม่ได้ ไม่ทันสมัยต้องเสียต้องซ่อม ไร้ประสิทธิภาพ กลายเป็นภาระของกองทัพเรือ รัฐบาลชุดนี้ก็จะถูกขุดรากถอนโคน ในระหว่างสถานการณ์ที่เทาๆ ยังไม่รู้อะไรถูกอะไรผิด การตีตนไปก่อนไข้ก็ไม่ใช่เรื่องดี จึงต้องใช้เหตุและผลที่จะไตร่ตรอง มองให้รอบด้าน ไม่ใช่แห่ไปตามกระแส

...

เพราะถ้าไปถึงจุดที่ขัดแย้งกันจนเกิดวิกฤติบ้านเมืองเหมือนอย่างที่ผ่านมา สถานการณ์ก็จะตกที่นั่ง กระแสบวกกระสุน ประเทศก็จะพลอยติดหล่มจมปลักไปด้วย

ครั้งหนึ่งบ้านเราต่อต้านการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ มอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้า ด้วยเหตุผลในทำนองเดียวกันนี้ แต่พอมาถึงวันนี้เห็นความสำคัญที่จะต้องมีสาธารณูปโภคดังกล่าวว่ามีความจำเป็นจริงๆ

เพียงแต่ต้องมาทบทวนกันว่า การออกมาต่อต้านการซื้อเรือดำน้ำ เพราะห่วงว่าจะมีการทุจริตคอร์รัปชัน หรือห่วงว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อเรือดำน้ำมาใช้งาน ต้องแยกประเด็นให้ชัด

จากนั้นก็หยิบยกเอาเหตุผลแต่ละฝ่ายมาพิจารณาให้รอบคอบ ใช้เสียงข้างมากเป็นผู้ตัดสิน เพราะถ้าจะมีผลกระทบก็จะกระทบกับทุกฝ่าย จะใช้เหตุผลของคนส่วนน้อยตัดสินแล้วมีผลกระทบกับคนส่วนใหญ่ก็ไม่แฟร์

ปัญหาแต่ละปัญหายังมีหนทางอีกยาวไกล ยังต้องใช้เวลาเป็นปี ยังมีเวลาที่จะคิดและตัดสินใจ ยิ่งเมื่อมองปัญหาของโลกด้วยแล้ว ปัญหาในบ้านเราเล็กไปถนัดใจ คิดให้ไกลกว่านั้นสมมติเกิดสงครามระหว่าง สหรัฐฯกับเกาหลีเหนือ จริงๆ ต่อให้ไม่มีปัญหาที่เป็นชนวนขัดแย้งอยู่ในเวลานี้ เราจะรอดไหม

สามัคคีเท่านั้นจะช่วยสร้างชาติ.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th