นิทานเรื่องหนึ่ง ที่พ่อแก่แม่เฒ่า เล่าสอนลูกหลาน

นิทานเรื่องนี้ อยู่ในมโหสถชาดก เรื่องเล่าเก่าแก่สมัยพระพุทธเจ้า คือเมื่อ 2,500 กว่าปีที่แล้ว

กาลครั้งหนึ่ง...กิ้งก่าตัวหนึ่ง อาศัยอยู่บนซุ้มประตูพระราชอุทยาน ของพระเจ้าวิเทหะ...วันใดที่เสด็จผ่าน กิ้งก่าตัวนั้นก็ลงจากซุ้มประตูลงมาถวายคำนับ...มิได้ขาด

พระเจ้าวิเทหะ พระราชทานทอง...ให้เป็นค่าซื้อเนื้อให้กิ้งก่ากินทุกวัน

วันหนึ่งนายอุทยานซื้อเนื้อไม่ได้ จึงแสดงความบริสุทธิ์ใจเอาทองผูกคอกิ้งก่าไว้

พระเจ้าวิเทหะเสด็จผ่าน กิ้งก่าถือว่ามีทองผูกคอเลยกำเริบ ชะเง้ออยู่บนซุ้มประตู ไม่ลงมาคำนับอย่างเคย

พระเจ้าวิเทหะประหลาดพระทัยตรัสถาม ได้ความว่า เจ้ากิ้งก่าเปลี่ยนนิสัย ก็เพราะถือตัวว่ามีทองผูกคอ...พระเจ้าวิเทหะจึงให้เอาทองออกจากคอมัน แล้วไม่พระราชทานทองให้ต่อไปอีก

นิทานเรื่องนี้เป็นที่มาของสำนวน กิ้งก่าได้ทอง เปรียบเปรยคนได้ดีหรือมีทรัพย์สินเพียงเล็กน้อยแล้วทำเย่อหยิ่งจองหอง

ผมค้นหนังสือเก่าอ่าน เจอนิทานเรื่องนี้ ก็ตั้งใจเอามาเล่าต่อ ให้สาม ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย โดยเฉพาะคุณเป้ นภาพร เพ็ชร์จินดา ฟัง

ผมเคยรู้จักคุณเป้มาก่อน รู้แต่เพียงว่าเป็นรองเลขาพรรคเสรีรวมไทย...ไม่ได้สนใจว่าร่ำรวยมาแต่ไหน เป็นลูกท่านหลานเธอหรือเปล่า

เมื่อมีกรณี เธอเป็น ส.ส.ที่แสดงตัวเปิดเผย เป็นหนึ่งในสามคะแนน ที่ให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้คะแนนถึง 275 คะแนน มากกว่านายกฯประยุทธ์ 3 คะแนน

จนเป็นข้อครหาฮือฮา เป็นงูเห่า รับเงินจากพลเอกประวิตร หรือเปล่า

สปอตไลต์การเมืองก็ฉายส่อง...ผมอ่านคอลัมน์ คนตามข่าว จากมติชน จึงเพิ่งรู้ว่าเธอเก่งการบริหารธุรกิจ จบแขนงวิชาคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นนักธุรกิจระดับกรรมการผู้จัดการ

...

เป็นเจ้าของบริษัทสปา ทำบริษัทโฆษณาสื่อประชาสัมพันธ์ จัดงานอีเวนต์ ช่วยธุรกิจก่อสร้างของครอบครัว รับถมที่ทำถนน ในนามบริษัทเพ็ชร์จินดา

เป็นอาจารย์พิเศษสอนมหาวิทยาลัย

ชื่อชั้นระดับนี้ พอมองเห็น เธออยู่ในกลุ่ม “ทำมาหากินเป็น” เมื่อเป็นนักการเมือง จึงไม่ต้องเล่นเกมลดเลี้ยว...เล่นบทลิงรับแจกกล้วยจากใคร

รวมกับสอง ส.ส.เสรีรวมไทย คนหนึ่ง เป็นทายาทโรงงานน้ำตาลวังขนาย...รวยไม่รวยแค่ไหน ก็พอรับประกัน...เกียรติยศศักดิ์ศรีได้

ไม่รวมร่มธง ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์...ซึ่งบทบาททางการเมือง ที่ผ่านมา รายนี้ยอมหักได้ แต่ไม่ยอมงอ

ต้นทุนสาม ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย...มีสูง ตอนที่ยังฝุ่นตลบหลังปิดอภิปราย ไม่รู้ใครเป็นใคร นักวิชาการท่านหนึ่งออกทีวียังตีความว่า สาม ส.ส.คงลงคะแนนผิด...

คงคิดไม่ถึงเถรตรงอย่างคุณเสรีจะเล่นการเมืองโยกเย้ยักเยื้องก็เป็น

กับกระแสงูเห่า ที่ยังคงมี ผมมีข้อแนะคุณเป้...ไว้เพียงว่า ข้อครหางูเห่า แก้ง่ายๆ ก็แค่ประกาศไปเลยว่า...เธอและสองเพื่อนรวยพอแล้ว...

ถ้าเปรียบเงินเป็นกล้วย...ข้อหาลิงกินกล้วย...ก็แสดงให้เห็นไปเลยว่า รวยเลยขีดเจ้าของสวนกล้วย ถึงระดับเจ้าของป่ากล้วย...เบื่อกินกล้วย ไม่จำเป็นต้องกินกล้วยของใคร

ไม่ต้องแคร์ คำสอนโบราณ รายกิ้งก่า แค่ได้ทองชิ้นเล็กนิดเดียว...จึงไม่สมควรจองหองพองขน แต่ตัวเองรวยจริง...แถมหยิ่งงานก้มหัวคำนับอำนาจเผด็จการ...ไม่คิดจะทำ หากจะให้เป็นลิงหลอกเจ้า...ยังเข้าเค้ากว่ากัน.

กิเลน ประลองเชิง