ผ่านไปเรียบร้อยโรงเรียนประจำจังหวัดบุรีรัมย์แล้วนะครับ สำหรับการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” ครั้งแรกในประเทศไทย ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อศุกร์–เสาร์–อาทิตย์ ที่ผ่านมา

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยท่านปลัดกระทรวง พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ แถลงว่า จากการสำรวจขั้นต้นในช่วงระยะเวลา 3 วัน ผู้เข้าร่วมงาน 205,000 คน โดยเป็นคนไทยเสีย 153,750 คน คิดเป็นร้อยละ 75 และชาวต่างประเทศ 51,250 คน คิดเป็นร้อยละ 25

ในส่วนของคนไทยนั้น ท่านปลัดบอกว่าเป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ แค่ 10,250 คนเท่านั้น นอกนั้นจะมาจากจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศ

ทางด้านผู้ชมต่างชาติร้อยละ 25 ที่ว่า ส่วนใหญ่จะมีสัญชาติ ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ และอังกฤษ ตามลำดับ

คาดว่าการแข่งขันรถจักรยานยนต์โมโตจีพีครั้งนี้ สามารถสร้างรายได้รวมประมาณ 3,100 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ที่เกิดในจังหวัดบุรีรัมย์ 2,470 ล้านบาท และใกล้เคียง 630 ล้านบาท

ท่านยังบอกด้วยว่ามีผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยเป็นมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือจีดีพี เท่านั้นเท่านี้ล้านบาท ซึ่งผมขออนุญาตไม่จดมาลงต่อละครับ เดี๋ยวตัวเลขจะเยอะเกินไป

สุดท้ายท่านสรุปว่า การแข่งขันครั้งนี้ ผ่านสายตาผู้ชมทางโทรทัศน์จากทั่วโลก 800 ล้านคู่ และปีหน้าหากมีการเตรียมความพร้อมเพิ่มขึ้นเชื่อว่าประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการจัดการแข่งขันเพิ่มขึ้นกว่านี้

ผมก็ขออนุญาตนำตัวเลขบางส่วนมาเผยแพร่ เพราะถ้าลงทั้งหมดจะดูรุงรังเกินไปดังที่กล่าวไว้แล้ว แต่แม้จะลงเพียงเท่านี้ก็คงต้องฝากให้นำตัวเลขไปใช้ด้วยความรอบคอบระมัดระวังด้วย เพราะประเมินโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเอง ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าจะมีความช่ำชองในการเก็บตัวเลขมากน้อยเพียงไร?

...

แต่ที่ผมตรวจสอบให้แล้ว และน่าจะเชื่อถือได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็คือ ยอดเข้าชม 3 วันที่ว่า 205,000 คน ซึ่งผมถามน้องๆนักข่าวฝ่ายกีฬาของไทยรัฐที่ไปทำข่าวนี้ยืนยันว่าน่าจะเป็นไปตามนั้น

โดยเฉพาะวันสุดท้ายที่เป็นวันชิงแชมป์นั้นล้นยิ่งกว่าล้น จนอัฒจันทร์ไม่พอนั่ง หลามไหลออกมาข้างๆเต็มไปหมด

ขณะเดียวกัน ก็มีข้อมูลจากบริษัทดอร์น่าสปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์โมโตจีพี ทั้ง 19 สนาม ยืนยันว่ายอดเข้าชมที่บริษัทนี้นับได้ใน 3 วัน คือ 222,535 คน (มากกว่าของท่านปลัดถึง 2 หมื่นกว่าคน) เป็นยอดคนดูสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของการแข่งขันที่ผ่านไปแล้ว 15 สนามเลยทีเดียว

แซงอันดับ 2 ที่จัดแข่งที่ออสเตรีย ซึ่งมียอด 3 วัน 206,746 คน ไปเรียบร้อย

จากข้อมูลส่วนตัวของผมที่เก็บจากข่าวต่างประเทศหลายๆสำนักพบว่า กีฬาประเภทนี้ ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 14 ของกีฬาต่างๆทั่วโลก เป็นรองสนุ้กเกอร์, ว่ายน้ำ, มิกซ์มาร์เชียลอาร์ต และรักบี้

ได้รับความ นิยมมาก ในอิตาลีและสเปน นิยมกลางๆ ใน ฮอลแลนด์, แอฟริกาใต้, ซาอุฯ, ไทย นิยมอยู่บ้าง ในจีน, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, ไนจีเรีย, เคนยา นิยมน้อยมาก ในสหราชอาณาจักร, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, บราซิล, อินเดีย, ออสเตรเลีย, ตุรกี, อาร์เจนตินา

ผมเองโดยส่วนตัวไม่ขัดข้องอยู่แล้ว สำหรับการจัดกิจกรรมโปรโมตและกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศไทยผ่านการแข่งขันกีฬาประเภทนี้ และขอให้กำลังใจในการจัดต่อไป เพียงแต่ให้หาทางปรับปรุงการอำนวยความสะดวกต่างๆให้มากขึ้น

รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้แฟนต่างประเทศให้มาเยอะกว่านี้หน่อย เพราะผมยังมองว่าแม้การจัดการแข่งขันจะเป็นประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจบุรีรัมย์ และใกล้เคียง แต่ก็เป็นเงินกระตุ้นจากคนไทยเราเอง

จะดีกว่านี้เยอะเลยครับ ถ้าเราได้เงินกระตุ้นจากต่างประเทศใน สัดส่วนหรือเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้น

อีกอย่างหนึ่งผมว่าข่าวในประเทศเงียบไปหน่อยนะครับ ไม่ค่อยเห็นขึ้นหัวหน้า 1 กันเลย ทั้งๆที่บอกกันว่าเป็นงานระดับโลก...หน้าข่าวกีฬาเอง ยังไม่ใช่หัวยักษ์ด้วยซ้ำ เลยทำให้คนที่ไม่ได้ไปบุรีรัมย์รู้สึกว่าทำไมเหงาๆอย่างนี้หนอ

ฝากทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมทั้ง “น้องเน” เนวิน ชิดชอบ ราษฎรบุรีรัมย์เต็มขั้น เอาไว้ด้วยนะครับ สำหรับปีต่อไป.

“ซูม”