ยักษ์ในนิทานอาหรับราตรี ตอบแทนคุณอาละดิน ช่วยให้ ออกจากตะเกียง ด้วยการให้ขอพรวิเศษได้สามข้อ...อ่านกันตั้งแต่รุ่นปู่ ถึงรุ่นหลานเหลน
แต่ยักษ์ตนเดียวกัน ในตะเกียงวิเศษเหมือนกัน ที่ ผศ.ดร.วิรณัฐ โรจนประภา เล่าไว้ในหนังสือ คิดใหม่ สู่จิตเศรษฐี (สาละพิมพการ พิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ.2560) ให้อาละดินขอพรได้ไม่จำกัด
แต่มีข้อแม้...เมื่อยักษ์เนรมิตให้แล้ว อาละดินจะต้องขอพรข้อต่อไป หากไม่สามารถขอพรต่อได้
ยักษ์จะกินอาละดิน
เงื่อนไขนี้ ฟังดูเผินๆน่าจะดี ยิ่งถ้าเป็นคนใจร้อนด่วนได้ไม่ตรองให้รอบคอบ รีบโดดตะครุบ วันไหนคิดขอพรข้อต่อไปไม่ทัน ก็ตาย
อย่าลืม ยักษ์ตนนี้เป็นยักษ์วิเศษ เสกทุกสิ่งได้ทันใจ จะเอาอะไร เอาของ เอาเมือง จะไปที่ไหน สั่งปุ๊บยักษ์ทำให้เสร็จปั๊บ
หยุด...คิดต่อสักนิด ผู้ขอพรแทบจะไม่มีเวลาได้เสพสุขจากพรข้อที่ขอ เพราะจะต้องนึกแล้วสั่งต่อ ไม่อยากตายต้องหาเรื่องสั่งต่อไปเรื่อยๆ และเรื่อยๆ
ดร.วิรณัฐชอบพล็อตเรื่องอาละดินพล็อตนี้มาก เพราะสะท้อนภาพชีวิตคนเราจริงๆได้ชัด
ยักษ์ในตะเกียงวิเศษ แท้จริงแล้วก็คือ “ความคิด” ของเรานี่เอง
ยักษ์วิเศษอย่างไร เนรมิตพรได้ทันใจแค่ไหน ความคิดมนุษย์ก็เลิศไม่แพ้กัน ดลบันดาลสรรพสิ่งให้ได้ดังหวัง
อยากร่ำรวยก็ใช้ความคิด คิดหาลู่ทางการลงทุน อยากสำเร็จก็ใช้ความคิด คิดวางแผนกลยุทธ์ ทั้งยังไม่ต่างจากยักษ์ คือต้องคอยหางานให้ทำ
ไม่เช่นนั้นยักษ์ หรือความคิดนี้ ก็จะทำร้ายเราเอาถึงตาย
ลองนึกดู จริงไหม เราถูกความคิดคอยบงการ คอยไสหัวไปทำโน่นทำนี่อยู่ตลอด ไม่เคยที่จะว่างเว้น
ทั้งเมื่อใดที่หยุด ก็เหมือนจะตายกันจริงๆ
วิธีที่จะรอดจากยักษ์ตนนี้ มีทางเดียว ต้องหางานที่สั่งครั้งเดียวแล้วยักษ์สามารถทำได้โดยไม่หยุด
...
ในนิทาน (แปลง) อาละดินฉลาดพอ ที่จะสั่งให้ยักษ์ปีนต้นไม้ใหญ่ ให้ขึ้นแล้วลง ลงแล้วก็ขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อใดที่อาละดินต้องการ ก็สั่งให้ยักษ์หยุดแล้วขอพร ขอแล้ว ก็ให้ยักษ์ปีนต้นไม้ต่อ
ดร.วิรณัฐเอาเรื่องยักษ์มาเปรียบจิตเราเอง หากเราไม่อยากตายก็ต้องหางานให้จิตทำ
งานที่ให้จิตทำ ก็คือตามรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่งไปเรื่อยๆ อย่างเช่นตามรู้ลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ ตามรู้การเคลื่อนไหวของร่างกายไปเรื่อยๆ
จะใช้จิตเมื่อไรก็ค่อยหยุด
แล้วค่อยสั่งให้จิตคิดทำสิ่งนั้นๆ คิดเสร็จแล้วก็มารู้ลมหายใจ รู้กายต่อ
ทำได้เช่นนี้ ก็เท่ากับเราเป็นนายของยักษ์อย่างแท้จริง มีพรอันไม่จำกัดให้เราได้ใช้ตลอดไป เนรมิตประโยชน์ใหญ่ให้เราไม่รู้จบ
ผมอ่านนิทานเรื่องอาละดิน กับตะเกียงวิเศษ ฉบับนี้แล้วนับถือ ผศ.ดร.วิรณัฐมากขึ้น จากพื้นฐานความรู้จักเดิม เคยไปร่วมกิจกรรม ไปกินอาหารมังสวิรัติ ที่บ้านอารีย์ไม่กี่ครั้ง
ขอบคุณซ้อ เจ้าของตึกร้านกาแฟ ใต้สถานีรถไฟฟ้าสะพานควาย ที่ยื่นหนังสือให้ ซ้ออาจไม่รู้ว่า สำหรับบางคน ธรรมทานคือของขวัญล้ำค่า
จะเป็นประโยชน์ยิ่งขึ้น หากได้ส่งไปให้นักการเมืองอ่าน...อ่านแล้วเผื่อพวกเขาจะรู้ว่า งานของยักษ์ขึ้นๆลงๆต้นไม้... ก็คืองานที่พวกเขาอาสาเข้ามาแย่งกันทำ.
กิเลน ประลองเชิง