ก็สร้างความฮือฮาจนกลายเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ เมื่อ ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดตัว “สินเชื่อบ้านผ่อนตํ่าล้านละ 10 บาท” โดย ปีแรกให้ผ่อนงวดละ 10 บาทต่อเดือน และคิดดอกเบี้ยคงที่เพียง 0.010% ต่อปี เพื่อช่วยให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยของตนเอง สอดคล้องกับความต้องการมีที่อยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะช่วงปลายปี มีวงเงินสินเชื่อโครงการนี้ 25,000 ล้านบาท จะกู้ไปสร้างบ้านบนที่ดินของตนเองก็ได้ กู้ไปต่อเติมซ่อมแซมบ้านก็ได้

โครงการนี้ เปิดให้แจ้งความจำนงที่สาขาธนาคารออมสินทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม หรือจะไปแจ้งความจำนงจองสิทธิใน งานมหกรรมการเงินส่งท้ายปี ครั้งที่ 3 Money Expo Year-End 2019 ที่ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ช่วงวันที่ 28 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม 2562 ก็ได้ โดยมีโปรโมชันพิเศษในงานด้วย

ดร.ชาติชาย เปิดเผยรายละเอียดโครงการ “สินเชื่อบ้านผ่อนตํ่าล้านละ 10 บาท” ว่า สามารถกู้ไปซื้อบ้านใหม่ ปลูกบ้านบนที่ดิน ต่อเติม ซ่อมแซม หรือรีไฟแนนซ์ โดยให้กู้ตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าแต่ละราย แต่ไม่จำกัดวงเงินกู้สูงสุด โดยคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ปีแรก 0.010% ปีที่ 2-3 ดอกเบี้ย 4.350% ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ย MRR-0.50% (ดอกเบี้ย MRR ปัจจุบันอยู่ที่ 6.745%) คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 2.903% โดย วงเงินกู้ 1 ล้านบาท ให้ผ่อนชำระได้ 20 ปี ในปีแรกให้ผ่อนชำระ 10 บาทต่อเดือน ปีที่ 2-3 ผ่อนชำระ 3,700 บาทต่อเดือน ปีที่ 4 เป็นต้นไป ผ่อนชำระ 8,300 บาทต่อเดือน

นอกจากนี้ ผู้กู้ยังได้ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนบ้าน ตามมติ ครม. จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 และ ลดค่าธรรมเนียมการจดจำนอง จากร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01

...

ดร.ชาติชาย เปิดเผยด้วยว่า ธนาคารออมสินได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้สามารถผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 40 ปี โดยลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระได้ยาวนานขึ้น เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นกับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ให้มากที่สุด สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำได้คิดคำนวณเงินค่างวดให้ผ่อนสบายๆ ในช่วงภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน เพื่อให้ผู้กู้แบ่งเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน รวมถึงการออมเพื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน

ผมขอชม โครงการสินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ เป็นโครงการที่ดี มาถูกจังหวะถูกเวลาพอดีวงการอสังหาริมทรัพย์ปีนี้มีปัญหาค่อนข้างมากจากมาตรการ LTV เพื่อควบคุมสินเชื่อบ้านของแบงก์ชาติ ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ รักษาการ ผอ.ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ปีนี้มีบ้านเหลือขายประมาณ 270,131 หน่วย อยู่ในกรุงเทพฯ 56.3% ต่างจังหวัด 43.7% ส่วนใหญ่เป็นบ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาท ถ้าสามารถขายบ้านที่เหลือในช่วงปลายปีนี้ได้หมด ปีหน้าก็จะมีการก่อสร้างบ้านใหม่ เกิดการจ้างงานใหม่ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้อีกมหาศาลทีเดียว

บ้านคือวิมานของเรา ทุกคนในโลกนี้อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ติดขัดที่เงินรายได้ไม่เพียงพอ ถ้ามีการยืดหยุ่นให้สามารถผ่อนบ้านได้นานถึง 40 ปี ย่อมช่วยลดภาระของคนรุ่นใหม่ที่อยากมีบ้านได้ เช่น ซื้อบ้านหลังละ 3 ล้านบาท ผ่อนนาน 40 ปี เฉลี่ยตกปีละ 75,000 บาท เดือนละ 6,250 บาท บวกดอกเบี้ยแล้วก็ยังผ่อนสบาย

ผมมีข้อมูลจากวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่วิจัยบนพื้นฐานประชากรศาสตร์ พบว่า กลุ่มผู้มีอำนาจซื้อบ้านในวันนี้ คือ กลุ่มคน Gen Y หรือกลุ่มคนทำงานวัย 20-40 ปี เป็นหลัก ตามด้วย กลุ่มคน Gen X หรือกลุ่มคนทำงานวัย 40-52 ปี โดย กลุ่มเจน Y มีสัดส่วนการซื้อบ้านในกรุงเทพฯสูงถึง 26% ตามมาด้วยกลุ่มคนเจน X 25% รวมกำลังซื้อสองกลุ่มนี้สูงถึง 51% ของการซื้อบ้านทั้งหมดในกรุงเทพฯ ซึ่งผมเห็นว่า
เป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่แข็งแรงมาก

การมีบ้าน ก็คือ การมีทรัพย์สิน ถือเป็น การออมเงิน อย่างหนึ่ง และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้น “สินเชื่อบ้าน” จึงเป็นสินเชื่อที่ทุกหน่วยงานของรัฐควรส่งเสริม เพื่อช่วยกันสร้างความมั่นคงให้สังคม และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้อีกด้วย.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง