นิทานเรื่อง เม็ดม่วงเล็ดล่อ ชื่อสะดุดหูคนภาคกลาง แต่คนภาคใต้รู้ทันทีเม็ดอะไร ผมอ่านเจอในสารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ (สถาบันทักษิณคดีศึกษา พิมพ์เมื่อปี พ.ศ.2529)
ผู้เล่า นายตุ้ย สงัดศรี คนตำบลวังไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เล่าไว้ตอนอายุ 42 ปี (พ.ศ.2524)
สารานุกรมฉบับนี้ มีเรื่องเรียงตามลำดับตัวอักษรครับ ไม่มีสารบัญ อ่านเจอแล้ว อยากอ่านอีกครั้ง ต้องค้นกันเหนื่อย...ไหนๆก็เจอแล้ว ก็ขอเอามาเล่าต่อ เพื่อให้จดจำไปเล่าขานต่อๆกันไป
ครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว สมัยที่ต้นไม้และสัตว์สื่อสารกันรู้เรื่อง เรไรกับจักจั่น ซึ่งต่างก็ส่งเสียงร้องสนั่นป่าทั้งวันทั้งคืน เกิดสงสัยว่า ใครจะร้องเสียงไพเราะกว่ากัน
สัตว์ทั้งหลาย ยกมือให้กระจ้อน ทำหน้าที่เป็นกรรมการตัดสิน
(กระจ้อน สัตว์จำพวกเดียวกับกระรอก มีลายสีดำและน้ำตาลอ่อนตามยาวข้างๆตัว หางเป็นพวง วิ่งหากินตามพื้นดิน)
ป่าทั้งป่าเงียบสงัด ทันทีที่กระจ้อนให้สัญญาณ เรไรและจักจั่น ต่างก็ตั้งใจขับขาน เร่งเสียงหรี่เสียงประสานกันโดยไม่ตั้งใจ
กลายเป็นบทเพลงที่ไพเราะ อย่างที่สิ่งมีชีวิตในป่านั้นไม่เคยฟังมาก่อน
ไม่มีสัตว์และต้นไม้ ผลไม้ที่ไม่ได้ยินเสียงเพลงนี้ ไม่เว้น ต้นมะม่วงต้นหนึ่งซึ่งกำลังมีผลออกเต็มต้น ที่อยู่ใกล้ๆ
ความไพเราะของวงเพลงประสานเสียงจักจั่นเรไร ดึงดูดให้เมล็ดในผลมะม่วง ที่ฟังอยู่กลางเนื้อใน ทนไม่ไหวชำแรกออกมานอกเนื้อ เพื่อฟังเพลงบทนี้ให้เต็มที่
ยังไม่มีสัตว์และพืชผลต้นไม้ใด ลงคะแนนให้ฝ่ายไหน แต่ฝ่ายเรไรเกิดถอดใจ หยุดร้องไปก่อน ขณะจักจั่นยังร้องต่อ กระจ้อน จึงตัดสินให้ฝ่ายจักจั่นชนะ
บทเพลงแห่งป่าจบลง สัตว์และต้นไม้ ต่างก็มีเวลานิดเดียวรีบกลับที่เดิม เว้นแต่มะม่วงต้นนั้น กำลังฟังเพลินๆ พอรู้ว่าเรไรแพ้ก็ขำ ทุกเมล็ดที่ชำแรกออกนอกเนื้อมาฟังเพลง หัวเราะกันใหญ่
...
ผลที่ตามมา เมื่อเวลาที่ผลไม้จะคืนสถานะเดิมหมดไป เมล็ดมะม่วงเส้นตื้น กลับเข้าเนื้อในไม่ทัน
นายตุ้ย สงัดศรี คนเล่านิทาน จบเรื่องด้วยประโยคว่า “(เมล็ดมะม่วง) จึงล่อออกมาจนบัดนี้”
เมื่อเมล็ดคาอยู่นอกผลมะม่วง ต้นมะม่วงต้นนั้นจึงเป็นพันธุ์ที่แตกต่างจากมะม่วงทั่วๆไป คนชุมพรเรียก “ม่วงเล็ดล่อ” บางท้องถิ่น ไปถึงพังงา กระบี่ เรียกว่า ม่วงท้ายล่อ
เมล็ดมะม่วงพันธุ์นี้ คนภาคใต้เรียก “ลูกกาหยี” คุ้นเคยกันดี เป็นของฝากรสชาติหวานมันถึงใจ
ส่วนต้นรู้จักกันทุกภาค ในชื่อ มะม่วงหิมพานต์ ซึ่งที่จริงก็ไม่ได้มาไกลจากฟากฟ้าป่าหิมพานต์ แถวๆเชิงเขาหิมาลัย มาจากปักษ์ใต้ของเรานี่เอง
จบนิทานเรื่องเม็ดม่วงเล็ดล่อ...แค่นี้ ผมไม่มีเจตนาจะเอาไปข้องแวะกับการเมืองภาคใต้...ซึ่งแต่เดิมพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีคุณชวน หลีกภัย เป็นที่ปรึกษาใหญ่ แต่ไหนแต่ไร ทุกครั้งที่มีเลือกตั้งก็กวาดคะแนนไปเกือบหมด
แต่คราวนี้ พรรคพี่ชวนเกิดปัญหาตรงที่มีพรรคกำนันเทพ หัวเรือใหญ่ประชาธิปัตย์เดิมๆอีกคน เป็นคู่แข่ง เรื่องจึงพอเอาไปเข้าเค้ากับเจ้าจักจั่น เรไร เกิดอยากร้องเพลงแข่งกัน
ผลแพ้ชนะคราวนี้ ไม่มีเรื่องพิสดาร แบบต้นมะม่วง กลายพันธุ์ เป็นเม็ดม่วงเล็ดล่อ
เพราะคุณลูกหมี ขวัญใจคนชุมพร ถอยกลับมาปักหลักพรรคประชาธิปัตย์พรรคเดิม เรียบร้อย
ฝ่ายตรงข้าม ที่กลั้นใจลุ้นให้ประชาธิปัตย์แตกคอกันเอง...รอโอกาสเสียบแทนเสาไฟฟ้า ก็คงผิดหวัง
คาถาหลวงพ่อชวน ยังขลัง เป่ากระหม่อมไปที่ไหน ไม่มีใครกล้าหือ!
กิเลน ประลองเชิง