วันนี้ รัฐบาลทั่วโลก กำลังวางแผนรับมือ ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนาอู่ฮั่น แต่ รองนายกฯ และรัฐมนตรีสาธารณสุขไทยกลับไปทะเลาะกับนักท่องเที่ยวคนเดียวที่ไม่รับแจกหน้ากากอนามัยเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต เพราะ ท่านรัฐมนตรีอุตส่าห์ไปเดินแจกเอง แถมยังโพสต์ลงโซเชียลมีเดียเป็นเดือดเป็นแค้น จะไล่ออกจากประเทศ และโพสต์ต่ออีกว่า ไม่รู้สึกผิดที่ตอบโต้ เป็นถึงรองนายกฯและรัฐมนตรี เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของประเทศ แทนที่จะวางเฉย หรือ ใช้ความอดทนชี้แจง ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าใจสถานการณ์ แต่รัฐมนตรีไทยกลับคิด ได้แค่นี้เอง
ก็เป็นอีกเรื่องเศร้าของประเทศไทย นอกเหนือจาก ส.ส.ในสภาฝ่าฝืนกฎหมายเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ทำให้งบประมาณปี 2563 ต้องล่าช้าไปค่อนปี สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศชาติอย่างมหาศาล โดยไม่รู้สึกว่าผิดเช่นเดียวกัน
ไปดู ผลกระทบทางเศรษฐกิจ จาก ไวรัสโคโรนาจีน กันดีกว่านะครับ เป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลทั่วโลกกำลังระดมมาตรการรับมือ วันนี้ไทยได้รับผลกระทบแล้วมากที่สุด นักท่องเที่ยวจีนหายไปเดือนละ 8 แสนคน ใน 3 เดือนแรกปีนี้นักท่องเที่ยวจีนคงไม่กลับมาแน่นอน อย่างน้อยก็หายไป 2.4 ล้านคน รายได้จากนักท่องเที่ยวจีนก็หายไป 120,000 ล้านบาท ยังไม่นับนักท่องเที่ยวชาติอื่นที่เลิกเดินทางอีกจำนวนมาก แล้วเราจะไล่นักท่องเที่ยวที่ไม่ยอมรับแจกหน้ากากจากรัฐมนตรีหรือไล่รัฐมนตรีดี
ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่า ไวรัสโคโรนาจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย 50,000–60,000 รายอย่างหนัก และ กระทบต่อเนื่องไปถึงแรงงานด้านการท่องเที่ยวกว่า 4 ล้านคน แต่ยังไม่มีรัฐมนตรีคนไหนออกมาพูดถึงหรือไปถามสารทุกข์สุกดิบ
...
ดร.อัทธ์ เปิดเผยว่า 10 ธุรกิจต่อเนื่องที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในเวลานี้คือ ธุรกิจขายปลีก โรงแรม ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ผลไม้ ขนส่งทางบก เนื้อสัตว์ อัญมณีและเครื่องประดับ เสื้อค้าส่ง และ ขนส่งทางน้ำ ตามลำดับ กรณีไวรัสจบภายใน 3 เดือน จะส่งผลให้รายได้หายไปกว่า 32,500 ล้านบาท รวมธุรกิจเกี่ยวเนื่องจะเสียหายกว่า 70,000 ล้านบาท หากสถานการณ์ยาวเกิน 3 เดือน ธุรกิจเหล่านี้จะเสียหายกว่า 65,000 ล้านบาท ธุรกิจเกี่ยวเนื่องเสียหาย 150,000 ล้านบาท
ผลกระทบที่เกิดขึ้นนี้ เฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่หายไป ถ้า นับรวมการส่งออกที่หายไปจาก 70% ของจีดีพีไทย ความเสียหายจะมากมายกว่านี้ รัฐมนตรีไทยรู้บ้างไหม
วันศุกร์ที่ผ่านมา สำนักจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ของสหรัฐฯ ได้ปรับลดจีดีพีจีนปี 2020 ลงเหลือ 5% จากที่จีนประกาศว่าจะเติบโตที่ 6% อันเป็นผลกระทบจากไวรัสโคโรนา ทำให้จีดีพีจีนที่มีมูลค่ากว่า 14 ล้านล้านดอลลาร์หายไปถึง 1% เฉพาะจีดีพีใน 3 เดือนแรกปีนี้ เจพีมอร์แกน เพิ่งปรับลดลงเหลือ 4.9% โหดกว่านั้น สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ปรับลดลงเหลือ 4.5% เพราะโรงงานผลิตในจีนส่วนใหญ่ถูกปิดไปจนถึงเดือนมีนาคม หากสถานการณ์ยืดเยื้ออาจจะต้องปิดนานขึ้นไปอีก
แม้แต่ อีเวนต์บันเทิงในไทย ก็ได้รับผลกระทบต้องยกเลิกหลายงาน เช่น คอนเสิร์ตวงบอยแบนด์ GOT7 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน 15-16 กุมภาพันธ์ ยกเลิกไม่มีกำหนด คอนเสิร์ตแทยอน วง Girls’ Generation ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี 22-23 กุมภาพันธ์ ก็เลื่อนไปไม่มีกำหนด อีเวนต์และกีฬาในจีนก็ยกเลิกไปทุกรายการ เช่น การแข่งขันกรีฑาในร่มชิงแชมป์โลก 13-15 มีนาคม เลื่อนไปปีหน้า เทนนิส แบดมินตัน รวมทั้ง กอล์ฟ บลูเบย์ แอลพีจีเอ ที่ไห่หนานก็ถูกยกเลิก กวางเจาเทรดแฟร์ งานแฟร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ยกเลิก
เห็นไหมครับ ผลกระทบจากไวรัสโคโรนา มากมายขนาดไหน รัฐบาลไทยจึงไม่ควรตั้งอยู่ในความประมาท รัฐมนตรีควรเอาสมองไปคิดแก้ปัญหาของประเทศ แทนที่จะไปคิดแค้นนักท่องเที่ยวคนเดียว เดี๋ยว #รัฐบาลเฮง...ก็กลับมาถล่มอีกหรอก.
“ลม เปลี่ยนทิศ”