ใครได้แวะไปชมการสาธิตเทคโนโลยี 5G ก็คงทึ่งกับเทคโนโลยีสุดล้ำไปตามๆกัน และคงเร่งวันเร่งคืนอยากให้เมืองไทยมี 5G เร็วๆ เพราะเป็น Digital Transformation เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาประเทศ ช่วยยกระดับอุตสาหกรรม และทำให้ชีวิตความเป็นอยู่สะดวกสบายขึ้น

เมื่อเปรียบเทียบการใช้งานระหว่าง 5G กับ 4G จะพบว่าความเร็วของ 5G เหนือกว่าประมาณ 20 เท่า ความจุมีขนาดใหญ่กว่าประมาณ 100 เท่า และ ความหน่วงหรืออาการสะดุดน้อยกว่า 10 เท่า ใครอยากสัมผัสความแตกต่างก็ไปชมการสาธิต 5G ได้ ซึ่งค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ได้รับอนุญาตจาก กสทช.ให้จัดแสดงเทคโนโลยี 5G กันแล้ว โดยค่ายเอไอเอสจัดแสดงที่ AIS DC ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ไปจนถึงวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ส่วนทรูกับดีแทคก็คงจะตามมาติดๆ ทุกค่ายจะขนเทคโนโลยีล้ำสมัยมาโชว์เต็มที่ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะก้าวสู่ยุค 5G

เทคโนโลยีที่เอไอเอสนำมาแสดงเช่น หุ่นยนต์ หรือ แขนกล ที่ใช้ในกระบวนการผลิต ควบคุมผ่านอินเตอร์เน็ต 5G และการถ่ายทอดสดผ่าน Virtual Reality (VR) ที่ให้ความคมชัดเสมือนจริงมองได้รอบด้าน 360 องศา และยังสามารถโต้ตอบกับเราได้ ไม่ใช่แค่เพียงรับชมอย่างเดียว

มีหลายประเทศได้นำเทคโนโลยี 5G มาทดลองให้บริการแล้วอาทิ โดรนส่งของ Connected Drone ที่ใช้ส่งพัสดุ อาหาร หรือแม้กระทั่งเครื่องมือช่วยชีวิตกรณีเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน รถยนต์ไร้คนขับ Connected Car ที่จะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ด้วยระบบ Electronic Emergency Brake Light (EEBL) สื่อสารระหว่างรถยนต์ด้วยกันเพื่อเตือนกรณีรถข้างหน้าเบรกกะทันหัน แต่คนขับรถที่ตามมาไม่สามารถมองเห็นไฟเบรกได้ชัดเจน และยังมีระบบ โรงงานอัจฉริยะ Connected Factory ซึ่งในต่างประเทศเริ่มเห็นการใช้งานเซ็นเซอร์เชื่อมโยงผ่าน 5G ตรวจสอบสถานะอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆในโรงงานว่าอยู่ที่ใด การใช้งานเกิดประโยชน์มากน้อยแค่ไหน

...

นับจากนี้เราจะได้ยินคนกล่าวถึง 5G มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีหน้าจะมีการตั้งศูนย์ทดสอบ 5G ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) อย่างไรก็ตาม ผมไม่แน่ใจว่าประเทศไทยจะได้ใช้ 5G เมื่อไหร่? ถึงแม้ สำนักงาน กสทช. ตั้งเป้า จะให้ประเทศไทยมี 5G ใช้ภายในเดือน ต.ค.2563 โดยเตรียมพร้อมเรื่องคลื่นความถี่ไว้รองรับอย่างดีแล้ว ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศผลักดัน ไทยแลนด์ 4.0 จะสร้าง สมาร์ทซิตี้ ที่กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต และ ทำไซเบอร์พอร์ต แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นตามแผนแน่หรือ?

ปัญหาใหญ่คือเม็ดเงินลงทุนของเอกชน ในปี 2563 ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ต้องชำระค่าคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ รวมเป็นเงิน 1.35 แสนล้านบาท ซึ่งคงทำให้หน้าตักร่อยหรอ เหลือไม่พอประมูลคลื่น 5G นั่นย่อมส่งผลกระทบถึงการลงทุนในด้านต่างๆต้องสะดุดลง

ถ้ารัฐบาลมีจุดยืนแน่วแน่จะผลักดันให้เกิด 5G ก็ควรวางแนวทางให้ชัดเจนว่าจะเดินหน้าอย่างไร วันนี้ผมอยากเสนอให้รัฐบาลพิจารณาขยายเวลาการชำระค่าคลื่น 4G ออกไปก่อน เพื่อต่อลมหายใจกับภาคเอกชนได้มีเงินทุนมาประมูล 5G และลงทุนสร้างโครงข่าย ซื้ออุปกรณ์รองรับ

วิธีนี้ไม่ได้ทำให้รัฐเสียประโยชน์ ถึงอย่างไรเงิน 1.35 แสนล้านบาทก็ยังต้องส่งเข้ารัฐอยู่ดี เพียงแต่ระหว่างนี้เปิดช่องให้เอาเงินไปเตรียมลงทุนผลักดันให้เกิด 5G ได้ตามเป้าหมายของภาครัฐ ในโลกยุคดิจิทัลที่เงินหมุนเร็ว การมี 5G จะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้มากกว่า ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ล้วนได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย

ถ้าวันนี้รัฐบาลยังละล้าละลังไม่กล้าตัดสินใจ พอถึงปี 2563 หลายประเทศทั่วโลกจะเริ่มต้นก้าวสู่ 5G เต็มตัว แต่ไทยจะกลายเป็นประเทศล้าหลังไปโดยปริยาย.

ลมกรด