กรณีหวยบนดิน เพื่อแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือลอตเตอรี่เกินราคา และหวยใต้ดิน ถูกจุดพลุขึ้นอีกครั้ง เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เป็นประธาน ได้มีมติตั้งคณะทำงานศึกษาความเหมาะสมและรูปแบบการออกสลากรูปแบบใหม่
โดยคณะทำงานชุดที่ตั้งขึ้นจะศึกษารูปแบบผลิตภัณฑ์สลากต่างๆ ทั้งสลาก 2 ตัว 3 ตัว และ 4 ตัว 5 ตัว การขายสลากผ่านระบบออนไลน์ แอปพลิเคชัน ลอตโต้ รวมถึงการออกสลากแบบไม่ใช่ตัวเลข อาจเป็นรูปภาพหรือตัวหนังสือ เช่น น้ำเต้า ปู ปลา หากมีรูปภาพเหมือนกัน จะถูกรางวัล รวมทั้งอาจมีเงินรางวัลแจ็กพอตด้วย
แนวคิดของสำนักงานสลากกินแบ่งฯดังกล่าว ถึงแม้จะต้องรอบทสรุปวันที่ 24 ก.ค.ที่คณะทำงานจะสรุปผลการศึกษาต่อคณะกรรมการฯ แต่วันนี้กลายเป็นการเปิดประเด็นให้มีการวิพากษ์ วิจารณ์ถกเถียงกันกว้างขวาง โดยฝ่ายสนับสนุนเห็นว่า เป็นการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคาและปัญหาหวยใต้ดินได้อย่างถูกจุด
ที่สำคัญคือ หยิบยกเหตุผลเรื่องความนิยมในการเสี่ยงโชคเสี่ยงดวงของคนไทยมาสนับสนุนแนวทางการนำเงินจากธุรกิจสีเทาจากหวยใต้ดินขึ้นสู่บนดิน เป็นช่องทางนำรายได้จากหวยใต้ดิน เงินนอกระบบปีละหลายแสนล้านบาทมาใช้ในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะโครงการสวัสดิการสังคมต่างๆเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย
ขณะที่ฝ่ายคัดค้านต่อต้าน อ้างความเป็นสังคมเมืองพุทธของประเทศไทย ไม่ควรสนับสนุนอบายมุข การละเมิดศีลธรรม การมอมเมาประชาชน เยาวชน เกรงว่าจะมีผลกระทบด้านสังคมตามมา รวมถึงมองเป็นความพยายามหาช่องเพิ่มรายได้ให้รัฐบาล เพื่อนำไปใช้จ่ายในโครงการต่างๆที่เริ่มมีปัญหาด้านงบประมาณ
กระทั่งมองแนวคิดออกสลากรูปแบบใหม่ เป็นการฟื้นแนวคิดหวยบนดินของรัฐบาลไทยรักไทย ที่ทำให้อดีตนายกฯถูกดำเนินคดี แต่รัฐบาลชุดใหม่แก้ไขกฎหมายให้ถูกต้อง แล้วลอกเลียนรูปแบบมาดำเนินการเอง โดยเฉพาะการขายหวยออนไลน์ หวยลอตโต้ผ่านตู้ออกสลาก ที่ยังมีคดีค้างคาอยู่ในชั้นศาลปกครอง
...
สรุปว่าเรื่องนี้มีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้าน จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะโยนเรื่องให้ไปศึกษาประชาพิจารณ์ พิจารณาข้อดีข้อเสียอีกครั้ง เพียงแต่ว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องมีบทสรุปให้ชัด เพราะมีการศึกษากันมาหลายรอบแล้ว สุดท้ายจะเดินหน้าแนวคิดนี้หรือไม่ รัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจ.