เปิดตัวและเปิดหน้าชกอย่างเต็มตัวแล้ว รัฐมนตรี 4 ท่านที่เข้าร่วมเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ในตำแหน่งสำคัญๆ มีทั้งหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และโฆษกพรรค แต่ไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลจะยอมรับหรือยัง ว่าท่านเป็นผู้นำพรรคการเมืองอย่างไม่เป็นทางการ และต้องปฏิบัติอย่างไรในช่วงเลือกตั้ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายอุตตม สาวนายน ประกาศว่า “ผมกับเพื่อนๆจะอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไป” แต่รับรองว่าจะไม่ใช้เวลาและทรัพยากรรัฐมาเอารัดเอาเปรียบคนอื่นอย่างแน่นอน พร้อมที่จะให้ตรวจสอบ เพราะยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง และขอพูดตรงนี้ว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม “พวกเราจะใส่หมวกใบเดียว” คือหมวกพลังประชารัฐ
ต้องถือว่าเป็นคำสัญญาที่น่าชื่นชม และควรจะถือเป็นหลักปฏิบัติของคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ รวมทั้งนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการใช้เวลาราชการ และใช้ทรัพยากรของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณแผ่นดิน และบุคลากรของรัฐหรือข้าราชการในการหาเสียงและเลือกตั้ง เรื่องนี้มีกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง บัญญัติห้ามใช้อำนาจรัฐชัดเจน
แต่เรื่องที่น่าเป็นห่วงก็คือ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายยืนยันว่า “ครม.ปัจจุบันถือเป็นรัฐบาลเต็มรูปแบบ” ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการเหมือนกับ ครม.ที่พ้นจากตำแหน่งเพราะการยุบสภา รัฐบาลนี้จึงมีอำนาจเต็ม ไม่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่ห้ามแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ห้ามอนุมัติโครงการใหม่ๆ และงบประมาณใหม่ๆในช่วงเลือกตั้ง
กฎหมายการเลือกตั้ง ถือว่าการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์การเลือกตั้งเป็นความผิดร้ายแรง เช่น ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย กระทำการใดๆ เพื่อให้เป็นคุณหรือเป็นโทษ แก่ผู้สมัครหรือพรรคใด กกต.มีอำนาจสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐยุติหรือระงับการกระทำนั้น ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 10 ปี เพิกถอนสิทธิ 10 ปี
...
คำว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” น่าจะรวมถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ แม้ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ แต่เป็นรัฐบาลเต็มรูปแบบและมีอำนาจเต็ม ไม่ต้องทำตามรัฐธรรมนูญที่ห้ามอนุมัติโครงการใหม่ๆ งบประ-มาณใหม่ๆ และแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการได้ แต่ก็จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้ง มิฉะนั้นจะกลายเป็นรัฐบาลอภิสิทธิ์ชนที่อยู่เหนือกฎหมาย
แม้รัฐบาลนี้จะไม่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ เหมือนกับประเพณีที่รัฐบาลก่อนๆยึดถือ และแม้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็น่าจะคำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล ที่มีหลักความโปร่งใส และความเป็นธรรมอยู่ด้วย หรืออย่างน้อยก็ยึดหลัก “ความถูกต้อง” ตามคำกล่าว ของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อย่าให้ถูกนินทาว่ารัฐบาลไม่ปฏิรูปการเมือง หรือว่า แบบนี้คือการปฏิรูปการเมืองใหม่.