สงครามการค้าจีนสหรัฐฯ กำลังส่งผลกระทบไปทั่วโลก หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีเหล็กนำเข้าจากจีนเป็น 25% เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในสหรัฐฯ จีนก็ส่งเหล็กจากโรงงานเก่าไปทุ่มตลาดขายในราคาถูกทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วยมิหนำซ้ำ โรงงานเหล็กเก่าที่ไม่ได้คุณภาพ ก็ส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน รัฐบาลไหนเกรงใจจีนมากๆ ยอมให้จีนไปตั้งโรงงานเหล็กเก่าที่ไม่มีคุณภาพ ก็จะส่งผลเสียต่อประเทศนั้นในระยะยาว

จีนส่งออกโรงงานเหล็กรุ่นเก่า เพราะรัฐบาลจีนสั่งปิดโรงงานเหล็กที่ก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมหมดใน 3 ปี และสร้างโรงงานใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมขึ้นแทน

วันนี้ ประเทศไทย ก็ได้รับผลกระทบจาก เหล็กราคาถูกคุณภาพต่ำจากจีนเต็มที่ ตัวเลขจากสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ระบุว่า โรงงานผลิตเหล็กของคนไทย 400 กว่าโรง ทั้ง ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ลดการผลิตลงเหลือเพียง 30% ของกำลังการผลิตทั้งหมด เพราะถูกเหล็กจีนทุ่มตลาด แต่รัฐบาลไทยก็ยังเฉย เพราะเกรงใจจีน สุดท้ายโรงงานเหล็กอาจจะเจ๊งกันหมด โรงงานอุตสาหกรรมเหล็กไทยเป็นอย่างไร ดูได้จากราคาหุ้นของโรงงานเหล็กในตลาดหลักทรัพย์ในวันนี้ได้เลย

ผมคิดว่า รัฐบาลไทย โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯสมัย 2 จะต้องแก้ไขด้วยการ ขึ้นภาษีเหล็กจีน เพื่อ ปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กไทย วันนี้เราต้องพึ่งตัวเอง

ช่วง รัฐบาล คสช. ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ยกเลิกมาตรการปกป้อง (Sefeguard) เหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอย เปิดช่องให้มีการนำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยไตรมาส 2 ปี 2562 นี้ มีการนำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยเกือบ 4 แสนตัน มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท โดย ผู้ผลิตจีน ใช้เทคนิคเจือวัตถุอัลลอยน้อยมาก ซึ่งไม่มีผลกับการนำไปใช้งาน แต่เพื่อ หลีกเลี่ยงพิกัดภาษี เท่านั้น ทำให้จีนสามารถนำเข้าเหล็กจำนวนมหาศาลโดยไม่ต้องเสียภาษีเลย

...

แผ่นเหล็กชุบสังกะสี (GI) ก็เช่นเดียวกัน จากที่เคยนำเข้าปีละ 20,000 กว่าตัน ก็นำเข้าปีละ 1 ล้านกว่าตัน โดยรัฐบาลไม่มีมาตรการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ เหล็กแผ่นสังกะสี เป็นเหล็กที่ผลิตมาจากเหล็กรีดร้อน ผ่านกระบวนการรีดเย็น แล้วนำไปชุบสังกะสี แต่เหล็กแผ่นสังกะสีจีนที่นำเข้า มีราคาขายถูกกว่าเหล็กรีดร้อนของไทยด้วยซํ้า

ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กำลังจะขึ้นภาษีเหล็กนำเข้าจากเวียดนามกว่า 400% เพราะจับได้ว่ามีบริษัทเหล็กจาก เกาหลีใต้ และ ไต้หวัน ส่งเหล็กไปแปรรูปที่เวียดนามเพียงเล็กน้อย แล้วใช้บริษัทเวียดนามส่งออกไปยังสหรัฐฯอีกทอด เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีทุ่มตลาดของสหรัฐฯ ข้อมูลที่สหรัฐฯใช้เป็นหลักฐานคือ เดือนเมษายนที่ผ่านมา มีการนำเข้าเหล็กรีดเย็นจากเวียดนามเพิ่มขึ้น 916% เหล็กกล้าที่ทนต่อการกัดกร่อนเพิ่มขึ้น 332% เทียบกับการนำเข้าในปี 2018 เห็นไหมครับว่า สหรัฐฯปกป้องอุตสาหกรรมของเขาอย่างไร

ประเด็นสำคัญที่ผมอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี คิดเป็นการบ้านด้วยความรักชาติบ้านเมืองก็คือ ในยามที่เศรษฐกิจไทยตกตํ่าขนาดนี้ รัฐบาลต้องอัดฉีดเงิน 3 แสนกว่าล้านบาทแจกประชาชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ทำไมรัฐบาลจึงไม่กล้าออกมาปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ จากการทุ่มตลาดของจีน ความจริง อุตสาหกรรมเหล็ก ถือเป็น อุตสาหกรรมขั้นพื้นฐานของประเทศ เมกะโปรเจกต์ต่างๆที่รัฐบาลทุ่มไปหลายล้านล้านบาท ต้องใช้เหล็กจำนวนมาก ทำไมไม่ใช้เหล็กในประเทศกลับไปใช้เหล็กจีน

อย่าง รถไฟความเร็วสูงไทยจีน ก็ควรจะใช้เหล็กและรางรถไฟที่ผลิตในประเทศไทย ถ้าจีนจะอ้างว่าไม่ได้มาตรฐาน ก็ให้จีนถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตรางมาตรฐานให้ไทยซีครับ ไม่เห็นยากตรงไหน แทนที่จะต้องซื้อเขาตลอดไป

หลายปีที่ผ่านมา รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ พูดมาตลอด จะให้บริษัทต่างชาติที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนยกเว้นภาษี ต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีให้คนไทย ผมคิดว่า โอกาสมาถึงแล้ว เช่น รถไฟความเร็วสูง หรือ โรงงานไฮเทคใน EEC ควรตั้งเงื่อนไข ให้ใช้ Local Content ชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ผลิตในไทยขั้นตํ่า 30% ไทยจะได้เจริญจริงๆเสียที.

“ลม เปลี่ยนทิศ”