วันเสาร์แรกของปีใหม่ 2562 วันนี้ ผมขอชวนท่านผู้อ่านล่องใต้ไปดู “พายุโซนร้อนปาบึก” (PABUK) ด้วยความเป็นห่วงกันนะครับ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 12 เมื่อบ่ายวันพฤหัสบดี เตือนว่า พายุโซนร้อนปาบึก จะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งที่ นครศรีธรรมราช ช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 4 มกราคม โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3–5 มกราคม ช่วงวันที่ 4–5 มกราคม บริเวณภาคใต้จะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และจะมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงใน จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล โดนกันหมดทุกจังหวัดภาคใต้

นับตั้งแต่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ภาคใต้ไม่เคยว่างเว้นจากฝนและพายุเลย

การที่ พายุโซนร้อนปาบึก ขึ้นฝั่งที่ นครศรีธรรมราช เป็นการ เปลี่ยนจากทิศทางเดิม ที่คาดว่าพายุจะเคลื่อนจากทะเลจีนใต้ผ่าน เกาะสมุย อ.ดอนสัก สุราษฎร์ธานี รอยต่อกับ จังหวัดชุมพร แต่ล่าสุดได้เคลื่อนตัวต่ำลง ทำให้เกาะสมุยได้รับผลกระทบน้อยลง โดยได้รับผลกระทบทางด้านขวาของเกาะ ศูนย์กลางพายุมีความเร็ว 65 กม.ต่อชั่วโมง จะเคลื่อนไปขึ้นฝั่งที่ นครศรีธรรมราช ที่ อ.หัวไทร อ.ปากพนัง ตามแบบจำลองการพยากรณ์ของญี่ปุ่น แล้ววิ่งตัดลึกเข้าไปในแผ่นดิน (พยากรณ์ญี่ปุ่นแม่นยำมาก)

อ.หัวไทร และ อ.ปากพนัง อยู่ติดทะเลอ่าวไทยตรงที่พายุโซนร้อนปาบึกขึ้นบกพอดี ผมดูจากแผนที่จังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว ถ้าพายุเข้าทางนี้และวิ่งลึกเข้าไปในแผ่นดิน จะมีอำเภอที่โดนพายุถล่มอีกมากทีเดียว รวมทั้ง สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา ภูเก็ต โดนเต็มๆ

พายุโซนร้อนปาบึก ที่พัดถล่ม นครศรีธรรมราช ลูกนี้ ถือเป็น พายุลูกที่ 3 ในรอบ 57 ปี ที่พัดถล่มภาคใต้ เมื่อปี 2505 พายุโซนร้อนแฮเรียต ได้พัดถล่ม “แหลมตะลุมพุก” อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช สร้างความเสียหายอย่างมาก จนคนไทยจำชื่อ “แหลมตะลุมพุก” ได้อย่างแม่นยำจนถึงทุกวันนี้ แหลมตะลุมพุกเป็นแหลมเล็กๆ ใน อ.ปากพนัง ที่ยื่นลงไปในทะเลอ่าวไทย

...

ถัดมาอีก 27 ปี วันที่ 4 พฤศจิกายน 2532 เวลา 08.30 น. พายุไต้ฝุ่นเกย์ ได้เคลื่อนตัวเข้ากลุ่มภาคใต้ตอนบนด้วย ความเร็วลม 185 กม.ต่อชั่วโมง เป็นพายุไต้ฝุ่นที่ มีความแรงอันดับ 3 พัดเข้าถล่ม อ.เมือง อ.บางสะพานน้อย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ.ท่าแซะ อ.ปะทิว จ.ชุมพร สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลในสองจังหวัด มีประชาชนเสียชีวิตกว่า 1,000 ราย บ้านเรือนเสียหายกว่า 38,000 หลัง ประชาชนเดือดร้อนกว่า 150,000 คน พื้นที่เกษตรเสียหายกว่า 80 ล้านไร่ สัตว์เลี้ยงตายกว่า 83,000 ตัว

รัฐบาลได้ประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น เสียหายมากกว่า 11,257 ล้านบาท ถนนหนทางเสียหายเกือบ 600 เส้นทาง สะพานพังกว่า 130 แห่ง ทำนบและฝายอีก 49 แห่ง รัฐบาลสมัยนั้นและรัฐบาลต่อมา ได้ตั้งงบประมาณช่วยเหลือเยียวยาประชาชนมากมาย แต่ไปไม่ถึงประชาชนเต็มเม็ดเต็มหน่วย ตลอดเส้นทางช่วยเหลือเต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชันมากมาย จนถึงวันนี้ผ่านมา 30 ปีพอดี ก็ยังมีเงินช่วยเหลือส่วนหนึ่งหายไป ไปไม่ถึงมือประชาชนผู้เดือดร้อน และผู้เดือดร้อนส่วนใหญ่เสียชีวิตไปเสียก่อน เลยจับมือใครดมไม่ได้

การรับมือกับ พายุโซนร้อนปาบึก ที่รุนแรงน้อยกว่า พายุไต้ฝุ่นเกย์ เยอะ รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมล่วงหน้ามาหลายวันแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้ประชุมทางวิดีโอกับผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว รวมทั้งมีการอพยพประชาชนบางส่วน ผมก็หวังว่าจะช่วยบรรเทาความเสียหายให้น้อยลง เมื่อเทียบกับ 30 ปีก่อน ที่สำคัญคือการช่วยเหลือ เยียวยาผู้เสียหายต้องรวดเร็วทันที อย่าให้มี “การทุจริตคอร์รัปชัน” เหมือน พายุเกย์

ช่วงนี้ใกล้วันเลือกตั้งเสียด้วย มีแผลเมื่อไหร่ สอบตกแน่นอน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”