วันเสาร์สบายๆ วันนี้ทำจิตใจให้ผ่อนคลายรับรัฐบาลใหม่ ผมชวนท่านผู้อ่านไปดูโลกกว้าง ดูความก้าวหน้าของประเทศเพื่อนบ้าน “เวียดนาม” ที่กำลังเป็น “คู่แข่ง” ไทยทุกเรื่อง บ้านเมืองและเศรษฐกิจเวียดนามพังพินาศเพราะสงครามเวียดนามมาหลายสิบปี แต่หลังสงครามสงบ รัฐบาลเวียดนามใช้เวลาเพียง 20 กว่าปี ก็ผงาดขึ้นมาเป็นคู่แข่งของประเทศไทย กำลังจะแซงหน้าประเทศไทยไปหลายเรื่อง การลงทุนจากต่างประเทศ การท่องเที่ยว ที่เวียดนาม กำลังเป็นดาวรุ่ง ในย่านอินโดจีน

วันก่อนผมเล่าเรื่องไปเที่ยว เมืองดานัง เมืองท่องเที่ยวชายทะเลใหม่ของเวียดนาม ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว มีหมู่บ้านฝรั่งเศส บนยอดเขาบานาฮิลล์ ชายหาดทะเลจีนใต้อันยาวเหยียด เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ

วารสาร การเงินธนาคาร ฉบับกรกฎาคม รายงานในคอลัมน์ เวิลด์ เอกซ์คลูซีฟ ว่าเวียดนามกับเกาหลีใต้ กำลังกลายเป็น “คู่จิ้นแห่งเอเชีย” โดย เวียดนามเป็นตลาดส่งออกอันดับ 3 ของเกาหลีใต้ คาดว่าปีหน้า 2020 เวียดนามจะขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 และบริษัทเกาหลีใต้ก็ไปลงทุนในเวียดนามมากเป็นอันดับ 1 เพื่อส่งออกไปทั่วโลก เช่น ซัมซุง แอลจี มีการลงทุนในเวียดนามกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ 310,000 ล้านบาท ผลิตสมาร์ทโฟนออกขายทั่วโลกปีละกว่า 150 ล้านเครื่อง

ข้อมูล วารสารการเงินธนาคาร สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของ คุณสิริเกศอนงค์ ไตรรัตนทรงพล ผู้อำนวยการท่องเที่ยวสำนักงานโซลที่กล่าวว่า ททท.ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อประคับประคอง นักท่องเที่ยวเกาหลี ให้เดินทางมาเที่ยวไทยตามเป้าหมาย แทนการไปเที่ยวเวียดนาม 6 เดือนแรกปีนี้นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ไปเที่ยวเวียดนามแล้วกว่า 2 ล้านคน จากปี 61 ที่ไปเที่ยวเวียดนามกว่า 3.4 ล้านคน แต่มาเที่ยวไทยเพียง 1.8 ล้านคน

...

คุณสิริเกศอนงค์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดท่องเที่ยวเกาหลีใต้ เรียกได้ว่า เข้าสู่ภาวะวิกฤติ โดย เส้นทางบินจากเกาหลีใต้มาไทยมีเพียง 6 เส้นทาง แต่ บินไปเวียดนามมีถึง 13 เส้นทาง และ ความถี่ของสายการบินที่มาไทยมีเพียง 200 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ แต่ไปเวียดนามถึง 500 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ มากกว่ามาไทยกว่าสองเท่าตัว

คุณธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ซีอีโอ โรงแรมและรีสอร์ตเครือเซ็นทารา หนึ่งในโรงแรมไทยที่ไปลงทุนสร้าง โรงแรมเซ็นทารา แซนดี้ บีช รีสอร์ท ดานัง ที่ เมืองดานัง ก็เปิดเผยว่า เวียดนาม กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก เครือเซ็นทาราตั้งเป้าจะเปิดโรงแรมและรีสอร์ตใหม่ในเวียดนามอย่างน้อย 20 แห่ง ภายในปี 2567 อีก 5 ปีข้างหน้า ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวและเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น โฮจิมินห์ซิตี้ ฮานอย ไฮฟอง ดานัง เกาะฟูโกว๊ก ญาจาง กามชัญ ฮอยอัน หวงเต่า โฮทรัม หมูยแน้ เป็นต้น

คุณธีระยุทธ บอกว่า ปี 61 ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเยือนเวียดนาม 15.5 ล้านคน (ยังห่างไกลจากไทยเยอะ) ส่วนใหญ่มาจากภูมิภาคเอเชีย จากข้อมูล การท่องเที่ยวเวียดนาม ช่วง 4 เดือนแรกปีนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเที่ยวเวียดนามเกือบ 6 ล้านคน และข้อมูลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวล่าสุดเปิดเผยว่า กำลังมีการสร้างห้องพักโรงแรมมากกว่า 23,000 ห้องในเวียดนาม

การที่เวียดนามมีการพัฒนาที่รวดเร็ว เช่น อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ก็เพราะรัฐบาลเวียดนามมีการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศที่ชัดเจนเป็นระบบ ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับอำนาจรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงเหมือนประเทศไทย ช่วงที่ผ่านมา เวียดนามเน้นการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมและการค้า จนประสบความสำเร็จ มีคู่ค้าใหญ่อย่าง สหรัฐฯ ยุโรป เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น ช่วงนี้รัฐบาลเวียดนามจึงหันมา ส่งเสริมธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศให้เป็นระเบียบ ไม่เละแบบเมืองไทยที่มีโรงแรมเถื่อนเป็นแสนโรงแรม มีไกด์เถื่อนทุกที่ โดยไม่มีการควบคุมดูแล

ก็เก็บมาเล่าสู่กันฟังครับ เปิดหูเปิดตารัฐบาล ให้ตระหนักว่าประเทศจะดีหรือไม่ดี อยู่ที่ “พฤติกรรมรัฐบาล” ที่ ต้องคิดดีต่อประเทศ และบริหารประเทศให้ถูกต้อง.

“ลม เปลี่ยนทิศ”