แม้จะมีรายงานข่าวว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านตกลงกันจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 9 คน รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม แต่ข่าวบางกระแสระบุว่า จะอภิปรายแค่ 6 คน โดยตัดชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และนายอุตตม สาวนายน ออก

7 พรรคฝ่ายค้านเตรียมการอภิปรายมาหลายเดือน และคุยว่ารับรองมีทีเด็ด แฟนๆไม่ผิดหวังแน่ แต่อาจเนื่องจากมีถึง 7 พรรค จึงมีความเห็นต่าง มีการใส่ชื่อรัฐมนตรีและตัดออก แต่คงไม่ถึงกับเป็นมวยล้มต้มคนดู จะโดนรุมประชาทัณฑ์ทางการเมืองแน่ เพราะเป็นการกระทำที่สวนกระแสประชาชน

ผลการสำรวจความเห็นประชาชน โดยนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เมื่อเร็วๆนี้ พบว่าคนส่วนใหญ่ 42.57% อยากให้อภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลทั้งคณะ 35.54% อยากให้อภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล มีเพียง 13.82% ที่เห็นว่ายังไม่ถึงเวลาซักฟอกรัฐบาล 5.35% คัดค้านการเปิดอภิปราย

ฝ่ายที่เห็นว่ายังไม่ถึงเวลาซักฟอกรัฐบาล อาจมองว่าเพราะเพิ่งเข้ารับหน้าที่เพียงไม่กี่เดือน แต่รัฐบาลนี้ต่อเนื่องมาจากรัฐบาล คสช. ยึดอำนาจและปกครองประเทศด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จนานกว่า 5 ปี โดยมี “พี่น้องสาม ป.” เป็นแกนนำ ทั้งสาม ป. อยู่ในตำแหน่งเดิม จนถึงรัฐบาลปัจจุบัน มีผลงานที่ควรซักฟอก

มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาอย่างต่อเนื่อง วิจารณ์ว่ารัฐบาลล้มเหลวสอบตก ในการปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูปตำรวจ การแก้ปัญหา เศรษฐกิจ ปากท้องประชาชน การลดความเหลื่อมล้ำ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต การแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม รวมทั้งปัญหาฝุ่นพิษ

ผลการสำรวจความเห็นประชาชนของสวนดุสิตโพลเมื่อปลายเดือนมกราคม รัฐบาลสอบตกอีกตามเคย กลุ่มตัวอย่าง 52.90 ไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาฝุ่นพิษพีเอ็ม 2.5 ได้ เพราะไม่มีมาตรการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรม การแก้ปัญหาที่ล่าช้าและไม่จริงจัง คนส่วนใหญ่เสนอแนะให้รัฐบาลใช้ “ยาแรง” แก้ปัญหา

...

12 นโยบายเร่งด่วนที่จะต้องทำให้เสร็จในหนึ่งปี สัญญาว่าจะแก้ปัญหาการดำรงชีวิตของประชาชน จะลดความเหลื่อมล้ำของคุณภาพการบริการ จะปรับปรุงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2563 (ขณะนี้ยังเป็นลูกผีลูกคน) จะแก้ปัญหายาเสพติด จะสร้างความสงบสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะแก้ปัญหาการทุจริต สบายดีหรือ?