สั่นสะเทือนไปทั้งวงการเมือง หลายพรรคดาหน้าออกมาโวยวายกันโดยถ้วนหน้า หลังจากที่มีข่าวลือส่งท้ายปีเก่าแพร่สะพัด อาจต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก เนื่องจากพิมพ์บัตรเลือกตั้งไม่ทัน เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมายืนยันว่า การกำหนดวันเลือกตั้งเป็นดุลพินิจของ กกต. แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวันเลือกตั้ง จะเลื่อนได้อย่างไร
เลขาธิการ กกต.ชี้แจงว่า จะประกาศกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 5 วัน หลังการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ฝ่ายรัฐบาลเคยคาดว่าจะประกาศพระราชกฤษฎีกาฯ ในวันที่ 2 มกราคม 2562 ส่วนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ทั้งคนไทยและต่างชาติเข้าใจว่าจะเป็นวันเลือกตั้ง แต่ กกต.อ้างว่าเป็นแค่ข้อเสนอเป็นตุ๊กตา และอาจเลื่อนเลือกตั้งได้ถึงเดือนพฤษภาคม
การเลือกตั้งที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีก เลื่อนจากปี 2559 เป็น 2560 และ 2561 สั่นคลอนความเชื่อมั่นของคนไทยและประชาคมโลก ทำลายความหวังของคนไทย ที่เคยเคลิบเคลิ้มไปกับบทเพลงของ คสช. ในช่วงแรกๆของการยึดอำนาจเมื่อปี 2557 ที่ว่า “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แผ่นดินจะดีในไม่ช้า ขอคืนความสุขให้เธอ ประชาชน”
คสช.“ขอเวลาอีกไม่นาน” จะคืนความสุขให้คนไทย “เวลาไม่นาน” ผ่านมาจะครบ 5 ปีในเดือนพฤษภาคมนี้ คนไทยต้องถามตัวเองว่าได้รับ “ความสุข” หรือยัง แต่เชื่อว่าจะมีคนเป็นอันมากต้องการให้ คสช. “คืนอำนาจ” ให้ด้วย หัวหน้า คสช.บอกนักข่าวว่า การที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี “ไม่เสียของ” แต่อาจมีคนเป็นอันมากที่ถือว่า “เสียของ”
คนส่วนใหญ่หวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นโอกาสอันสำคัญยิ่งที่คนไทยจะได้อำนาจกลับคืนมา หลังจากถูกยึดไปนานเกือบ 5 ปี ประชาชนต้องสูญเสียสิทธิเสรีภาพหลายประการ รวมทั้งเสรีภาพในการพูด การแสดงความคิดเห็น การชุมนุม การมีส่วนร่วมในการเลือกผู้แทนราษฎร ซึ่งจะเป็นตัวแทนในการเลือกนายกรัฐมนตรีเพื่อจัดตั้งรัฐบาล
...
แม้การเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ จะไม่ใช่การคืนอำนาจทั้งหมดให้แก่ประชาชน เพราะคืนแต่เพียงอำนาจในการเลือกตั้ง ส.ส. 500 คน แต่ คสช.ยังคุมอำนาจในการแต่งตั้ง ส.ว. 250 คน ซึ่งมีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรีเท่ากับ ส.ส. แต่คนส่วนใหญ่ก็ยอมรับ ขอแต่เพียงว่าให้เป็นการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม ไม่มีการใช้อำนาจรัฐ และทรัพยากรรัฐเอื้อการเลือกตั้ง
แม้จะได้อำนาจกลับคืนมาไม่เต็มใบ การปกครองประเทศต่อจากนี้อาจเป็นแบบประชาธิปไตยครึ่งใบ ถอยหลังกลับไปถึง 40 ปี แต่ก็ยังหวังว่าการเลือกตั้ง จะนำไปสู่การแก้ปัญหาใหญ่ๆของประเทศ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชน รายได้ประชาชนระดับฐานราก ความเหลื่อมล้ำอันดับต้นๆของโลก ขจัดการทุจริตคอร์รัปชันและความยากจน.