หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์รับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯแล้ว ไม่ค่อยเห็น นายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีคนที่ 44 ซึ่งเป็นผู้นำสหรัฐฯก่อนหน้านายทรัมป์ ปรากฏตัวต่อสาธารณชนเท่าไหร่ นัยว่าโดยมารยาทก็ควรให้ประธานาธิบดีคนใหม่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางไป ซึ่งที่ผ่านมาท่านทรัมป์ก็ตกเป็นข่าวใหญ่ๆได้เกือบทุกวันสิน่ะ
ไม่นานมานี้ อดีตประธานาธิบดีโอบามาไปปรากฏตัวที่มหาวิทยาลัยชิคาโก ซึ่งเคยทำงานเป็นนักจัดระเบียบชุมชนในช่วงหนึ่งของชีวิต โดยครั้งนี้ท่านกลับไปชิคาโกอีกครา เพื่อแสดงปาฐกถาให้นักเรียนชั้นมัธยมปลายและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชิคาโก ซึ่งท่านเคยเป็นอาจารย์สอนกฎหมายด้านสิทธิพลเมืองและสอนกฎหมายรัฐธรรมนูญให้กับสถานศึกษาแห่งนี้มาก่อน เพียงแต่คราวนี้ไม่ได้มาสอนกฎหมาย แต่ขอพูดถึงหน้าที่พลเมืองซึ่งหนุ่มสาวสมัยนี้อาจหลงลืมกันไปแล้ว และ เพื่อเป็นการทบทวนสิทธิพลเมืองของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ให้รู้จักหน้าที่ของตนให้แจ่มกระจ่างมากยิ่งขึ้น
อดีตประธานาธิบดีโอบามากล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เขาจะทำได้หลังลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีแล้วก็คือ การให้ความช่วยเหลือเพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นผู้นำให้แก่หนุ่มสาวรุ่นใหม่ เพราะคนรุ่นใหม่เหล่านี้มีคุณวุฒิเพียงพอที่จะช่วยกันเปลี่ยนโลกของเราให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นในอนาคต แหม...ท่านช่างมองโลกในแง่บวกเหลือเกิน ซึ่งก็ดี อย่างน้อยการเป็นอดีตประธานาธิบดียังช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติต่อไปได้
การมาให้ความรู้แก่นิสิตนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยชิคาโกคราวนี้ นักศึกษาที่เข้ามารับฟังปาฐกถาก็มีมารยาทพอที่จะไม่ซักไซ้ท่านถึงเรื่องการเมืองปัจจุบัน และไม่สอบถามถึงความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เลยสักนิด เพราะไม่รู้จะจับประเด็นให้นายโอบามากับประธานาธิบดีทรัมป์มาชนกันด้วยนโยบายที่แตกต่างกันทำไม เดี๋ยวจะเป็นการสร้างความขุ่นข้องหมองใจกันภายหลังย่อมไม่ดีแน่
...
นักศึกษาผู้หนึ่งที่เข้าร่วมการฟังเนื้อหาสำคัญของอดีตประธานาธิบดีโอบามา วัย 55 ปี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผมเคยคิดว่า คงไม่ได้ฟังเรื่องเด็ดๆจากท่านอีกแล้ว แต่ท่านกลับมาพูดที่ชิคาโก ผมดีใจอย่างที่สุดเลยครับ.
ยูเรนัส